‘เบกา ซิซิเลีย’ ‘ไวน์กรองด์ ครู’ แห่งสเปน คุณภาพหลุดโลก ดีและแพงสุด
ในโลกของไวน์ยุคปัจจุบัน ‘ไวน์สเปน’ คุณภาพหลุดโลก ที่ต่อกรกับไวน์ระดับสุดยอดของชาติอื่นคือ ‘เบกา ซิซิเลีย’ โดยเฉพาะรุ่น ‘ยูนิโก’ ถือว่าเป็นไวน์แพงที่สุด ฉายา ‘ไวน์กรองด์ ครู’ แห่งสเปน
ยูนิโก (Unico) มาจาก Unique หรือ The Only One เป็นไวน์ดีที่สุด แพงที่สุด ได้ชื่อว่า ไวน์กรองด์ ครู แห่งสเปน
เบกา ซิซิเลีย (Vega Sicilia) อยู่ในเขตริเบรา เดล ดูเอโร (Ribera del Duero) แคว้นคาสติลยา อี ลีออน (Castilla y Leon) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน
เป็นเขตผลิตไวน์สเปนที่มีชื่อเสียง มีแม่น้ำดูเอโร (Duero River) เป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงต้นองุ่น แต่เขตนี้เป็นเพียง DO (Denominacion de Origen) ไม่ได้เป็น DOC (Denominacion de Origen Calificada) ซึ่งเป็นเกรดสูงกว่า
ที่ทำการของ เบกา ซิซิเลีย
กำเนิดของ เบกา ซิซิเลีย ย้อนไปในปี 1848 เมื่อดอน ตอริบิโอ เลกันดา (Don Toribio Lecanda) ราชาที่ดินแห่งแคว้นบาสค์ (Basque) ได้พบกับมาร์คีส์ เด บัลบุเอนา ( Marques de Valbuena) ขุนนางที่กำลังจะล้มละลาย จึงซื้อไร่ Pago de la Vega Santa Cecilia y Carrascal ทางตะวันตกของ Ribera del Duero ประมาณ 2,000 เฮกตาร์ (1 เฮกตาร์ = 6 ไร่ 1 งาน) เพื่อทำฟาร์ม
หนึ่งในไร่ของ เบกา ซิซิเลีย
จากนั้นทำการเกษตรอยู่ 16 ปี ดอน อีลอย เลกันดา อี ชาเวส (Don Eloy Lecanda y Chaves) ลูกชายของ Toribio ได้รับมรดกจากพ่อ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของ เบกา ซิซิเลีย เพราะเขาชื่นชอบไวน์บอร์กโดซ์เป็นพิเศษ จึงก่อตั้งไร่องุ่นอย่างเป็นทางการในปี 1864 แล้วเดินทางไปบอร์กโดซ์เพื่อนำต้นองุ่นชั้นดี 18,000 ต้นมาปลูก
พิถีพิถันทุกขั้นตอนการผลิต
ประกอบด้วยกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) แมร์โลต์ (Merlot) มาลเบค (Malbec) การ์เมแนร์ (Carmenere) และปีโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) นับเป็นเจ้าแรกที่นำพันธุ์องุ่นต่างถิ่นมาปลูกในสเปน
ปี 1888 Lecanda และภรรยา Emilia ร่วมกับเพื่อน ปาสกูเอล แฮเรโร (Pascual Herrero) ก่อตั้งบริษัทขึ้นโดย Lecanda ถือหุ้นใหญ่ 83 % หลังจากนั้นอีก 15 ปีต่อมา Antonio Herrero ลูกชายของ Pascual ซื้อหุ้นทั้งหมด ในระยะแรก ๆ ขายน้ำองุ่นเป็นถังใหญ่ ๆ
ถังบ่มขนาดใหญ่
น้ำเนื้อที่สุดยอดของ เบกา ซิซิเลีย เกิดขึ้นเมื่อ โดมิงโก การ์รามิโอลา (Domingo Garramiola) ไวน์เมกเกอร์ของบริษัท Laguardia ในริโอฆา เดินทางมา เบกา ซิซิเลีย ในปี 1915 เพื่อหาน้ำองุ่นไปทำไวน์ เพราะไร่องุ่นที่ริโอฆาถูกฟีลล็อกซีรา (Phylloxera) ทำลายจนราบเรียบ แค่เหยียบแผ่นดินก้าวแรกเขาก็รู้ทันว่านี่คือแผ่นดินทองในการปลูกองุ่นทำไวน์ จึงขอเช่าพื้นที่เป็นเวลา 10 ปี ตั้งแต่ปี 1901 เบกา ซิซิเลีย มีวินเทจแรกคือ 1915
ไวน์ในเครือเบกา ซิซิเลีย
ไวน์เบกา ซิซิเลีย เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อปี 1929 หลังจากวินเทจ 1917 และ 1918 ได้รับรางวัลจากงาน World Fair 1929 ที่เมืองบาร์เซโลนา ขณะที่โดมิงโก การ์รามิโอลา ก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จนเสียชีวิตในปี 1933
ปี 1982 ตระกูลอัลวาเรซ (Alvarez) เจ้าของธุรกิจหลายอย่าง เข้ามาซื้อ เบกา ซิซิเลีย พร้อมปรับปรุงครั้งใหญ่ ทำให้รสชาติดีขึ้นเป็นลำดับ
ป้ายหน้าทางเข้า เบกา ซิซิเลีย
และในปีนั้น Ribera del Duero ก็ได้รับการยกระดับเป็น DO ปัจจุบัน ตระกูลอัลวาเรซ ก็ยังครอบครองไวน์ยิ่งใหญ่ของโลกยี่ห้อนี้ และเป็นสมาชิกสมาคมผู้ผลิตไวน์ที่เป็นครอบครัวหรือ Primum Familiae Vini (PFV) ซึ่งมีสมาชิก 13 ราย
องุ่นตินโต ฟิโน
เบกา ซิซิเลีย ใช้องุ่นเทมเปรานีลโย (Tempranillo) ซึ่งใน Ribera del Duero เรียกว่า ตินโต ฟีโน (Tinto Fino) เป็นหลักประมาณ 80 % เบลนด์กับองุ่นฝรั่งเศส เช่น กาแบร์เนต์ โซวีญยอง ประมาณ 15 % นอกนั้นเป็นแมร์โลต์และมาลเบค
ไวน์เบกา ซิซิเลีย บ่มไว้ในถังโอ๊คนานนับ 10 ปี ทำให้รสชาติมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเมื่ออยู่ถังไม้โอ๊คขนาดใหญ่ครบ 1 ปีแล้ว จะถ่ายไปบ่มต่อในถังโอ๊คขนาดเล็กซึ่งเป็นโอ๊คใหม่อีก 2 ปี
ผู้บริหารเบกา ซิซิเลีย
ขั้นตอนนี้ในปีแรกไวน์จะถูก Racking (การถ่ายไวน์จากถังหนึ่งไปยังอีกถังหนึ่ง โดยทิ้งตะกอนไว้ที่ถังเดิม เป็นการทำให้ไวน์ใสโดยธรรมชาติ และจะทำในขั้นตอนการบ่มไวน์) 4 ครั้ง ปีที่ 2 จะทำ Racking อีก 2 ครั้ง จากนั้นถ่ายไปบ่มต่อในถังโอ๊คเก่าอีก 4 ปี จึงบรรจุขวด แล้วบ่มในขวด อีก 2-3 ปี จึงวางตลาด
ตอนวางตลาดก็ต้องลุ้นอีกครั้ง มีเงินอาจไม่ได้ครอบครอง จะซื้อ เบกา ซิซิเลีย ต้องไปลงชื่อขึ้นบัญชี List of Potential Buyers ของเขาไว้ แล้วกลับไปนอนร้องเพลงรอที่บ้านประมาณ 1 - 2 ปี โชคดีจะได้รับหนังสือจากบริษัทแจ้งว่า ท่านเป็นคนโชคดีที่สุดในโลก กรุณาไปจ่ายเงินจองได้ แต่ให้แค่ 1-2 ลังเท่านั้น ...
รุ่น Unico
ปัจจุบัน เบกา ซิซิเลีย ผลิตไวน์ 3 รุ่นที่ทำให้อาณาจักรยิ่งใหญ่คือ
1 เบกา ซิซิเลีย “ยูนิโก” ริแซร์บา เอสเปเชียล (Vega Sicilia “Unico” Reserva Especial) เป็นรุ่นสุดยอด และเป็นรุ่นไม่มีวินเทจ (Non Vintage) เกิดจากการนำไวน์ปีที่ดีที่สุดมาผสมผสานกัน บางปีจะไม่มีขาย
2 เบกา ซิซิเลีย “ยูนิโก” กราน ริแซร์บา (Vega Sicilia “Unico” Gran Reserva) เป็นรุ่นรองลงมาแต่สร้างชื่อที่สุด ทำจากเทมปรานิลโยเป็นหลัก เป็นรุ่นที่มีวินเทจ และผลิตเฉพาะปีที่ดี ๆ ดังนั้นบางปีจึงไม่มีการผลิต วางตลาดอย่างน้อย 10 ปีหลังการบ่ม และสามารถเก็บได้อีก 15 - 20 ปีหรือมากกว่านั้น
Valbuena
3 บัลบูเอนา (Valbuena) เป็นไวน์ฉลากสอง (Second Label) ของ Vega Sicilia แต่เป็น Reserva ทำจากองุ่นที่ต้นอายุน้อย จากไร่เดียวกับรุ่น Unico ซึ่งวินเทจนั้นไม่มีการผลิต (เช่น 1992, 1997, 2000, 2001) ใช้ เทมปรานิลโย 85% ที่เหลือมีแมร์โลต์ และมาลเบค วางตลาดหลังบ่ม 5 ปี จึงเรียกว่า Valbuena 5° ตัวเลขด้านหลังคือบ่ม 5 ปี
Pintia
นอกจากนั้นก็มีรุ่นรอง ๆ เช่น
1 อาลิออน (Alion) ป็นไร่ในริเบรา เดล ดูเอโร และเป็นรุ่นแรกที่ผลิตจากองุ่นตินโต ฟีโน 100% บ่มในโอ๊คฝรั่งเศสใหม่ 100% เป็นไวน์คุณภาพแต่สามารถดื่มในขณะที่เป็นไวน์ใหม่ ผลิตประมาณปีละ 300,000 ขวดขึ้นอยู่กับวินเทจ
Oremus ที่ฮังการี
2 ปินเตีย (Pintia) รุ่นนี้ผลิตจากไร่ในเขตโตโร (DO Toro) ถูกตระกูลอัลบาเรซซื้อมาในปี 1997 อายุขององุ่นเฉลี่ย 30 – 50 ปี ไวน์ถูกบ่มในโอ๊คใหม่ล้วน ๆ เป็นโอ๊คฝรั่งเศสและอเมริกันในอัตรา 70/30
ขณะเดียวกันก็ขยายอาณาจักรไปเป็นเจ้าของไวน์หวานชื่อดังในฮังการีคือโตกาย (Tokaji), ออเรมุส (Oremus) เป็นต้น
เก็บองุ่นด้วยมือ
ฝรั่งเศสมีไวน์กรองด์ ครู (Grand Cru) สเปนก็มี เบกา ซิซิเลีย รสชาติและศักดิ์ศรีไม่เป็นรองแม้แต่น้อย อาจะเหนือกว่าหลายชาโตด้วยซ้ำ