เปิดพิกัด Bar อินเทรนด์ 6 แห่ง นิยามใหม่ ดีไซน์ชิค ย่านหลังสวน - ชิดลม

ชิดลม และ หลังสวน มักได้รับการมองว่าเป็นย่านคนทำงานออฟฟิศและสายช้อปปิ้ง เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจการเงิน เป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าระดับโลก ราคาที่ดินเฉลี่ยราว 900,000 บาทต่อตารางวา

แต่เมื่ออาทิตย์ลับขอบฟ้า ทั้งสองโซนนี้ไม่ได้ปิดฉากไปกับเวลาทำงานของคนออฟฟิศ แต่กลับเต็มไปด้วยสีสันยามค่ำคืนอันน่าค้นหา 

วันนี้ชวนทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์ไนท์ไลฟ์อินเทรนด์ใจกลางกรุงเทพฯ อีกหนึ่งทางเลือกชั้นดีและมีสไตล์ใหม่ๆ ไม่ต่างกับย่านสุขุมวิทอันเลื่องชื่อ 

มีครบตั้งแต่บาร์ อิซากายะฟิวชั่น ไปจนถึงเลานจ์วิว 360 องศา ที่เหล่า Bar hopper ทั้งไทย-เทศน่าจะถูกใจไปกับ 6 บาร์สุดชิคในย่านหลังสวนและชิดลม ส่วนหนึ่งของสีสันราตรีกรุงเทพฯ ให้ลองแวะไปเช็กอินชิมบรรยากาศยามค่ำคืน

 

(1) Brewave จิบเครื่องดื่มเย็นๆ บนบาร์น้ำแข็ง

Brewave สาขา Gaysorn Amarin ได้คิดค้นวิธีการเสิร์ฟเครื่องดื่มที่แปลกใหม่บน ‘รางน้ำแข็ง’ หรือที่ทางร้านเรียกว่า Frost Rail บริเวณเคาน์เตอร์บาร์ วิธีนี้จะทำให้สามารถคงอุณภูมิเย็นฉ่ำตลอดการดื่ม 

นอกจากนี้ ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องเมนูที่ผลัดเวียนเปลี่ยนกันมาให้ลิ้มลองมากมาย บรรยากาศที่เป็นกันเองของร้าน Brewave อีกทั้งเมนูอาหารจานเด็ดพร้อมดนตรีสดตลอดคืน ทำให้นี่เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในย่านชิดลมสำหรับการผ่อนคลายหลังเลิกงานหรือการแฮงก์เอาท์สุดเหวี่ยงกับเพื่อนฝูง

• พิกัด: Brewave ชั้น 4, เกษรอมรินทร์ (Gaysorn Amarin)
• เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 11.00 น. – 01.00 น.

(2) Fatboy Izakaya Amarin ยกระดับค่ำคืนกับบาร์สไตล์อิซากายะฟิวชั่น

Fatboy Izakaya ไม่ใช่แค่ร้านอิซากายะที่โดดเด่นเรื่องอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นแหล่งแฮงก์เอาท์สุดคูลสำหรับการพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงอีกด้วย  

ภายในร้านตกแต่งด้วยดีไซน์ฟิวชั่นที่โดดเด่น พร้อมด้วยบรรยากาศที่สนุกสนานโดยมีดีเจเปิดเพลงตลอดทั้งคืน ที่นี่ยังมีเมนูเครื่องดื่มสุดพิเศษที่ชวนให้ลิ้มลอง

ความพิเศษของ Fatboy Izakaya คือการผสมผสานรสชาติอันลงตัวของอาหารอิซากายะสไตล์ฟิวชั่นและเครื่องดื่มเข้ากับแสงสีย่านราชประสงค์และจังหวะเพลง

จึงทำให้ Fatboy Izakaya กลายเป็นแหล่งแฮงก์เอาท์แห่งใหม่ของย่านนี้ที่น่าเปิดประสบการณ์

• เมนูห้ามพลาด: O-Ren Ishi signature cocktail, Premium sake selections, Amarin signature highballs
• พิกัด: Fatboy Izakaya ชั้น 3, เกษรอมรินทร์ (Gaysorn Amarin)
• เวลาเปิด-ปิด: วันอาทิตย์ - วันพฤหัสบดี 11.00 - 15.00 น., 16.00 - 24.00 น.
• เวลาเปิด-ปิด: วันศุกร์ - วันเสาร์ 11.00 - 15.30 น., 16.00 - 01.00 น.

(3) The Loft Bar ดื่มด่ำวิวกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนแบบ 360 องศา

The Loft Bar เป็นบาร์ที่ตั้งอยู่บนชั้น 56 ของโรงแรม Waldorf Astoria การออกแบบของที่นี่ได้รับแรงบันดาลใจจากสตูดิโอศิลปะใจกลางนครนิวยอร์ก

ภายในตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่แบบ 360 องศา ทำให้สามารถดื่มด่ำกับวิวกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนได้แบบพาโนรามา 

เมนูเครื่องดื่มของที่นี่ได้รับการออกแบบมาในสไตล์ Classic twist โดยอิงจาก Old Waldorf Astoria Bar Book รวมไปถึงเมนูซิกเนเจอร์ของ The Loft Bar อย่าง First Airplane และ Blind Tiger ที่ผสานรวมความคลาสสิกและความแปลกใหม่ไว้ในแก้วเดียว 

• เมนูห้ามพลาด: First Airplane, Blind Tiger, Pizzaria
• เวลาเปิด-ปิด: วันอาทิตย์ - วันพฤหัสบดี 17.00 - 24.00 น., วันศุกร์ - วันเสาร์ 17.00 - 01.00 น.
• พิกัด: The Loft Bar ชั้น 56, โรงแรม Waldorf Astoria Bangkok

 

(4) Truth or Dare Lang Suan สร้างตำนานในค่ำคืนที่น่าจดจำ

สำหรับนักเที่ยวเท้าไฟ ร้าน Truth or Dare ในโรงแรม The Duchess Hotel ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ไนท์คลับนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศสนุกสนานน่าค้นหา ที่อยากชวนให้ทุกคนลองไปสัมผัส

คลับนี้เต็มไปด้วยผู้คนและเสียงเพลงสไตล์ House และ Hip-Hop มิกซ์โดยดีเจตลอดทั้งคืน เมนูเครื่องดื่มของที่นี่ก็ชวนสนุกไม่แพ้ชื่อร้าน ทั้งเมนูซิกเนเจอร์ในธีม "Truth" และเมนูช็อตในธีม "Dare" ที่ท้าให้คุณได้ลองสัมผัสรสชาติใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้น

• เมนูห้ามพลาด:  “Truth” Signature Cocktails, “Dare” Shots
• เวลาเปิด-ปิด: ทุกวันตั้งแต่ 19.00 น. 
• พิกัด: Truth or Dare Langsuan ชั้น 1, The Duchess Hotel, หลังสวน

 

(5) Firefly Bar ลิ้มรสเมนูสุดล้ำเคล้ากับดนตรีแจ๊ส

Firefly Bar (บาร์หิ่งห้อย) ตั้งอยู่ในโรงแรม Sindhorn Kempinski Bangkok เป็นบาร์ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบาร์ที่ดีที่สุดในเอเชียประจำปี 2024 โดย Firefly Bar ได้ผสานเมนูสุดครีเอทเข้ากับบรรยากาศดนตรีแจ๊สสบาย ๆ ได้อย่างลงตัว

บาร์หิ่งห้อยแห่งนี้เปิดการแสดงดนตรีแจ๊สสดทุกคืน ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับความเป็นค่ำคืนสุดพิเศษ

เครื่องดื่มของ Firefly Bar มีความโดดเด่นไม่แพ้ใครด้วยเมนูซิกเนเจอร์ที่บาร์เทนเดอร์ของร้านภูมิใจนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็น Elegant Lady in Red No.2 และ Firefly No. 2 

• เมนูห้ามพลาด: Elegant Lady in Red No.2, Firefly No. 2, Pop the Bubble
• พิกัด: Firefly Bar ชั้นล็อบบี้, โรงแรม Sindhorn Kempinski Bangkok
• เวลาเปิด-ปิด: ทุกวันตั้งแต่ 17.00 - 01.00 น.
• ดนตรีแจ๊สเล่นเวลา: 20.00 - 23.00 น.

 

(6)  4th Wall BKK สัมผัสมนต์เสน่ห์คลาสสิก พร้อมเซอร์ไพรส์ทุกคืน

4th Wall BKK บาร์น้องใหม่ที่การันตีคุณภาพด้วยรางวัลระดับแชมป์จากทีม Vesper ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของโรงแรม LUXX Lang Suan

บาร์นี้มีความโดดเด่นที่ด้วยเมนูเครื่องดื่มที่เปลี่ยนทุกวัน ทำให้แต่ละครั้งที่มาเยือน คุณจะได้ลิ้มลองประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่ตลอด

ส่วนสายคลาสสิกไม่ควรพลาดกับ Corpse Reviver No. 2, Adonis และเครื่องดื่มพิเศษประจำวันมากมายที่เหล่าบาร์เทนเดอร์ของร้านคิดค้นขึ้นใหม่ตลอดเวลา

• เมนูห้ามพลาด: Corpse Reviver No. 2, Adonis, Pina Colada (เมนูมีการเปลี่ยนทุกคืน)
• พิกัด: 4thwallbkk ชั้น 2, โรงแรม LUXX Lang Suan
• เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน ตั้งแต่ 19.00 - 02.00 น.