Holiday Pastry “The Dining Room” ร้านอาหารและร้านขนมจากการเดินทางทั่วโลก
ออกเดินทางท่องโลกไปกับ Holiday Pastry “The Dining Room” ร้านอาหารและร้านขนมประสบการณ์ใหม่จาก Holiday Pastry ที่หยิบยกเรื่องราวการเดินทางทั่วโลกมาถ่ายทอดลงบนจานกว่า 100 เมนู ในบรรยากาศล็อบบี้โรงแรมใจกลางนิวยอร์กยุคอาร์ตเดโค
Holiday Pastry ร้านขนมหวานสุดเก๋ชื่อดังย่านฝั่งธน ขยายสาขามาบริการนักชิมฝั่งพระนครถึงใจกลางเมืองแล้ว กับการเปิดสาขาใหม่ล่าสุดในคอนเซปต์ The Dining Room ปักหมุดความเป็น Dessert & Restaurant ที่มีทั้ง “ร้านขนม” และ “ร้านอาหาร” ไว้ในร้านเดียวกัน
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว Holiday Pastry สร้างชื่อในฐานะร้านขนมหวานและเค้กที่ไม่มีหน้าร้านมาอย่างต่อเนื่อง โดดเด่นด้วยขนมหลายประเภท อาทิ Burnt Cheesecake, Fountain Cake, O.M.G. Pie เป็นต้น ที่ทำให้โลกโซเชียลฮือฮาในการแย่งจับจองมาหลายครั้ง
ต่อมาในปีพ.ศ.2565 จึงได้เปิด Holiday Pastry Flagship Store ภายใต้ตอนเซปต์ Creative Dining Destination ที่เกิดจากประสบการณ์ด้านการชิมของผู้ก่อตั้งร้านที่ได้สัมผัสมาระหว่างการเดินทางทั่วโลก และนำมาถ่ายทอดในรูปแบบ All-Day Dining มีทั้งอาหารและขนมหวาน จนขึ้นแท่นกลายเป็นร้านโปรดในดวงใจของใครต่อใครอีกหลายคนย่านฝั่งธนบุรี
Holiday Pastry "The Dining Room"
เพื่อตอกย้ำความสำเร็จของการก้าวสู่ปีที่สี่ Holiday Pastry พร้อมแล้วในการนำเสนอประสบการณ์ใหม่อีกระดับกับ Holiday Pastry “The Dining Room” ร้านขนมและร้านอาหารที่เกิดจากความชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก และนำความทรงจำกลับมาถ่ายทอดเป็นอาหารและขนมแสนอร่อยให้เพื่อนฝูงได้ลิ้มลอง
สอดรับกับวิถีคิดหลัก Travel the World Through Dishes เพียงมารับประทานก็เหมือนได้ท่องเที่ยวทั่วโลก แต่ละเมนูมีเรื่องราวและประสบการณ์ที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจ จนเกิดเป็นร้านขนมกับร้านอาหารที่อยู่ภายในร้านเดียวกันแห่งเดียวในประเทศไทย
Holiday Pastry "The Dining Room” จัดเต็มรายการอาหารและของหวานร่วมสมัยจากหลากหลายสัญชาติในรูปแบบ All-Day Dining กว่า 100 เมนู
ออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกผ่านเมนูหลากหลายรับประทานได้ตลอดวัน ตั้งแต่บรั๊นช์มื้อสาย มื้อกลางวัน และมื้อค่ำ ด้วยอาหารสไตล์ร่วมสมัย Contemporary Cuisine ที่แฝงลูกเล่นความสนุกสนานในแต่ละจานเพื่อสร้างสีสันบนโต๊ะอาหาร
เมนู Salmon YUM YUM!
พบกับเมนูซิกเนเจอร์จาก Holiday Pastry Flagship Store และเมนูใหม่สร้างสรรค์พิเศษและมีเฉพาะที่สาขานี้เท่านั้น อาทิ Salmon YUM YUM! ยำแซลมอนในรูปใหม่ที่สนุกขึ้นและอร่อยหลายมิติ
ร้านเสิร์ฟแซลมอนซาชิมิและองค์ประกอบในจานแบบแยกกัน เพื่อให้ลองรับประทานส่วนผสมแต่ละอย่าง แล้วค่อยคลุกเคล้าให้เข้ากันเพื่อให้ได้รสชาติแปลกใหม่
ตัวแซลมอนซาชิมิ แม้ไม่ใช่ส่วนท้อง แต่ก็มีความนุ่มละมุนและครีมมี่ กินเปล่าๆ ก็อร่อยแล้ว เติมความสนุกด้วยอโวคาโดบดผสมน้ำจิ้มซีฟู้ดในสัดส่วนที่กำลังดี ไม่น้อยไปไม่จัดจ้านจนกลบความอร่อยของแซลมอนซาชิมิ
เมนู Egg Benedict Open Face Toast
ไข่ดาวน้ำราดด้วยซอสฮอลแลนเดส
ปกติมักเป็นเมนูอาหารเช้า Egg Benedict Open Face Toast แต่หากต้องการรับประทานเวลาไหนก็ได้ระหว่างวัน ที่นี่ก็มีบริการทุกมื้อ
เชฟจัดวาง Poached Egg (ไข่ดาวน้ำ) มาบน Paris Ham แฮมสไตล์ปารีสที่ทำจากเนื้อหมูสดๆ ไม่เคยแช่แข็ง แล้วรองด้วยขนมปัง Sourdough ย่าง ราดด้วยซอส Hollandaise สีเหลืองขึ้นเงาสวย กินรวมกันแล้วรสชาติกลมกล่อม จนต้องนำขนมปังกวาดซอสและไข่แดง
Real Carbonara With Parmesan Foam
อีกหนึ่งเมนูไม่ควรพลาดชิม คือ Real Carbonara With Parmesan Foam สำหรับนักชิมที่อยากเลี่ยงคาร์โบนาราแบบครีมมี่ข้นขลั่ก เพราะที่นี่เสิร์ฟ ‘เรียล คาร์โบนารา’ หรือ คาร์โบนาราแบบดั้งเดิมตามแบบฉบับกรุงโรมและโดยรอบแคว้น Lazio (ลาซิโอ)ของอิตาลี
คือการคลุกเคล้าเส้นสปาเกตตีกับไข่แดง ชีสเพโคริโน (Pecorino cheese) และพริกไทย ถ้าถามชาวอิตาเลียนพวกเขาจะบอกว่าคลาสสิกคาร์โบนารา 'ไม่มีครีม' อย่างแน่นอน
Holiday Pastry “The Dining Room” เสิร์ฟ Real Carbonara กับเบคอนกรอบและทีเด็ดตรง ‘โฟมพาร์มีซาน’ เพิ่มรสและกลิ่นหอมชวนรับประทานมาก
O.M.G Pie
เมนูขนมหวานซิกเนเจอร์ประจำร้านคือ O.M.G Pie (โอ้มายก็อด พาย) หลายคนชิมแล้วอุทานด้วยความอร่อยว่า Oh my god! เป็นขนมแป้งอบที่มีความกรอบนอก หนึบในด้วยฐานคุกกี้โอ๊ตมีลเนยสด
ข้างใน O.M.G Pie เป็นชั้นคาราเมลกลิ่นหอมรสหวานสลับชั้นกับวานิลลาคัสตาร์ดเครมบูเล ด้านบนสุดของตัวขนมปิดทับด้วยแผ่นคาราเมลบางกรอบ (Tuile) ควรตักให้ได้ทุกชั้นในคำเดียว รสชาติจะกลมกล่อมพอดี
เมนู Let's Bake
มะม่วงในเจลลี่เสาวรสเมื่อเทออกจากเปลือกไข่
เมนูขนมสุดสร้างสรรค์อีกหนึ่งจาน ทางร้านตั้งชื่อว่า Let’s Bake มองทีแรกนี่มันองค์ประกอบทำขนมฝรั่งชัดๆ มีทั้งกองแป้ง เนยหั่นเต๋าอีกกอง แผ่นไวท์ช็อกโกแลต ยังจะไข่ไก่อีก 1 ฟอง
น้องบริกรที่ยกจานนี้มาบอกว่าทุกอย่างในจานรับประทานได้หมดเลยนะคะ ยกเว้นเปลือกไข่
จริงๆ แล้วด้านนอกที่เหมือนกองแป้งนั่นคือ Angel Cake (เบากว่า sponge cake) ด้านในเป็นพานาคอตตากับสตรอว์เบอร์รี่คอมโพต องค์ประกอบอื่นๆ ก็มีชีสย่าง ไวท์ช็อกโกแลต
ในเปลือกไข่เป็นมะม่วงในเจลลี่เสาวรส เทออกจากเปลือกไข่ แล้วตักรับประทานทีละอย่าง ไม่แนะนำให้คลุกเข้าด้วยกัน
เมนู Berry Garden
ขนมหวานอีกหนึ่งเมนูที่ได้ชิม Berry Garden จานนี้เหมือนยกไร่สตรอว์เบอร์รี่มาไว้ในจาน มีทั้งสตรอว์เบอร์รี่สด สตรอว์เบอร์รี่ครัมเบิลกรอบๆ เปรี้ยวๆ มูสและซอสสตรอว์เบอร์รี่ หยดน้ำมันโหระพาเพิ่มความสดชื่น
แผ่นด้านบนขนมเป็นมาสคาโปนชีสกับสตรอว์เบอร์รี่เจลลี่ รวมๆ แล้วรสชาติหวานอมเปรี้ยวและมีหลายเท็กซ์เจอร์ สตรอว์เบอร์รี่ฟุ้งเต็มกระพุ้งแก้ม
ลวดลายและสีสัน Holiday Pastry The Dining Room
Holiday Pastry "The Dining Room” เนรมิตการตกแต่งและบรรยากาศเสมือนพาทุกคนวาร์ปไปยังล็อบบี้โรงแรมใจกลางมหานครนิวยอร์กในยุคอาร์ตเดโคในทศวรรษ 1920 ราวกับหลุดไปอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง The Grand Budapest Hotel ของผู้กำกับชื่อดัง Wes Anderson
ล็อบบี้นั้นสื่อถึงการเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกตลอดจนคนไทยด้วยกันเอง ที่สามารถมาดื่มด่ำสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยของอาหารและขนมที่บรรจงรังสรรค์อย่างพิถีพิถันและเติมความคิดสร้างสรรค์ในทุกจาน
คอนเซปต์ทั้งหมดนี้ได้รับการถ่ายทอดให้อยู่ในพื้นที่กว่า 150 ตารางเมตร ชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดบริการ 10.00 - 22.00 น.