7 ‘เทรนด์พฤติกรรมการกินของคนไทย’ 2567 ใส่ใจอาหารสุขภาพ 66% ออกกำลังกาย
'Euromonitor' เผยผลสำรวจ 7 ‘เทรนด์พฤติกรรมการกินของคนไทย’ ปี 2567 พบว่าคนไทยวัยทำงานยุคหลังโควิด ใส่ใจเรื่องสุขภาพ ระวังเรื่องการกินมากขึ้น และออกกำลังกายเพิ่มขึ้นด้วย
จากผลสำรวจของ Euromonitor ปีที่แล้ว พบว่าคนไทยวัยทำงานยุคหลังโควิด มีการใช้ชีวิตอยู่แบบประจำที่มากขึ้น ข้อมูลนี้วิเคราะห์ถึง เทรนด์พฤติกรรมการกินของคนไทย พบว่า
คนไทย 1 ใน 4 กำลังควบคุมอาหาร
65% ให้ความสำคัญกับส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น
41% ใส่ใจในเรื่องฉลากโภชนาการบนสินค้า เมื่อจะซื้อสินค้าหรือบริการ
65% รู้สึกว่าสามารถสร้างความแตกต่างให้กับโลกด้วยทางเลือกและพฤติกรรมของพวกเขาได้
66% นิยมออกกำลังกายเป็นประจำ ทั้งที่บ้าน ออนไลน์ หรือฟิตเนส
58% บริโภคอาหารเสริมหรือวิตามินเพื่อสุขภาพเป็นประจำ
Euromonitor สำรวจเทรนด์พฤติกรรมการกินอาหารของคนไทย
Euromonitor (Euromonitor, Consumer Lifestyles in Thailand and Consumer Values and Behavior in Thailand July 2023) บริษัทเก็บข้อมูล และวิเคราะห์ทางการตลาด ระบุว่า หลังโควิดทำให้คนไทยทำงานอยู่ที่บ้านมากขึ้น ไลฟ์สไตล์อยู่ติดที่มากกว่าเดิม
แต่การนั่งทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพและอาการเจ็บป่วย เมื่อไม่ได้ขยับร่างกายจึงส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมากยิ่งขึ้น
66% คนไทยออกกำลังกายเป็นประจำ (Cr.image by Freepik)
หลายคนพยายามปรับไลฟ์สไตล์ด้านอาหารการกิน หรือแม้แต่การออกกำลังกาย แต่ก็ทำได้ยากเพราะพบกับข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ไม่มีเวลาทำอาหารกินเอง ขาดทักษะทำอาหาร
ไปนวดหรือเข้าสปามากขึ้น (Cr.mlive.com)
อย่างไรก็ดี จากผลสำรวจพบว่าหลายคนเริ่มออกกำลังกาย แสดงถึงพฤติกรรมดี ๆ ที่กำลังเปลี่ยนไปหลังปีใหม่ โดย อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) อ้างอิงผลสำรวจจาก Euromonitor สรุป เทรนด์กินดีมีสุข ของคนไทย ทั้งพฤติกรรมการกินอาหาร การออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ พร้อมแนะนำศาสตร์นวัตกรรมอาหารและสุขภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของสังคมไทยอย่างยั่งยืน มีดังนี้
กินอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น
1 กินดี อร่อย เน้นคุณภาพ ผู้บริโภคยุคใหม่จะใส่ใจกับส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เน้นการควบคุมอาหารที่รับประทานในแต่ละวันเพื่อควบคุมน้ำหนักและสารอาหารที่เหมาะสม เช่น การลดหวาน มัน เค็ม หรือลดโซเดียมเพื่อสุขภาพที่ดี แต่ยังคงความอร่อย ผู้บริโภคยังยินดีที่จะจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับซื้ออาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยจะซื้อสินค้ากับร้านค้าและแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ
2 ใส่ใจฉลากโภชนาการ อ่านส่วนผสมและคุณค่าทางโภชนาการ ที่ช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง
3 ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่นิยมการออกกำลังกายมากขึ้น
จึงมองหาผลิตภัณฑ์ที่ให้พลังงานและบำรุงร่างกาย เมื่อสังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ผู้คนจึงให้ความใส่ใจกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มที่ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อและข้อต่อมากยิ่งขึ้น
4 ทำอาหาร เครื่องดื่มกินเอง คนไทยจะนิยมทำอาหารกินเองที่บ้านมากขึ้น เนื่องจากคุ้นชินจากช่วงโควิด นอกจากนี้ การทำอาหารกินเองยังตอบอินไซด์คนไทยที่ใส่ใจกับส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น โดยใช้เครื่องปรุงรสช่วยเพิ่มรสชาติหรือลดขั้นตอนในการทำอาหาร ให้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
เทรนด์ชงกาแฟทานเองที่บ้าน
ยังมี เทรนด์การชงกาแฟทานเองที่บ้าน (home café) ก็มาแรงในกลุ่มคอกาแฟ ช่วยให้ครีเอทเมนูโดนใจได้หลากหลายรสชาติ
5 อาหารสายกรีน ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผู้บริโภคยุคใหม่เห็นความสำคัญของการบริโภคที่รักษ์โลกมากขึ้น เช่น ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ โดยหันมาสนใจกินอาหาร Plant-base มากขึ้น
และซื้ออาหารที่มีแหล่งผลิตหรือเป็นสินค้าท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อลดการเกิด carbon footprints และยังให้ความสำคัญกับการจัดการขยะอาหาร ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และอยากสนับสนุนสินค้าที่มีกระบวนการผลิตอย่างยั่งยืน
6 ใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพกายใจ ใช้อุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการดูแลสุขภาพมากขึ้น เช่น smart watch ในการประมวลผลการดูแลสุขภาพ
ใช้ AI
ใช้ AI ในการวิเคราะห์การดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล และยังมีการใช้แอปพลิเคชันสุขภาพมากขึ้น เช่น วิเคราะห์พฤติกรรมการกินอาหารและคำนวณแคลอรี่ แอปคำนวณการดื่มน้ำ เครื่องช่วยนอนหลับ หรือการปรึกษาสุขภาพออนไลน์ (tele-medicine)
7 มีสุข แข็งแรงทั้งกายและใจ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพและออกกำลังกายมากขึ้น โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่บ้าน และเห็นได้ชัดจากงานแข่งวิ่งที่เป็นเทรนด์ฮิตมากในช่วง 1-2 ปีนี้ อีกทั้งยังมีการให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต โดยให้รางวัลตัวเองด้วยการไปนวด ทำสปา เข้ารับคำปรึกษาหรือการบำบัด เพื่อความเป็นอยู่ดีที่ขึ้น
มร.อิชิโระ ซะกะกุระ
อายิโนะโมะโต๊ะ แนะนำนวัตกรรมเกี่ยวกับอาหารและสุขภาพ ผ่านการใช้ศาสตร์แห่งกรดอะมิโน โดย มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“กรดอะมิโน เป็นสิ่งที่พบได้ในร่างกายของเรา มีอยู่รอบ ๆ ตัวเรา และมีอิทธิพลต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตของเราอย่างไม่น่าเชื่อ อายิโนะโมะโต๊ะเป็นผู้บุกเบิกในการค้นคว้าศาสตร์แห่งกรดอะมิโน โดยพัฒนาองค์ความรู้และค้นพบนวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมความอยู่ดีมีสุขผ่านทางอาหารที่เรารับประทาน ด้วยการใช้กรดอะมิโนกลุ่ม BCAA โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ลิวซีน’ ซึ่งช่วยสนับสนุนการสร้างกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดีในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มคนที่ชอบออกกำลังกาย
Too Good To Waste
นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยแคมเปญ Too Good To Waste เพื่อส่งต่อแนวคิดและการจัดการกับการสูญเสียอาหารและขยะอาหารให้กับคนไทย เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวไปสู่การเป็น ‘ผู้นำในการสร้างความอยู่ดีมีสุข’ ให้กับสังคมไทยในอนาคต”