กินแบบ “ฮอกไกโด” ยก 20 ร้านดังจากฮอกไกโดมาเซ็นทรัลเวิลด์ในงาน Wow Hokkaido
ครั้งเดียวในรอบปี ชิมของอร่อยซิกเนเจอร์ “ฮอกไกโด” มร.ฮอนดะ เจ้าของฉายา “นักล่าอาหารเหนือ” แห่งไดมารูญี่ปุ่น ยกตำนานความอร่อยถิ่นฮอกไกโด 20 ร้านดัง ซุปแกงกะหรี่ มิโสะราเม็ง ไก่ทอดนารุโตะย่า มาให้ชิมถึงกลางกรุงเทพฯ
“ฮอกไกโด” (Hokkaido) เมืองที่ได้ฉายา “ครัวแห่งญี่ปุ่น” มีของอร่อยที่เป็นซิกเนเจอร์ประจำท้องถิ่นมากมาย เนื่องจากฮอกไกโดเป็นเกาะใหญ่ที่อยู่เหนือสุดของญี่ปุ่น นอกจากธรรมชาติอันงดงาม ฮอกไกโดยังเข้มงวดเรื่องสิ่งแวดล้อม ส่งผลถึงความสะอาดและความอุดมสมบูรณ์ทั้งบนแผ่นดินและท้องทะเล ของอร่อยมีคุณภาพที่คนไทยรู้จักดี อาทิ นมฮอกไกโด หอยเชลล์ฮอกไกโด ไข่หอยเม่น
ในโอกาสครบรอบ 135 ปี ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น สองห้างสรรพสินค้าระดับตำนานของไทยและญี่ปุ่น“เซ็นทรัลกรุ๊ป” ร่วมกับ “ไดมารู” ร่วมกันจัดงานพิเศษ “Wow Hokkaido” งานเทศกาลอาหารและวัฒนธรรมฮอกไกโด ยกตำนานความอร่อยถิ่นฮอกไกโดแท้ๆ มาให้นักชิมชาวไทยและนักท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์สุดฟินถิ่นฮอกไกโดกว่า 20 ร้านดังส่งตรงมาจากเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
ความพิเศษของ 20 ตำนานความอร่อยถิ่นฮอกไกโดในงาน “Wow Hokkaido” ครั้งนี้ คัดสรรมาโดย มร.ฮอนดะ ไดซึเกะ (Honda Daisuke) ฝ่ายจัดซื้อผลิตภัณฑ์อาหารและวัตถุดิบประจำฮอกไกโด แห่งห้างสรรพสินค้าไดมารูมัตสึซาคายะ ประเทศญี่ปุ่น
มร.ฮอนดะ เกิดที่เมืองโกเบ หลังสำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ได้เข้าทำงานกับห้างสรรพสินค้าไดมารูฯ ได้รับมอบหมายให้เดินทางไปฮอกไกโดเป็นเวลาสามปีครึ่งเพื่อสรรหาอาหารอร่อยมาขายในห้างสรรพสินค้า ไดมารู ของญี่ปุ่น ตั้งแต่วันนั้นเขาใช้ชีวิตอยู่ที่ฮอกไกโดมา 19 ปีแล้ว ตระเวนชิม พบปะพูดคุยกับเจ้าของร้าน เกษตรกรผู้ผลิตวัตถุดิบ มีความเชี่ยวชาญในอาหารถิ่นฮอกไกโด กระทั่งได้รับฉายา “นักล่าอาหารเหนือ”
ซัปโปโร นิชิยามะ มิโสะ ราเม็ง
Nishiyama Ramen
อาหารถิ่นฮอกไกโดร้านแรกที่ มร.ฮอนดะ แนะนำให้รู้จักคือ Nishiyama Ramen (นิชิยามะ ราเม็ง) คือเจ้าแรกที่ทำเส้นราเม็งในฮอกไกโด มีชื่อเสียงมาก และมีประวัติยาวนานถึง 69 ปี
เรื่องราวของ “นิชิยามะ ราเม็ง” ได้รับการบรรจุไว้ในตำราเรียนวิชาประวัติศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาในฮอกไกโด เพื่อให้เยาวชนในฮอกไกโดรู้จักท้องถิ่นและสภาพสังคมของพื้นที่ที่ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ โดยโรงเรียนจะพาไปทัศนศึกษาถึงแหล่งผลิตกันเลยทีเดียว
“ที่ฮอกไกโด มิโสะราเม็งมีชื่อเสียงที่สุด และนิชิยามะ ราเม็ง คือเจ้าซึ่งทำเส้นราเม็งที่กินกับมิโสะซุปได้อร่อยที่สุด เนื่องจากมิโสะซุปมีรสชาติเข้มข้นอยู่แล้ว แต่เส้นนี้ก็มีรสชาติกลมกล่อมไม่น้อยหน้าน้ำซุป จริงๆ มิโสะราเม็งกินที่ไหนก็ได้ กินที่(เกาะ)คิวชู เส้นราเม็งจะเล็กๆ แต่ที่ฮอกไกโด ราเม็งเส้นหนา เหนียวนุ่ม เข้ากับมิโสะซุปมากกว่า ตัวเส้นทำจากแป้งสาลีที่ปลูกในฮอกไกโด กรรมวิธีการทำเป็นความลับ”
มร.ฮอนดะ กล่าวว่า จริงๆ “นิชิยามะ ราเม็ง” ไม่มีหน้าร้านขายราเม็ง เพราะเขาผลิตและขายเพียงเส้นราเม็งเท่านั้น ร้านราเม็งดังๆ ในฮอกไกโดหลายร้านซื้อเส้นราเม็งที่ผลิตโดย นิชิยามะ ราเม็ง หรือถ้าร้านใดอยากได้เส้นราเม็งที่รสชาติเข้ากับน้ำซุปสูตรเฉพาะของทางร้าน ทางนิชิยามะ ราเม็ง ก็พร้อมผลิตให้ได้เช่นเดียวกัน
นิชิยามะ ไพรม์ มิโสะ ราเม็ง เพิ่มเนื้อหมู
ดังนั้นในงาน Wow Hokkaido ที่เซ็นทรัลเวิลด์ จึงมีความพิเศษอย่างที่สุดที่ “นิชิยามะ ราเม็ง” เปิดหน้าร้านขายมิโสะราเม็งให้นั่งรับประทาน คนฮอกไกโดเองก็ไม่มีโอกาสชิมมิโสะราเม็งตำรับ นิชิยามะฯ แบบนี้
“งานนี้เขามาเปิดร้านของตัวเองเป็นกรณีพิเศษ คนญี่ปุ่นก็กินแบบนี้ไม่ได้ เพราะปกติทำแต่เส้น ไม่มีร้าน เขาต้มมิโสะซุปอยู่ที่ชั้นแปดของที่นี่แล้วนำลงมาอุ่นร้อนที่งานข้างล่างตรงนี้”
โดยเตรียมเมนูให้เลือก 2 เมนู คือ ซัปโปโร นิชิยามะ มิโสะ ราเม็ง (Sapporo Nishiyama Miso Ramen) ราคา 300 บาท มีข้าวโพด 100 กรัม หมูชาชู 100 กรัม สาหร่ายฮอกไกโด ผักกาดหวาน ไข่ต้ม และ นิชิยามะ ไพรม์ มิโสะ ราเม็ง เพิ่มเนื้อหมู (Nishiyama Prime Miso Ramen add Pork) 430 บาท
มร.ฮอนดะ ไดซึเกะ (Honda Daisuke)
ซุปแกงกะหรี่รัคเกียวไก่
Sapporo Rakkyo
ด้วยความที่ “ฮอกไกโด” เป็นเกาะเหนือสุดของญี่ปุ่น อาการหนาวที่สุดและหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี คนฮอกไกโดจึงนิยมกินอาหารประเภทซุปร้อนๆ เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย และอาหารญี่ปุ่นประเภทหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นที่ฮอกไกโดคือ Soup Curry อาจจะเรียกตามภาษาไทยได้ว่า ซุปแกงกะหรี่ ไม่ใช่แกงกะหรี่ข้นขลั่กแบบที่คนไทยคุ้นเคย
มร.ฮอนดะ กล่าวว่า เฉพาะเมืองซัปโปโรบนเกาะฮอกไกโด มีร้านซุปแกงกะหรี่มากกว่า 100 เจ้า เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่หารับประทานได้เฉพาะในฮอกไกโด แต่ละร้านก็มีสูตรเด็ดเคล็ดลับความอร่อยแตกต่างกันไปเล็กๆ น้อยๆ แต่ที่เป็นพื้นฐานเหมือนกันคือ ซุปร้อนใส และมีความเผ็ด เผ็ดมากเผ็ดน้อยขึ้นอยู่กับสูตรแต่ละร้าน
สำหรับร้านซุปแกงกะหรี่ที่ มร.ฮอนดะ คัดสรรมาร่วมงาน Wow Hokkaido ครั้งนี้ ชื่อร้าน Sapporo Rakkyo (ซัปโปโร รัคเกียว) หนึ่งในร้านซุปแกงกะหรี่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดใน ซัปโปโร เมืองใหญ่สุดของฮอกไกโด
"ซัปโปโร รัคเกียว" เปิดขายซุปแกงกะหรี่มานาน 23 ปี ปรุงตามสูตรซุปแกงกะหรี่ดั้งเดิมของฮอกไกโดที่เริ่มขึ้นในปี 1971
พ่อครัวจากร้าน "ซัปโปโร รัคเกียว"
น้ำซุปแกงกะหรี่เคี่ยวจากเนื้อไก่ มะเขือเทศ กุ้ง ขมิ้น ยี่หร่า ผักชี กระวาน กานพลู พริก พริกไทย เป็นอาทิ ปรุงกับเนื้อสัตว์ได้หลากหลาย เช่น น่องไก่ อาหารทะเล ซี่โครงแกะ หมูสามชั้น
ร้าน “ซัปโปโร รัคเกียว” มีสาขา 5 แห่งในซัปโปโร และที่เมืองโตเกียวกับโยโกฮาม่าอีกเมืองละ 1 สาขา
ในงาน Wow Hokkaido ร้าน “ซัปโปโร รัคเกียว” เตรียมเมนูไว้ 2 รายการ คือ ซุปแกงกะหรี่รัคเกียว (Rakkyo Chicken Soup Curry) ราคา 215 บาท และ แกงกะหรี่หมูตุ๋นสไตล์ญี่ปุ่น (Rakkyo Pork Kakuni Curry) ราคา 280 บาท ทั้งสองรายการเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยญี่ปุ่น นั่งชิมท่ามกลางความเย็นของเซ็นทรัลเวิลด์ ได้บรรยากาศใกล้เคียงกัน
เจลาโตเมลอนยูบาริ กับผลไม้ฮอกไกโดเคลือบน้ำตาล
RE di ROMA Plus
ร้าน RE di ROMA Plus (รี ได โรมา พลัส) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองซัปโปโร มีชื่อเสียงและความเชี่ยวชาญด้านการทำไอศกรีมแบบเจลาโตด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นฮอกไกโด เช่น ชีส มินต์ นม เกลือ ฝรั่ง ข้าวโพด เรียกได้ว่านักชิมถ้าไปเที่ยวซัปโปโร ก็ไม่ควรพลาดชิมเจลาโตร้านนี้
ร้านเปิดมานานกว่า 22 ปีแล้ว เมนูเด่นคือพิซซ่าและเจลาโต รูปลักษณ์ดูคล้าย “ซอฟต์เสิร์ฟ” แต่นี่คือ “เจลาโต” ที่ไม่มีส่วนผสมของนม
ความพิเศษในการมาร่วมงาน Wow Hokkaido ที่กรุงเทพฯ ครั้งนี้ มร.ฮอนดะขอให้ร้าน RE di ROMA Plus นำ เมลอน ยูบาริ (Yubari Melon) มาทำเป็นเจลาโต และเป็นการนำเมลอนสายพันธุ์ยูบาริมาทำเป็นเจลาโตครั้งแรกของร้าน คนไทยจึงเป็นนักชิมกลุ่มแรกที่ได้ชิมเจลาโตเมลอนยูบาริ คนญี่ปุ่นในซัปโปโรเองก็ยังไม่เคยได้ชิม
เมลอน ยูบาริ ได้ชื่อว่าเป็น “ราชาเมลอน” ของญี่ปุ่น ตั้งตามชื่อเมืองยูบาริที่ล้อมรอบด้วยภูเขา พื้นดินอุดมสมบูรณ์ด้วยการทับถมของเถ้าภูเขาไฟ เนื้อดินระบายน้ำได้ดี อากาศที่เมืองยูบาริตอนกลางวันและตอนกลางคืนมีความแตกต่างกันมาก ซึ่งเป็นผลดีกับการปลูกเมลอน อุณหภูมิอากาศระหว่างวันและคืนยิ่งแตกต่างกันมากเท่าใด ยิ่งทำให้เมลอนมีรสหวาน
มร.ฮอนดะ กล่าวว่า เจ้าของร้าน RE di ROMA Plus ไม่ได้มาร่วมงานด้วยตัวเอง เนื่องจากเดินทางไปฝึกทำเจลาโตเพิ่มเติมที่อิตาลีพอดี
ไก่ทอด Naruto-Ya แบบครึ่งตัว
Naruto-ya
Naruto-ya (นารุโตะ-ย่า) เป็นร้านไก่ชุบแป้งทอดที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในซัปโปโรมานานกว่า 70 ปี เป็นร้านไก่ทอดท้องถิ่นที่แบรนด์ไก่ทอดตะวันตกไม่สามารถล้มแชมป์ลงได้ โดยเฉพาะช่วงคริสต์มาส คนฮอกไกโดนิยมสั่งไก่ทอดร้านนี้กินแทนไก่งวง
เฉพาะในฮอกไกโด ร้าน “นารุโตะ-ย่า” มีสาขา 30 แห่งและไม่เปิดขายแฟรนไชส์
มร.ฮอนดะกล่าวว่า เคล็ดลับความอร่อยของไก่ทอดนารุโตะ-ย่า อยู่ที่ตัวแป้งที่ใช้ชุบไก่ก่อนทอด ส่วนกรรมวิธีการทอดไก่ของเขาไม่มีอะไรพิเศษ อาศัยความชำนาญ ทอดได้แห้งกรอบ แต่เนื้อไก่ข้างในสุกนุ่มพอดี
“รสชาติอยู่ที่ตัวแป้งมากกว่าเนื้อไก่ เพราะร้านต้องการคงรสชาติเนื้อไก่พื้นเมืองฮอกไกโดที่อร่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้”
แต่เนื่องจากติดระเบียบการนำเข้าเนื้อไก่และเนื้อหมูจากญี่ปุ่นเข้าประเทศไทย ดังนั้นเมนูนี้จึงใช้วัตถุดิบไก่ในประเทศไทย แต่แป้งและส่วนผสมที่เป็นสูตรเฉพาะของร้านนำมาจากญี่ปุ่น
ไก่ทอด Naruto-Ya แบบเนื้อล้วน
ผู้เขียนลองชิมแล้ว ตัวแป้งนั้นอร่อยจริงๆ และคนของร้าน “นารุโตะ-ย่า” ก็ทอดไก่ได้ข้างนอกแห้งกรอบ แถมแป้งยังบางไม่หนา เนื้อไก่ข้างในยังคงนุ่ม
มร.ฮอนดะ กล่าวด้วยว่า ไก่ทอดร้าน “นารุโตะ-ย่า” เป็นไก่ทอดที่คนฮอกไกโดบอกว่า “กินได้ทุกวันไม่มีเบื่อ” และถ้าถามอร่อยแค่ไหน พวกเขาก็จะตอบว่า “นะมะระ โออิชิ” เป็นคำที่พูดกันในภูมิภาคฮอกไกโดที่มีความหมายว่า “อร่อยมากๆ”
ในงาน Wow Hokkaido ร้าน “นารุโตะ-ย่า” มีเนื้อไก่ชุบแป้งทอดขายชิ้นละ 45 บาท และแบบครึ่งตัว ราคา 270 บาท
Shiroi Koibito ขนมคุกกี้แป้งกรอบ ร้าน Ishiya Seika
Ishiya Seika
อีกหนึ่งร้านที่ มร.ฮอนดะ ภูมิใจนำเสนอ คือร้าน Ishiya Seika (อิชิยะ เซกะ) ร้านขายของฝากที่มีชื่อเสียงแห่งฮอกไกโด ของทุกอย่างทำจากวัตถุดิบท้องถิ่นหาได้เฉพาะในฮอกไกโด ถ้าอยากหาของฝากจากฮอกไกโดจริงๆ ก็ต้องจำชื่อร้านนี้ไว้
ของฝากยอดนิยมติดอันดับ top-seller ประจำร้าน คือของหวานญี่ปุ่นสอดไส้ช็อกโกแลตที่ชื่อ Shiroi Koibito (ชิโรอิ โคอิบิโตะ) มีความหมายตรงกับภาษาอังกฤษว่า “white lover” เหมาะสำหรับคนชอบกินไวท์ช็อกโกแลต
ตัวขนมมีรูปทรงคล้ายคุกกี้ แต่เป็นคุกกี้แป้งกรอบแบบญี่ปุ่น ตรงกลางสอดไส้ไวท์ช็อกโกแลตซึ่งเป็นวัตถุดิบท้องถิ่นฮอกไกโด เริ่มต้นทำขายมาตั้งแต่ปี 1976 แยกชิ้นบรรจุในซองกระดาษห่อสีขาว เป็นคุกกี้สอดไส้ดาร์คช็อกโกแลต ซองกระดาษสีเขียวเข้มเป็นคุกกี้สอดไส้ไวท์ช็อกโกแลต ทั้งหมดบรรจุอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมสีขาวและสีฟ้าอ่อน โดยมีภาพยอดเขาบนเกาะริชิริ (Rishiri island) ที่มีหิมะปกคลุมอยู่ตรงกลางกล่อง
เกาะริชิริ เป็นเกาะเล็กๆ อยู่ห่างจากท่าเรือฮอกไกโดไปราว 2 ชั่วโมงโดยเรือเฟอร์รี่ บนเกาะมีกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหลายอย่าง เช่น ขี่จักรยานเที่ยว กินไข่หอยเม่นสดๆ ให้อาหารแมวน้ำในบ่อธรรมชาติริมทะเลญี่ปุ่น
ของกินพิเศษในงาน Wow Hokkaido ครั้งนี้คือ เค้กม้วนไวท์ช้อกโกแลต ที่ทำขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ โรลเค้กไวท์ช็อกโกแลตที่มีครีมสีขาวเนื้อเนียนนุ่ม
หมึกฮอกไกโดยัดไส้ ขนาดจัมโบ้
นอกจากนี้ยังมีของกินพื้นถิ่นฮอกไกโดอีกหลายรายการ เช่น หมึกฮอกไกโดยัดไส้ ขนาดจัมโบ้ (Inaho Hokkaido Squid Rice Jumbo) ของร้าน Sapporo Inaho หมึกฮอกไกโดตัวโตตุ๋น เคี้ยวง่ายไม่เหนียว ยัดไส้ข้าวญี่ปุ่น ทาด้วยซอสปลาไหลรสชาติเข้มข้น ราคาตัวละ 280 บาท เชฟทะยอยทำวันละ 3 รอบ เพื่อให้อาหารสดใหม่ คงความอร่อย ทำไม่มากต่อวัน ไปช้าหมดแล้วหมดเลย ต้องรอวันรุ่งขึ้น
ข้าวหน้าไข่หอยเม่นกับเนื้อปูซูไว
ร้าน Yoichi-ya นำวัตถุดิบขึ้นชื่อของฮอกไกโด เช่น “ไข่หอยเม่น” ที่ได้ฉายาว่า “รสชาติล้ำค่าดุจทองคำ” มีให้เลือกทั้งพันธุ์มุราซากิและบาฟุน มาจัดใส่ถาดขายร่วมกับวัตถุดิบขึ้นชื่ออื่นๆ ทำเป็นเมนูข้าวหน้าต่างๆ เช่น ข้าวหน้าไข่หอยเม่น ข้าวหน้าไข่หอยเม่นและหอยเชลล์ไซส์ใหญ่ ข้าวหน้าไข่หอยเม่นและไข่ปลาแซลมอน ข้าวหน้าไข่หอยเม่นและปู ข้าวหน้าอาหารทะเลสามสี
มร.โอบะ ยูอิจิ
นายโอบะ ยูอิจิ รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย กล่าวในพิธีเปิดงานเทศกาลอาหารและวัฒนธรรม “Wow Hokkaido” ว่า ไทยและญี่ปุ่น มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นมากกว่า 600 ปี ตลอดระยะเวลาของการเป็นพันธมิตรกับดินแดนอาทิตย์อุทัยนี้ได้มีความผูกพันใกล้ชิดและเกิดความร่วมมือในทุกระดับ และในปี พ.ศ. 2565 เป็นวาระโอกาสพิเศษการครบรอบ 135 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทยและญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ
โดยความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทย-ญี่ปุ่น เกิดขึ้นเมื่อ 135 ปีที่แล้ว จากการลงนามในปฏิญญาทางพระราชไมตรีและการพาณิชย์ระหว่างญี่ปุ่นและไทย และความสัมพันธ์ทางการทูตได้เริ่มอย่างเป็นทางการนับแต่นั้น
“ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นมีพัฒนาก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก โดยปัจจุบันไทยมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นและชาวไทยต่างมีความรู้สึกใกล้ชิดกันอย่างมาก รวมถึงให้การสนับสนุนการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นมาโดยตลอด นับตั้งแต่รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนดให้การท่องเที่ยวเป็นเสาหลักของกลยุทธ์การเติบโตและกุญแจสำคัญของการฟื้นฟูประเทศ”
บริเวณจัดงาน Wow Hokkaido ที่เซ็นทรัล เวิลด์
ขณะที่ พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล เผยว่า ซีพีเอ็นและไดมารู เป็นเครือห้างสรรพสินค้าไทยและห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น ที่มีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนาน ด้วยเป็นห้างสรรพสินค้าพลิกโฉมวงการธุรกิจห้างสรรพสินค้าของทั้งสองประเทศ โดยทำเลที่ตั้งของไทยไดมารูสาขาแรกๆ จะอยู่บริเวณราชประสงค์ ซึ่งเป็นเซ็นทรัลเวิลด์ในปัจจุบัน โดดเด่นการจำหน่านสินค้าและอาหารสัญชาติญี่ปุ่น
เทศกาลอาหารและวัฒนธรรม “Wow Hokkaido” จึงเป็นความร่วมมือกันระหว่างเซ็นทรัลและไดมารูในการต้อนรับทุกท่านเข้าสู่เทศกาลฤดูหนาว เตรียมพร้อมการมีส่วนร่วมในการเริ่มต้นประสบการณ์และวัฒนธรรมที่สวยงาม รวมถึงประเพณีสำคัญจากฮอกไกโด และรสชาติของอาหารญี่ปุ่นทั้งคาวและหวาน รวมถึงเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียง
“ซีพีเอ็นมีความเข้าใจในความชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นของกลุ่มนักช้อปนักชิมที่เป็นเจแปนเลิฟเวอร์ เราจึงตั้งใจเอาใจลูกค้ากลุ่มนี้ด้วยการยกขบวนร้านอาหารนานาชนิดทั้งอาหารคาว-หวาน-ของทางเล่น และแบรนด์ชั้นนำ ซึ่งเป็นอาหารและสินค้ายอดนิยมครองใจชาวไทยมาไว้ในงานนี้ ชนิดว่าไม่ต้องเดินทางข้ามทะเลไปถึงญี่ปุ่น ก็สัมผัสความเป็นฮอกไกโดได้ที่นี่”
มร.ทาโร่ ซาวาดะ และ พิชัย จิราธิวัฒน์
เช่นเดียวกับ มร.ทาโร่ ซาวาดะ ประธานและกรรมการผู้จัดการไดมารูมัตสึซาคายะดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ กล่าวว่า อย่างแรกและสำคัญที่สุดงานนี้คงเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะความร่วมมือของ ‘ไดมารู’ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำของญี่ปุ่น และ ‘ซีพีเอ็นและกลุ่มเซ็นทรัล’ ผู้นำห้างสรรพสินค้าและอุตสาหกรรมค้าปลีกของประเทศไทย เพื่อต้อนรับทุกท่านเข้าสู่เทศกาลฤดูหนาวและสิ้นปีที่กำลังจะมาถึงที่ฮอกไกโด
“ที่ผ่านมานักช้อปชาวไทยให้ความสนใจ ชื่นชอบ และเปิดรับสินค้าและแบรนด์ญี่ปุ่นอย่างล้นหลาม เทศกาลอาหารและวัฒนธรรม Wow Hokkaido จึงไม่ใช่เพียงการเสิร์ฟเมนู-แบรนด์และสินค้าอาหารสัญชาติญี่ปุ่นที่ครองใจชาวไทยเท่านั้น แต่เรายังยกเอาที่สุดของแบรนด์สินค้าและอาหารจากฮอกไกโด เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมช่วงฤดูหนาวมาให้ทั้งนักช้อป-นักท่องเที่ยวชาวไทย ไปจนถึงชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่น ก็สามารถดื่มด่ำกับความเป็นฮอกไกโดที่แท้จริงได้ในงานนี้”
งานเทศกาลอาหารและวัฒนธรรม “Wow Hokkaido”
การแสดงวัฒนธรรม เปิดงาน Wow Hokkaido
งานเทศกาลอาหารและวัฒนธรรม “Wow Hokkaido” กำหนดจัดขึ้นระหว่าง 23-27 พฤศจิกายน 2565 บริเวณ อีเดนท์ 1 & เซ็นทรัล คอร์ท เซ็นทรัลเวิลด์
หมายเหตุ : ขอบคุณ มร.ยูกิ (Masayuki Shii) สื่อสารภาษาญี่ปุ่น
คามาโบโกะกุ้งทอด (Yamato Deep-Fried Shrimp Kamaboko)
มันฝรั่งเคลือบช็อกโกแลต Royce หาซื้อยากในไทย
ข้าวกล่องสเต็กเนื้อวัว Kiyomiya และหอยเชลล์ฮอกไกโด
ไทยากิไส้ถั่วแดงกวนและไส้คัสตาร์ด
ขนมปัง ร้าน Shirokumaya Bakery
ร้านเฉพาะกิจ Nishiyama Ramen
ไก่ทอดร้าน Naruto-ya ขายดีมาก