‘The Rock’ ยืนหนึ่งดาราฮอลลีวูดรายได้สูงสุดปี 2024 กว่า 3 พันล้าน

“The Rock” เป็นดาราฮอลลีวูดที่รายได้สูงสุดปี 2024 คิดเป็นเกือบ 3,000 ล้านบาท ที่ไม่ได้มาจากงานแสดงอย่างเดียวแต่มาจากการใช้โซเชียลฯ โปรโมตงาน และรับงานเบื้องหลังด้วย
แค่แสดงภาพยนตร์อย่างเดียวคงไม่พอแล้วสำหรับ “ดาราฮอลลีวูด” ทั้งหลาย เพราะเป็นเพียงแค่หนึ่งในช่องทางสร้างได้เท่านั้น เพราะการมีความร่วมมือกับหลายแพลตฟอร์มระหว่างสตูดิโอและนักแสดงเพื่อพัฒนา ผลิตภาพยนตร์ ไปจนถึงทำการตลาดให้กับผู้ชมกลายเป็นส่วนสำคัญของรายได้ให้กับนักแสดง
นิตยสาร Forbes (ฟอร์บส์) ได้จัดอันดับนักแสดงที่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุดในปี 2024 และ “The Rock” หรือ ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) อดีตนักมวยปล้ำชื่อดังที่ผันตัวมาเป็นนักแสดงนานหลายปีแล้ว มีรายได้รวม 88 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,900 ล้านบาท)
ตามมาด้วย ไรอัน เรย์โนลด์ส (Ryan Reynolds) ที่ไม่ได้แค่แสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง Deadpool ทั้ง 3 ภาคเท่านั้น แต่ใน “Deadpool & Wolverine” เขายังรับบทโปรดิวเซอร์หลัก และผู้เขียนบทร่วมอีกด้วย ทำให้ที่ผ่านมาเขามีรายได้รวม 185 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,800 ล้านบาท
สำหรับอันดับสามที่ตามมาติดๆ ก็คือโปรโมเตอร์ที่มีอิทธิพล เควิน ฮาร์ต (Kevin Hart) ที่เป็นทั้งผู้ผลิตภาพยนตร์ รายการทีวี พอดแคสต์ และสแตนด์อัปคอมเมดี้ด้วยตัวเองเป็นจำนวนมาก และทำรายได้ประมาณ 81 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,700 ล้านบาท)
ดเวย์น จอห์นสัน
ที่น่าสนใจก็คืออายุเฉลี่ยของนักแสดงใน 10 อันดับแรก อยู่ที่มากกว่า 54 ปีเล็กน้อย นอกจากงานแสดงแล้วพวกเขายังได้เงินก้อนโตทุกปีจากโปรเจ็กต์เก่าๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นรายการทีวีก็ตาม
นั่นทำให้ดาราหน้าใหม่ยากที่จะก้าวขึ้นมามีรายได้สูงสุดใน 20 อันดับแรกของฮอลลีวูด ซึ่งปีที่แล้วไม่มีนักแสดงคนไหนที่อายุ 20 หรือ 30 ปีเลย และคนที่อายุน้อยที่สุดคือ สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน (Scarlett Johansson) วัย 40 ปี อยู่ที่อันดับ 19 กับรายได้ 21 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 700 ล้านบาท
สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน
สำหรับนักแสดง 10 อันดับแรกที่มีรายได้สูงที่สุดของปี 2024 ได้แก่
1. ดเวย์น จอห์นสัน 88 ล้านเหรียญ
เดอะร็อคกลับมาอยู่ในอันดับสูงสุดของรายชื่อนักแสดงที่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุดอีกครั้งหลังเขาประกาศเข้าร่วมโปรเจ็กต์ “Red One” เมื่อปี 2021 และโปรโมตภาพยนตร์นี้อย่างต่อเนื่องผ่านโซเชียลมีเดียของเขาที่มีผู้ติดตามกว่า 394 ล้านคน แม้ว่าภาพยนตร์จะได้รับคำวิจารณ์เชิงลบและทำรายได้ทั่วโลกเพียง 186 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6,200 ล้านบาท) เทียบกับงบการสร้างที่สูงถึง 250 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8,400 ล้านบาท) แต่เมื่อเข้าฉายใน Amazon Prime Video กลับสามารถดึงดูดผู้ชมได้ประมาณ 50 ล้านคน ในสัปดาห์แรก
ทำให้เขาได้รับค่าตอบแทนจาก Red One ทั้งค่าตัวและค่าผลิตภาพยนตร์อยู่ที่ประมาณ 50 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 1,680 ล้านบาท ถือเป็นหนึ่งในค่าตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์
นอกจากนี้เขายังพากย์เสียงในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง “Moana 2” อีกด้วย ซึ่งเขาได้เจรจาส่วนแบ่งกำไรจากภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวในฐานะผู้อำนวยการสร้าง ซึ่งถือเป็นข้อตกลงที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับนักพากย์เสียงในภาพยนตร์แอนิเมชันของดิสนีย์ หลังจากนั้นภาพยนตร์เรื่องสามารถทำรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ในบ็อกซ์ออฟฟิศ
จากผลงานดังกล่าวทำให้ “เดอะร็อค” รับรายได้รวมในปี 2024 อยู่ที่ 88 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,900 ล้านบาท) ขึ้นแท่นเป็นนักแสดงที่ทำเงินสูงสุดประจำปี
2. ไรอัน เรย์โนลด์ส 85 ล้านเหรียญ
ไรอันรับบทเป็นโปรดิวเซอร์หลัก ผู้เขียนบทร่วม และนักแสดงนำของหนึ่งในภาพยนตร์ที่หลายคนยกให้เป็นไลฟ์แอ็กชันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี “Deadpool & Wolverine” ทำรายได้ทั่วโลกมากกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 43,000 ล้านบาท) นอกจากนี้เขายังมีบทบาทในภาพยนตร์ IF ของ John Krasinski และซีรีส์ Welcome to Wrexham บน Hulu
3. เควิน ฮาร์ท 81 ล้านเหรียญ
ถือว่าเป็นคนที่ทำรายการบันเทิงอย่างหลากหลายในปี 2024 เพราะเขามีทั้งภาพยนตร์ Borderlands, Lift, Die Hart 2, รายการทีวี Die Hart Season 3, Fight Night, รายการพอดแคสต์ Gold Minds, และโชว์สแตนด์อัพคอมเมดี้กว่า 90 รายการ ไปจนถึงงานโฆษณาต่างๆ
ทั้งนี้ยังมีแคมเปญโฆษณากับ DraftKings และ Chase อีกด้วยและไม่ได้นับรวมกับรายได้ของเขาในปี 2024 ทำให้หลายคนยกให้เขาเป็นคนบันเทิงที่ทำงานหนักที่สุดคนหนึ่ง
4. เจอร์รี เซนเฟลด์ 60 ล้านเหรียญ
เจอร์รีวัย 70 ปี ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นมหาเศรษฐีจากนิตยสารฟอร์บส์เมื่อปีที่แล้ว และยังคงทำงานในวงการสแตนด์อัพคอมเมดี้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ซิทคอมที่ใช้ชื่อของเขาเองยังคงทำรายได้หลักแสนเหรียญทุกปี ในช่วงที่มีโรคระบาด เขาเขียนบทภาพยนตร์ล้อเลียนเรื่อง Unfrosted และสุดท้ายเขาก็ได้กำกับและแสดงนำในแพลตฟอร์มสตรีมมิงอย่าง Netflix เมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้เขามีรายได้ 60 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,000 ล้านบาท
5. ฮิวจ์ แจ็คแมน 50 ล้านเหรียญ
หลังจากส่งตัวละครวูล์ฟเวอรีนของเขาออกฉายในภาพยนตร์เมื่อปี 2017 ไม่ใช่แค่สร้างเม็ดเงินมหาศาลเท่านั้น แต่ยังทำให้เขาได้ร่วมงานกับเพื่อนของเขา ไรอัน เรย์โนลด์ส ในเรื่อง Deadpool & Wolverine ที่น่าจะกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในอาชีพนักแสดงของเขา
เขามีรายได้อยู่ที่ 50 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,680 ล้านบาท
6. แบรด พิตต์ 32 ล้านเหรียญ
หลังจากที่ดึง “Wolfs” (ซึ่งมีจอร์จ คลูนีย์ เพื่อนของเขาร่วมแสดงด้วย) ออกจากการฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อปีที่แล้ว และเลือกที่จะฉายบน AppleTV+ Apple นอกจาดนี้ยังมีการวางเดิมพันกับภาพยนตร์ F1 ของ แบรด พิตต์ ในปี 2025 นี้ ที่จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ช่วงฤดูร้อนนี้
ในขณะเดียวกัน บริษัทผลิตภาพยนตร์ของเขา “Plan B” ก็ส่งภาพยนตร์เรื่อง “Beetlejuice Beetlejuice” ทำรายได้มหาศาลในบ็อกซ์ออฟฟิศ และยังสนับสนุนให้ Nickel Boys เป็นภาพยนตร์ที่เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (แต่ไม่ประสบความสำเร็จ) ทำให้เขามีรายได้ 32 ล้านดอลลาร์ (ประมาณพันล้านบาท)
7. จอร์จ คลูนีย์ 31 ล้านเหรียญ
แม้ว่า จอร์จ คลูนีย์ จะปฏิเสธรายงานที่ว่าเขาและแบรด พิตต์ได้รับเงินคนละ 35 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,176 ล้านบาท) จากภาพยนตร์ตลกสายลับเรื่อง Wolfs
โดยเขากล่าวว่า “เป็นเรื่องแย่สำหรับอุตสาหกรรมของเรา หากผู้คนคิดว่านี่คือมาตรฐานของเงินเดือน” แต่ Apple ก็ต้องเสนอราคาสูงกว่าให้กับผู้สนใจหลายรายสำหรับโปรเจ็กต์นี้ในปี 2021 และเมื่อเทียบกับผลงานการกำกับของจอร์จหรือโปรเจ็กต์ของแบรดที่เน้นไปที่การคว้ารางวัล ผู้ทำข้อตกลงรายหนึ่งเปิดเผยกับ Forbes ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น “ผลงานเพื่อแสวงหากำไรสำหรับพวกเขาอย่างแน่นอน”
สำหรับรายได้รวมของ จอร์จ อยู่ที่ 31 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณพันล้านบาท
8. นิโคล คิดแมน 31 ล้านเหรียญ
สำหรับนิโคลเธอเป็นนักแสดงหญิงเพียงคนเดียวที่มีรายชื่อติดอยู่ใน 10 อันดับแรก แถมพ่วงมาด้วยฉายา “ราชินีแห่ง AMC Theatres” และเธอยังกลายเป็นหนึ่งในดาราที่มีรายได้สูงที่สุดในวงการจากมินิซีรีส์ทางทีวี ซึ่งเธอแสดงนำในซีรีส์เรื่อง The Perfect Couple สำหรับ Netflix และยังมีอีกสองเรื่องคือ Lioness ของ Paramount+ (Lioness) และ Expats ทาง Amazon เมื่อปีที่แล้ว ทำรายได้มากกว่า 1 ล้านเดอลลาร์ต่อตอนในแต่ละเรื่อง
นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์อีกสองเรื่องที่เล่าถึงความรักกับผู้ชายที่อายุน้อยกว่ามากอย่าง Babygirl และ A Family Affair และคิดแมนวัย 57 ปีผู้นี้ก็เป็นนักแสดงที่ได้รับค่าตัวสูงที่สุดในปี 2024 ส่งผลให้เธอมีรายได้อยู่ที่ 31 ล้านดอลลาร์ (ประมาณหมื่นล้านบาท) เทียบเท่ากับ จอร์จ คลูนีย์
9. อดัม แซนด์เลอร์ 26 ล้านเหรียญ
ที่ผ่านมามีข้อตกลงระหว่าง อดัม กับ Netflix มีข้อตกลงมากมายจนอาจเรียกได้ว่าหาใครเทียบได้ในอุตสาหกรรมนี้ ทำให้เขาสามารถสร้างโปรเจ็กต์เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น Happy Gilmore 2 หรือโปรเจ็กต์เล็กๆ น้อยๆ อย่าง Spaceman ที่เข้าฉายไปแล้วในปี 2024 และยังได้รับเงินด้วย
นอกจากนี้เงินจากผลงานเก่าๆ เขาจึงทำให้เป็นนักแสดงที่ได้รับค่าตัวสูงที่สุดในปีที่ยังคงอยู่ในแพลตฟอร์มนี้ โดยมียอดผู้ชมหลายร้อยล้านชั่วโมงต่อปี
ทำให้เขามีรายได้อยู่ที่ 26 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 870 ล้านบาท
10. วิลล์ สมิธ 26 ล้านเหรียญ
ในฮอลลีวูดมีความคิดเห็นเกี่ยวกับความโด่งดังของเขาว่า ผู้ชนะรางวัลออสการ์วัย 56 ปีคนนี้จะกลับมาเต็มตัว อีกครั้งหรือไม่หลังจากเหตุการณ์ The Slap Seen ‘Round The World ที่สั่นสะเทือนเวลาที่ออสการ์ไปในปี 2022 แต่หลายคนเห็นพ้องต้องกันว่าการกลับมารับบทนำในภาพยนตร์ “Bad Boys: Ride or Die” ในปี 2024 ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และยังเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไม่ถึง 20 เรื่องที่ทำรายได้มากกว่า 400 ล้านดอลลาร์ทั่วโลกในปีที่แล้ว (ประมาณ 13,000 ล้านบาท)
โดยเขามีรายได้อยู่ที่ 26 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 870 ล้านบาท เทียบเท่ากับ อดัม แซนด์เลอร์
ดาราฮอลลีวูดที่มีรายได้สูงสุดในปี 2024 จัดอันดับโดย ฟอร์บส์
แม้ว่ารายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศจะลดลง แต่สตรีมมิงแพลตฟอร์มหลายเจ้า เช่น Apple, Amazon และ Netflix ยังคงจ่ายค่าตัวให้นักแสดงด้วยเม็ดเงินสูงลิ่ว จึงทำให้ดาราแถวหน้ามีทางเลือกที่หลากหลายในการทำเงิน และต่อให้ฮอลลีวูดจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเหมือนเดิมคือนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ยังคงเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมภาพยนตร์
อ้างอิง : Forbes