เชฟชุมพล แจ้งไพร แจกสูตรเมนู Soft Power อาหารไทย ‘กะเพราปูไทยดังไกลเวทีโลก’
เชฟชุมพล แจ้งไพร เปิดสูตรเมนูเด็ด ‘กะเพราปูไทยดังไกลเวทีโลก’ เมนูซอฟต์พาวเวอร์ไทยสุดพิเศษ ปรุงสดในพิธีเปิดงาน ‘อร่อยทั่วไทย ครั้งที่ 14’ มหกรรมรวมเมนู Soft Power อาหารไทย
สำหรับพิธีเปิดงาน “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ อร่อยทั่วไทย ครั้งที่ 14 ซอฟต์พาวเวอร์ไทย อร่อยไกลทั่วโลก” ณ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ เมื่อวันพุธที่ 26 มิ.ย.2567 เชฟชุมพล แจ้งไพร รังสรรค์เมนูซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทยสุดพิเศษ กะเพราปูไทยดังไกลเวทีโลก ชูวัตถุดิบคุณภาพของไทยครบทุกภูมิภาค
เชฟชุมพล แจ้งไพร เป็นประธานอนุกรรมการคณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร ภายใต้ คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, Thai Michelin Chef ผู้ร่วมก่อตั้งร้านอาหาร R.HAAN เชฟมิชลิน 2 ดาว และผู้ก่อตั้งสถาบันการอาหารไทย (Thai Cuisine Academy)
เมนู ผัดกะเพรา เป็นอาหารไทยยอดนิยมของคนไทยและเป็นเมนู Soft Power ของไทยที่ดังไกลทั่วโลก โดยคว้า แชมป์อันดับ 1 จาก TasteAtlas ในการประกาศรายชื่อ “Best Stir-Fries in the World 2023” หรือ อาหารจานผัดที่ดีที่สุดในโลก ประจำเดือนกันยายน 2566 จาก 50 อาหารจานผัดที่ดีที่สุดในโลก
TasteAtlas เว็บไซต์รวบรวมสูตรอาหารและรีวิวจากนักวิจารณ์อาหารทั่วโลก ระบุว่า ผัดกะเพรา เป็นอาหารประเภท 'อาหารจานเดียว' ที่ชาวต่างชาติสั่งมากที่สุดในประเทศไทย
ในการทำเมนู ‘กะเพราปูไทยดังไกลเวทีโลก’ เชฟชุมพลเลือกใช้ เนื้อปูม้า จากทะเลอ่าวไทย ซึ่งเชฟกล่าวว่า เนื้อปูม้าไทยในทะเลไทยเป็นเนื้อปูที่มีรสชาติหวานเป็นเอกลักษณ์ตามธรรมชาติชัดเจนกว่าเนื้อปูประเทศอื่นๆ และเป็นที่ต้องการของตลาดโลก
“ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกเนื้อปูม้าอันดับต้นๆ ของโลก ส่งไปอเมริกาและยุโรป”
นอกจากนี้ ยังใช้ ใบกะเพรา ซึ่งปลูกโดยชุมชน โดยใช้กะเพรา 3 สายพันธุ์ด้วยกัน คือ กะเพราเขียว กะเพราแดง และกะเพราควาย (ใบยี่หร่า) ใบกะเพราให้สรรพคุณเป็นสมุนไพรและกลิ่นหอมฉุนเป็นเอกลักษณ์
รวมทั้งเลือกใช้ กระเทียมไทย จากจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียน ‘สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์’ หรือ GI (Geographical Indications) โดยกระทรวงพาณิชย์
GI คือเครื่องหมายที่ใช้กับสินค้าที่มาจากแหล่งผลิตที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งคุณภาพหรือชื่อเสียงของสินค้านั้นๆ เป็นผลมาจากการผลิตในพื้นที่ดังกล่าว บ่งชี้ว่าเป็นผลิตผลการเกษตรของไทยที่มีคุณภาพ
กระเทียมศรีสะเกษ มีลักษณะเด่นที่สำคัญ คือเปลือกนอกสีขาวแกมม่วง เปลือกบาง หัวแน่น กลิ่นฉุน รสเผ็ดร้อน เก็บไว้ได้นานโดยไม่ฝ่อ ปลูกในดินมูลทราย ผลผลิตจึงมีคุณภาพดี สามารถจำหน่ายได้ราคาสูงกว่ากระเทียมจากแหล่งอื่น
เพิ่มความเผ็ดร้อนจาก พริก 5 สายพันธุ์ เป็นพริกจากทุกภาคของไทย ไม่ว่าจะเป็นพริกจินดาจากภาคกลาง พริกขี้หนูสวนจากจังหวัดกำแพงเพชร (ภาคเหนือตอนล่าง) พริกกะเหรี่ยงจากภาคอีสาน พริกแห้งจากภาคใต้ และพริกไทยอ่อนจากภาคตะวันออก มีกลิ่นหอม
ผัดด้วย น้ำมันเมล็ดคามิเลีย ที่ดีต่อกายดีต่อใจ จากแบรนด์ ภัทรพัฒน์ โดยมูลนิธิชัยพัฒนา
ประโยชน์ของน้ำมันเมล็ดคามิเลียมีมากมาย อาทิ มีไขมันดี 87% ไม่มีไขมันทรานส์, มีโอเมก้า 3-6-9 ดีต่อสมอง หัวใจ และยังช่วยบำรุงผิว, ทนต่อความร้อนสูงถึง 252 องศาเซลเซียส, Good Health Good Heart สุขภาพดี ช่วยสร้างเศรษฐกิจสร้างอาชีพชุมชน
“สำหรับซอฟต์พาวเวอร์อุตสาหกรรมอาหารไทย เราวางแผนพัฒนาให้ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ” เชฟชุมพล ให้สัมภาษณ์กับ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ ถึงความคืบหน้าแผนการทำงานส่งเสริม Soft Power อาหารไทย โดย ‘ต้นน้ำ’ ของอุตสาหกรรมอาหาร เน้นไปที่การพัฒนา ‘บุคลากร’ หรือการพัฒนาคน
“คนต้องมีองค์ความรู้ ต้องเก่ง ต้องเห็นโลกเยอะ เพื่อต่อยอดได้ง่าย ซึ่งขณะนี้อุตสาหกรรมขาดแคลนบุคลากรที่มีฝีมือ ทั้งพ่อครัว บริกร ผู้บริหาร นักอุตสาหกรรมอาหาร และวิศวกรรมอาหาร เพราะการทำอาหารให้มีคุณภาพเป็นเรื่องสำคัญ”
เชฟชุมพล ให้สัมภาษณ์ต่อไปว่า จากนั้นภายในปีงบประมาณ 2568 จึงจะเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรและอุตสาหกรรม พัฒนาช่องทางประชาสัมพันธ์ การตลาด
“อาหารไทยเรามีเยอะแยะมากมาย สตรีทฟู้ด อาหารเหนือ อาหารภาคกลาง อาหารภาคใต้ อาหารอีสาน อาหารชาววัง อาหารนวัตกรรมใหม่ อาหารในอนาคต เราพยายามเชื่อมต่อทั้งภาครัฐทุกหน่วยงานและภาคเอกชน หน่วยงานหลักๆ มีสภาอุตสาหกรรม แลหอการค้าไทย ที่เราจะจับมือทำงานด้วยกัน
งานที่เดอะมอลล์ครั้งนี้ ทุกคนพยายามผลักดันเพื่อให้อาหารไทยอยู่ในใจเป็นอันดับแรกของคนไทยก่อน คนไทยเห็นค่า ก็นำอาหารไปสร้างชีวิตความเป็นอยู่หรือธุรกิจที่เป็นล่ำเป็นสัน ซึ่งในต่างประเทศ อาหารไทยมีค่ามาก
อยากฝากไว้ว่า อาหารไทยเป็นของคนไทยทุกคน องค์ประกอบอาหารไทยคือตั้งแต่ส่วนผสม (ingredient) ใครจะทำน้ำพริก เครื่องแกง ร้านอาหาร พีอาร์ด้านอาหาร ไปจนถึงอุตสาหกรรมอาหาร เช่น ซอส เครื่องปรุง การส่งเสริมอาหารไทยเท่ากับสนับสนุนองคาพยพอาหารไทยส่วนต่างๆ”
ขณะที่ วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า อาหารไทย ถือเป็น 1 ใน 11 ซอฟต์พาวเวอร์ ที่สำคัญของไทยที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจทุกภาคส่วน ทั้งธุรกิจอาหาร การท่องเที่ยว
โดยเฉพาะ 'อาหารไทย' มีเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่สร้างชื่อเสียง สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยและดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก
“สำหรับงาน เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ อร่อยทั่วไทย ครั้งที่ 14 ซอฟต์พาวเวอร์ไทย อร่อยไกลทั่วโลก จัดขึ้นเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำ Food Destination ของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ในวงการรีเทล พร้อมขานรับนโยบาย ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ของภาครัฐ จากครัวไทยสู่ครัวโลก
รวมทั้งยกระดับอาหารไทยในทุกมิติและช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านค้าผู้ประกอบการ ทั้งขนาดกลางและขนาดย่อม SME ของไทยทั่วประเทศ
โดยคัดสรร เมนูอาหารไทยซอฟต์พาวเวอร์ ที่คนไทยและคนต่างชาติชื่นชอบ ไฮไลต์ในงานมีทั้งร้านอาหารที่สร้างชื่อเสียงให้อาหารไทยดังไกลทั่วโลก ร้านอาหารไทยอร่อยติดดาวการันตีความอร่อยโดยสถาบันชั้นนำ ทั้ง Michelin Guide, Thai Select และเชลล์ชวนชิม, ร้านฮิตติดกระแสโซเชียล ร้านเด็ดคนดัง ร้านปักหมุดทั่วไทย และ 8 วัน 8 ร้านเด็ดสุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะงานนี้ เพื่อให้ฟู้ดเลิฟเวอร์ได้ลิ้มรสความอร่อยของอาหารซอฟต์พาวเวอร์ ของไทยในงานนี้”
ในพิธีเปิดงานฯ ยังมีคนดังสายอาหารเข้าร่วมงาน อาทิ โบว์ลิ่ง - ชลทิพย์ ระยามาศ ฟู้ดกูรู ผู้ทรงอิทธิพลด้านอาหารของประเทศไทย จากเวที Influencer Asia Award ประเทศสิงคโปร์
พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ จูดี้ เดี่ยว - จารุกิตติ์ และ แดน คิมอินฮยอน ยูทูปเบอร์สายกินสายเที่ยวชาวไทยและชาวเกาหลีใต้สุดฮอต ร่วมชิมเมนูอาหารซอฟต์พาวเวอร์สุดพิเศษ พร้อมเล่าประสบการณ์ความอร่อยที่ได้ไปชิมเมนูอร่อยทั่วทุกภาค
งาน เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ อร่อยทั่วไทย ครั้งที่ 14 ซอฟต์พาวเวอร์ไทย อร่อยไกลทั่วโลก มหกรรมอาหารซอฟต์พาวเวอร์ไทย มีกำหนดจัดงาน ดังนี้
- 26 มิ.ย. – 3 ก.ค. 2567 ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ
- 27 มิ.ย. – 3 ก.ค. 2567 ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน กับที่เดอะมอลล์ โคราช
- 4 - 10 ก.ค. 2567 ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ กับที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค
เมนูพิเศษ กะเพราปูไทยดังไกลเวทีโลก
วัตถุดิบ - เครื่องปรุง
- พริกจินดา พริกขี้หนูสวน พริกกะเหรี่ยง พริกแห้ง พริกไทยอ่อน
- กระเทียมไทย
- ใบกะเพราเขียว ใบกะเพราแดง ใบกะเพราควาย
- เนื้อปูม้าแกะและทำสุกแล้ว
- น้ำมันเมล็ดคามิเลีย
- น้ำมันหอย
- ซีอิ๊วขาว
- หัวน้ำปลา
- น้ำซุป
วิธีทำ
- ตำพริกจินดา พริกขี้หนูสวน พริกกะเหรี่ยง พริกแห้ง กระเทียม เข้าด้วยกันพอหยาบๆ
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเมล็ดคามิเลีย
- น้ำมันร้อน ใส่พริกที่ตำไว้หยาบๆ ลงผัด
- ผัดพริกตำพอมีกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว หัวน้ำปลา น้ำซุปพอประมาณให้มีลักษณะเหมือน ‘ซอสผัด’ ให้มีรสชาติเผ็ดเค็ม
- ใส่พริกไทยอ่อน
- หั่นใบกะเพรา 3 ชนิดพอหยาบๆ ใส่ลงคลุกเคล้ากับซอสผัด ทำเป็นซอสกะเพรา
- ใส่เนื้อปูม้าลงในซอสกะเพรา คลุกเคล้าเบาๆ ให้ซอสกะเพราที่ผัดไว้เคลือบกับเนื้อปู แล้วพักให้เนื้อปูดูดซับซอสกะเพราให้เข้าเนื้อชั่วครู่
- คลุกเคล้าเบาๆ อีกครั้ง ได้เป็นเมนู กะเพราปูไทยดังไกลเวทีโลก รสชาติเค็ม เผ็ด หวานจากเนื้อปูม้าไทย รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ
