คดีฟ้องร้องเรื่อง “ไวน์” ของ “แบรด พิตต์” และ “แองเจลินา โจลี”

คดีฟ้องร้องเรื่อง “ไวน์” ของ “แบรด พิตต์” และ “แองเจลินา โจลี”

“แบรด พิตต์” และ “แองเจลินา โจลี” ยังทะเลาะกันไม่เลิก จากคดีฟ้องร้องเรื่อง “ไวน์” กลายเป็นมหากาพย์ “ชาโต มิฮราวัล”

แม้คู่รักดาราจะเลิกกันร่วม 7 ปีแล้ว หากคดีความฟ้องเรื่อง ไวน์ กลายเป็นมหากาพย์ ชาโต มิฮราวัล (Chateau Miraval) ที่ทั้งคู่เคยเป็นเจ้าของร่วมกัน จนบัดนี้ยังหาข้อยุติไม่ได้ ต่างฝ่ายต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายพยายามจะฮุบไวเนอรีไว้คนเดียว พ่วงด้วยคดีสิทธิเลี้ยงดูลูก 6 คน

ตัวแทนทางกฏหมายของ แบรด พิตต์ ได้ฟ้องร้องและกล่าวหาว่า แองเจลินา โจลี ตัดสินใจแต่ฝ่ายเดียวในการขายหุ้นไวน์ชาโต มิฮราวัล ในส่วนของเธอโดยไม่แจ้งให้เขาทราบก่อน ทั้ง ๆ ที่ทั้งคู่ร่วมซื้อมาด้วยกัน

คดีฟ้องร้องเรื่อง “ไวน์” ของ “แบรด พิตต์” และ “แองเจลินา โจลี”     ชาโต มิฮราวัล และคฤหาสน์หรู

ขณะที่ Nouvel บริษัทที่เคยเป็นตัวแทนของโจลี ที่ดูแลไวเนอรีอ้างว่าไม่จริง เพราะโจลีกับพิตต์ ปรึกษาหารือเรื่องนี้กันมาแล้ว

ล่าสุด Nouvel ยังกล่าวหาและฟ้องร้องว่า แบรด พิตต์ ต่างหากที่ทำเหมือนว่า ชาโต มิฮราวัล เป็นของตัวเองเพียงคนเดียว แถมยังผุดโปรเจคที่ไร้ประโยชน์ แต่ผลาญเงินมหาศาล และการโยกย้ายทรัพย์สินของไวเนอรีไปเข้าบริษัทอื่นของตัวเอง และกลุ่มเพื่อนสนิทอย่างลับ ๆ ด้วย

คดีฟ้องร้องเรื่อง “ไวน์” ของ “แบรด พิตต์” และ “แองเจลินา โจลี”     ทายาททั้ง 6 ของพิตต์กับโจลี เป็นหนึ่งในคดีฟ้องร้องด้วย

ฝ่ายตัวแทนของพิตต์ อ้างว่า “ที่ผ่านมาโจลี ไม่เคยทำอะไรให้ธุรกิจนี้เติบโตเลย เขาต่างหากที่เปลี่ยนให้มันกลายเป็น ธุรกิจระดับชาติมูลค่าหลายล้านเหรียญ"

แบรด พิตต์ กับ แองเจลินา โจลี ร่วมกันซื้อไร่องุ่นชาโต มิฮราวัล พร้อมคฤหาสน์หรู ในแคว้นโพรวองซ์ (Provence) เขตผลิตโรเซ่ชื่อดังของฝรั่งเศสในปี 2012 ราคาประมาณ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะแต่งงานกันอย่างเป็นทางการในอีก 6 ปีต่อมา และมีการขยับขยายพื้นที่ไปถึง 1,800 เอเคอร์ ครอบคลุมทั้งไร่องุ่น โรงผลิตไวน์ และทะเลสาบส่วนตัว

คดีฟ้องร้องเรื่อง “ไวน์” ของ “แบรด พิตต์” และ “แองเจลินา โจลี”    พิตต์กับเพื่อนตระกูลแปร์แฮรง

การผลิตไวน์ต้องร่วมกับครอบครัวแปร์แฮรง (Perrin family) เจ้าของ ชาโต เดอ โบคาสเตล (Château de Beaucastel) ผู้ผลิตไวน์ชื่อดังในแคว้นโฮรน (Rhone) ซึ่งอยู่ติดกับแคว้นโพรวองซ์ และเป็นเพื่อนกับพิตต์ ผลิตไวน์ปีแรก 2013 จำนวน 150,000 ลัง

ชาโต มิฮราวัล ทำเฉพาะโรเซ่ ยังไม่ได้ผลิตไวน์ขาวและแดง ตั้งอยู่ในเขตควบคุมโก๊ต เดอ โพรวองซ์ เอโอพี (AOP=Cotes de Provence Protegee) ที่ต้องผลิตภายใต้การควบคุมและคุ้มครอง ใครจะเลียนแบบไม่ได้

คดีฟ้องร้องเรื่อง “ไวน์” ของ “แบรด พิตต์” และ “แองเจลินา โจลี”     โรเซ่รุ่นแรกที่ผลิต (Cr. foodbev.com)

ทั้งคู่หย่ากันในปี 2016 มีการต่อสู้ทางกฎหมายในการแย่งสิทธิการดูแลลูก และการแย่งทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน รวมถึงชาโต มิฮราวัล ที่ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 160 ล้านดอลลาร์

ปี 2021 โจลี ขายหุ้นของเธอในชาโต มิฮราวัล 50% ให้กับ เตนูตา เดล มอนโด (Tenute del Mondo) บริษัทในเครือสโตลี กรุ๊ป (Stoli Group) จนเกิดการนำมากล่าวอ้างดังกล่าว

คดีฟ้องร้องเรื่อง “ไวน์” ของ “แบรด พิตต์” และ “แองเจลินา โจลี”     ยามรัก

Tenute del Mondo นั้นไม่ธรรมดา เป็นเจ้าของอาร์ชาวัล แฟร์แรร์ (Achával-Ferrer) ผู้ผลิตไวน์ในอาร์เจนตินา และอาร์รินซาโน (Arínzano) ในสเปน และมีหุ้นอยู่ในไวน์ดัง ๆ ของครอบครัวเฟรสโคบัลดี (Frescobaldi family) เช่น มาสเซโต (Masseto) ออร์เนลลายยา (Ornellaia) ลูเช่ (Luce) และกาสเตลโจกอนโด (Castelgiocondo)

คดีฟ้องร้องเรื่อง “ไวน์” ของ “แบรด พิตต์” และ “แองเจลินา โจลี”     รักร้าว

หลังจากที่เกิดเรื่องฟ้องร้องกัน แบรด พิตต์ เริ่มขยับขยายไปทำอย่างอื่นโดยพยายามเลี่ยง ชาโต มิฮราวัล ที่เป็นหนึ่งในข้อพิพาทให้มากที่สุด

เริ่มจากปลายปี 2021 พิตต์ เปิดตัวแชมเปญ โรเซ่ รุ่นที่ 2 ของเขา เฟลอ เดอ มิฮราวัล ER2 (Fleur de Miraval ‘ER2’) ซึ่งเป็น Rosé Champagne ในราคาขวดละ 320 ยูโร (270 ปอนด์ / 373 ดอลลาร์) ย้ายจากแคว้นโพรวองซ์ที่ตั้งของชาโต มิฮราวัล ไปแคว้นแชมเปญ (Champagne)

คดีฟ้องร้องเรื่อง “ไวน์” ของ “แบรด พิตต์” และ “แองเจลินา โจลี”     ชาโต มิฮราวัล (Cr. magazine.wein.plus.com)

Fleur de Miraval ER2 เป็นความร่วมมือกันระหว่าง ปีแยร์ เปแตรส์ (Pierre Péters) ผู้ผลิตแชมเปญในแคว้นแชมเปญ และครอบครัวแปร์แฮรง (Perrin) เจ้าของชาโต เดอ โบคาสเตล (Château de Beaucastel) ในแคว้นโฮรน (Rhône) ภายใต้คอนเซปต์ของพิตต์

โดย ER2 ใช้น้ำไวน์ของวินเทจ 2017 เป็นเบส ซึ่งเป็นชาร์โดเนย์ (Chardonnay) 75% ส่วนอีก 25% เป็นปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) จากวินเทจใหม่ บ่ม 3 ปีพร้อมกากยีสต์ (Lees)

ER ย่อมาจากอักษรตัวหน้าของ 2 คำ E มาจากคำว่า Exclusively ส่วน R มาจากคำว่า Rose ขณะที่รุ่นแรกนั้นเปิดตัวเมื่อปี 2020

คดีฟ้องร้องเรื่อง “ไวน์” ของ “แบรด พิตต์” และ “แองเจลินา โจลี”      แบรด พิตต์ กับสกินแคร์

ปลายเดือนกันยายน 2020 แบรด พิตต์ เปิดตัว เลอ โดเมน สกินแคร์ (Le Domaine Skincare) ครีมบำรุงผิวพรรณที่ใช้วัตถุดิบจากไร่ชาโต เดอ โบคาสเตล (Château de Beaucastel) ของครอบครัวแปร์แฮรง (Famille Perrin) ในแคว้นโฮรน แวลลีย์ (Rhône Valley) ซึ่งเป็นเพื่อนกับเขา

และเป็นไร่ที่ทำไวน์โรเซ่ให้ดาราดังภายใต้ชื่อชาโต มิฮราวัล (Château Miraval) นั่นเอง คาดว่าจะวางจำหน่ายได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023

คดีฟ้องร้องเรื่อง “ไวน์” ของ “แบรด พิตต์” และ “แองเจลินา โจลี”    มิฮราวัล สตูดิโอ

ล่าสุดต้นเดือนตุลาคม 2022 พิตต์ จับมือกับดาเมียน คินตาร์ด (Damien Quintard) โปรดิวเซอร์เพลงชาวฝรั่งเศส เจ้าของรางวัลเอ็มมี อวอร์ด เปิดตัว มิฮราวัล สตูดิโอ (Miraval Studios) ที่ชาโตไวน์หลังงาม Château Miraval ของเขานั่นเอง โดยมีชาเด (Sade) เจ้าของรางวัลแกรมมี อวอร์ด เป็นศิลปินรายแรกที่จะใช้ Miraval Studios  

คดีฟ้องร้องเรื่อง “ไวน์” ของ “แบรด พิตต์” และ “แองเจลินา โจลี”     มิฮราวัล สตูดิโอ (Cr. miraval-studios.com) 

สตูดิโอแห่งนี้สร้างในปี 1977 โดย ฌาร์ค ลุสซิเออร์ (Jacques Loussier) นักแต่งเพลงชื่อดังชาวฝรั่งเศส เคยเป็นห้องอัดอัลบั้มชุด ‘The Wall’ ของวง Pink Floyd และวงอื่น ๆ เช่น AC/DC, The Cure, Sting และ The Cranberries

คดีฟ้องร้องเรื่อง “ไวน์” ของ “แบรด พิตต์” และ “แองเจลินา โจลี”     ชาเด (Sade) (Cr. nanasbenz.com)

คดีฟ้องร้องของ แบรด พิตต์ กับ แองเจลีนา โจลี ไม่ใช่เรื่องของไวน์ “โรเซ่ ขวดร้าว” ธรรมดา แต่น่าจะเป็นมหากาพย์คดีที่ยืดเยื้อ ซึ่งแน่นอนย่อมส่งผลถึง ชาโต มิฮราวัล

คดีฟ้องร้องเรื่อง “ไวน์” ของ “แบรด พิตต์” และ “แองเจลินา โจลี”    มหากาพย์ชาโต มิฮราวัล (Cr. realestate.com.au)

ที่ยังไม่รู้ว่า อนาคตรสชาติและหน้าตาของไวน์จะออกมาอย่างไร ?