Exclusive Talk ล้วงลึกผลงานผู้กำกับมือทองใน ‘เทศกาลภาพยนตร์ฮ่องกง 2024
กระทบไหล่ พูดคุยล้วงลึกกับ 3 ผู้กำกับมือทอง Nick Cheuk, Ho Miu-ki, Herman Yau ที่บินมาร่วมงาน ‘เทศกาลภาพยนตร์ฮ่องกง 2024’ ณ โรงภาพยนตร์ ‘House สามย่าน’ ระหว่างวันที่ 16-25 ส.ค. นี้
‘เทศกาลภาพยนตร์ฮ่องกง 2024’ ที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง ‘สถาบันภาพยนตร์เอเชีย’ และโรงภาพยนตร์ ‘House สามย่าน’ ถือเป็นเทศกาลภาพยนตร์คุณภาพที่ไม่ควรพลาด
เพราะนอกจากจะมีการคัดสรรหนังที่ได้รับรางวัล หนังที่ทำรายได้ถล่มทลาย หนังหลากแนวที่สะท้อนวิถีชีวิต วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวฮ่องกงมาให้คอหนังชาวไทยได้รับชมกันแล้ว บรรดาผู้กำกับ ตลอดจนนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่องที่อยู่ในโปรแกรมฉาย ยังให้เกียรติบินตรงมาพบปะพูดคุยกับคนดูอย่างใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 มีการจัดงานแถลงข่าวเปิดงาน Hong Kong Film Gala Presentation & Dynamic Cityscapes of Hong Kong Films อย่างเป็นทางการ ณ โรงภาพยนตร์ ‘House สามย่าน’ พร้อมฉายหนังเปิดเทศกาล 2 เรื่องได้แก่ ‘Twilight of the Warriors: Walled In’ หนังแอ็กชันทำเงินสูงสุดของฮ่องกงในปีนี้ และ ‘Customs Frontline’ อีกหนึ่งหนังแอ็กชันเรื่องดังแห่งปี โดยทีมนักแสดงและผู้กำกับชื่อดังทั้งจากฮ่องกงและประเทศไทยมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
ฃ
กรุงเทพธุรกิจมีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ 3 ผู้กำกับฮ่องกง ได้แก่ นิค เฉิก (Nick Cheuk) ผู้กำกับภาพยนตร์ Time Still turns the Pages, ห่อหมิวเข่ย (Ho Miu-ki) ผู้กำกับภาพยนตร์ Love Lies, เฮอร์มัน เหยา (Herman Yau) ผู้กำกับภาพยนตร์ Customs Frontline และ 2 นักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง ‘Twilight of the Warriors: Walled In’ ได้แก่ เคนนี หว่อง (Kenny Wong) และโยเซฟ คิว (Jozev Kiu) มาฝากดังนี้
‘Twilight of the Warriors: Walled In’
เคนนี หว่อง ให้ความเห็นถึงสาเหตุที่ ‘Twilight of the Warriors: Walled In’ กวาดรายได้ถล่มทลายว่ามาจากปัจจัยหลายอย่างรวมกัน ทั้งการโปรโมทที่ดี การทุ่มเทเป็นอย่างมากของนักแสดง ประกอบกับหนังบู๊ได้ห่างหากจากฮ่องกงไปนานจึงทำให้คนคิดถึง
ขณะที่ โยเซฟ คิว ผู้รับบท Double Blade นักดาบฝีมือดีในเรื่องเสริมว่าการที่ผู้ชมสูงวัยตีตั๋วเข้าโรงไปดูกันเป็นจำนวนมากก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง โดยเขาสังเกตว่าคนกลุ่มนี้จะเข้าไปดูหนังรอบเช้ากันเต็มโรง ส่วนเหตุผลอื่นก็อย่างเช่น โปรดักชันดี มีการพูดถึงสถานที่ที่ปัจจุบันไม่มีอยู่แล้วในฮ่องกงทำให้คนอยากเข้าไปดูในหนัง ส่งผลให้หนังเรื่องนี้มีความเป็นฮ่องกงสูงมาก
Time Still Turns the Pages
นิค เฉิก นักเขียนบทที่ก้าวมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องแรกใน Time Still Turns the Pages สามารถคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเวทีใหญ่ ๆ มาครองเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นงานม้าทองคำครั้งที่ 60 งาน Hong Kong Film Awards ครั้งที่ 42 และงาน Asian Film Awards ครั้งที่ 17
Time Still Turns the Pages เป็นหนังเกี่ยวกับครูโรงเรียนมัธยมคนหนึ่งไปพบจดหมายเขียนเอาไว้ว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ จึงพยายามตามหานักเรียนคนนั้นให้เจอเพื่อหยุดยั้งการฆ่าตัวตาย แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ได้กลับไปสำรวจบาดแผลในใจของตัวเองอีกครั้ง
เราได้ถามคุณ ‘นิค เฉิก’ ไปว่าการฆ่าตัวตายถือเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนมาก เหตุใดเขาจึงหยิบประเด็นมาทำหนัง แล้วระหว่างที่มีการถ่ายทำ มีเรื่องอะไรที่เขาต้องระวังเป็นพิเศษบ้าง
ผู้กำกับหนังที่กลายเป็นปรากฏการณ์ในฮ่องกง และได้รับการยกย่องว่าเป็น “ผู้กำกับคลื่นลูกใหม่” ของวงการ ตอบกลับมาว่าก่อนที่จะทำหนังเรื่องนี้ตัวเขาเองก็เคยคิดว่าเรื่องการฆ่าตัวตายสมควรที่จะนำมาพูดคุยกันอย่างเปิดเผยหรือไม่ อย่างกรณีของนักข่าวเอง เวลารายงานข่าวก็จะมีกฎระเบียบห้ามเปิดเผยรายละเอียดการฆ่าตัวตายเพื่อไม่ให้เกิดการลอกเลียนแบบตามมา
แต่หลังจากที่ได้เห็นข่าวนักร้องวง at17 ของฮ่องกงฆ่าตัวตาย เขาก็เกิดความคิดว่าถ้าเราไม่นำเรื่องนี้มาพูดคุยกันก็จะไม่สามารถหาทางแก้ปัญหาได้ ดังนั้น เมื่อตัดสินใจจะทำหนังเรื่องนี้เขาก็จะพยายามสะกดจิตตัวเองว่า “ผมเลือกแล้ว ต้องทำให้ดีที่สุด”
ระหว่างการถ่ายทำ นิค เฉิก กล่าวว่าเขาต้องระวังหลายอย่าง เช่น ระวังไม่ให้นักแสดงเด็ก 2 คนเกิด trauma หรือบาดแผลขึ้นในใจ, ระวังไม่ให้หนังออกมาในเชิงสั่งสอนมากเกินไปไหม, ระวังว่าผู้ชมจะเกิด trauma จากการรับชมหรือไม่
Love Lies : ความอ่อนแอเบื้องหลังโลกออนไลน์
ห่อหมิวเข่ย ผู้กำกับดาวรุ่งพูดถึงหนังโรแมนติกคอมเมดีเรื่อง Love Lies ที่เป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์ชิ้นแรกของเธอเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจว่ามันเป็นหนังที่สื่อให้เห็นว่า “ไม่ว่าคุณจะเป็นคนประเภทไหน คุณก็จะรู้สึกเหงาได้เช่นกัน แล้วพอมีอินเทอร์เน็ต มีแอพหาคู่ เราก็สามารถหาคนคุยด้วยได้ แม้จะไม่รู้ว่าตัวจริงของเขาจะเป็นแบบที่แสดงออกมาหรือไม่ก็ตาม”
ผู้กำกับ ห่อหมิวเข่ย ยังกล่าวด้วยว่าเธออยากจะเน้นประเด็นที่ว่า “ความรักไม่มีข้อจำกัด ต่อให้เป็นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ต แต่สุดท้ายมันก็อาจจะเกิดความรักที่มหัศจรรย์ขึ้นได้”
อีกประเด็นหนึ่งที่ผู้กำกับอยากจะสื่อคือ คนเราไม่ได้แสดงแต่ด้านมืดออกมาเวลานั่งอยู่หลังคีย์บอร์ดเท่านั้น แต่ยังแสดงความอ่อนแอออกมาด้วยเช่นกัน อย่างนางเอกเรื่องนี้ เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่ประสบความสำเร็จ มีเกราะกำบังเพื่อปกป้องตัวเองเวลาอยู่ในโลกภายนอก แต่พอผู้หญิงเหล่านี้ไปนั่งอยู่หน้าจออินเทอร์เน็ตก็จะคิดว่ามีระยะห่าง ไม่ได้เจอกับคนอื่นตัวต่อตัว ระยะห่างนี้สร้างความสวยงามและความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับพวกเธอ แล้วจริงๆ ในหัวใจคนเหล่านั้นคือ เวลาเรามีความรัก ตกหลุมรัก มันก็จะมีโมเมนต์ที่เรามีความโง่นิดนึง อ่อนแอนิดนึง มุมนี้คือสิ่งที่ผู้กำกับอยากถ่ายทอดออกมาให้ผู้ชมได้เห็น
ผู้ชมสามารถตรวจสอบรอบฉายของภาพยนตร์ทุกเรื่องในงานและซื้อบัตรทางแอปพลิเคชัน House Cinema, เว็บไซต์ housesamyan.com หรือซื้อด้วยตัวเองที่หน้าเคาน์เตอร์โรงฯ ในส่วนของนิทรรศการ เปิดให้เข้าชมฟรี ณ บริเวณโถงกลางของโรงภาพยนตร์
โรงภาพยนตร์ “House สามย่าน” ตั้งอยู่บนชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ (แยกสามย่าน) เดินทางง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานีสามย่าน (ทางออก 2)