ไชน่าทาวน์ริมโขง เมื่อมังกรมาจ่อริมรั้วบ้าน

ไชน่าทาวน์ริมโขง เมื่อมังกรมาจ่อริมรั้วบ้าน

ลองอ่านบทวิเคราะห์เมืองใหม่ใน"สปป.ลาว" หน้าตาไม่ต่างจากเมือง"จีน" ใช้ได้ทั้งเงินบาทและเงินหยวน แต่เวลาสั่งอาหารต้องใช้ภาษาจีน นี่คืออิทธิพลทางเศรษฐกิจการเมืองของจีนในแผ่นดินลาว

ผู้เขียนเพิ่งลงเรือข้ามโขงที่ด่านเชียงแสนข้ามไปเที่ยวชม เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ (ภาษาลาวเรียกเหลี่ยมคำเฉยๆ) ที่ตั้งของกาสิโนคิงส์โรมันและหมู่อาคารสูงเมืองใหม่ที่ทุนจีนกลุ่มบริษัทงิ้วคำ นำโดย จ้าวเหว่ย ที่ได้สัมปทานระยะยาวจาก สปป.ลาว

และก็มีความคืบหน้าต่อเนื่อง นี่กำลังสร้างสนามบินใกล้เสร็จ เมื่อถึงเวลานั้นน่ากลัวว่ากรงเล็บมังกรจะสยายคุมแม่น้ำโขงเต็มระบบ

การข้ามฟากด้วยบอร์เดอร์พาสสะดวกกว่าที่คิด สมัยก่อนต้องไปถ่ายรูปแปะเอกสารกรอกวุ่นวาย ยุคนี้แค่ยื่นบัตรประชาชนให้เขาก็ทำเอกสารพรินท์เอาท์ออกมาใช้เวลาไม่ถึงนาที แลกกับค่าบริการ 35 บาท ลงเรือไทยข้ามไปยื่นเข้าเมืองด่าน ต.ม.ลาวยุคนี้ก็โอ่โถงทันสมัย

 

"บาท"กับ"หยวน"ของคู่กัน

ฟังจากหลายเสียงยังมีเบี้ยบ้ายรายทางตามปกติ บางทีก็เรียกค่าล่วงเวลา ทั้งที่ยังไม่ถึงล่วงเวลา เป็นต้น ภาษาจีนกลายเป็นภาษาทางการปรากฏคู่กับป้ายภาษาลาวแทบทุกจุด มีช่องพาสปอร์ตจีนผ่านแดนแยกมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้โดยเฉพาะ

เดินออกมามีพนักงานหนุ่มน้อยหน้าใสของกาสิโนนั่งประสานงานเรียกรถตู้รับส่งนักเล่นที่ข้ามไปมาหนาตาทุกวัน หนุ่มคนนี้พูดลาวฟังไทยไม่ได้ ได้คนลาวผู้ช่วยเป็นล่ามอีกชั้น ได้เข้าไปเที่ยวแวะชมจ่ายค่าความรู้ในกาสิโนราวชั่วโมง เพื่อให้เห็นเป็นบุญตา

ไชน่าทาวน์ริมโขง เมื่อมังกรมาจ่อริมรั้วบ้าน

เอาเป็นว่าใหญ่โตตกแต่งหรูหรามีโซนแลกชิปหยวน และชิปเงินบาทไทย ห้องก็แยกกัน ด้านนอกมีตู้สล็อตแยกรับแบงค์เงินบาทเงินหยวนโซนใครโซนมัน

 บ่งบอกว่า ลูกค้าหลักของที่นี่คือ บาท กับ หยวน !!

น่าสนใจนะครับ คนไทยใช้เงินบาทอยู่ใกล้นิดเดียว ไม่น่าแปลกใจเพราะเขาอุตส่าห์มาลงทุนถึงริมรั้ว ข้ามเรือไม่กี่นาที แต่อาณาเขตธุรกิจเขตเศรษฐกิจพิเศษที่นี่ไม่ได้หวังแค่ใช้บ่อนดูดเงินบาทเท่านั้น

มันมีความหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าหลายเท่า ทั้งด้านการเมือง การทหาร และการเศรษฐกิจของมหาอำนาจใหม่

ไชน่าทาวน์ริมโขง เมื่อมังกรมาจ่อริมรั้วบ้าน (กาสิโนคิงส์โรมันและหมู่อาคารสูงเมืองใหม่ ที่ทุนจีนกลุ่มบริษัทงิ้วคำ นำโดย จ้าวเหว่ย ที่ได้สัมปทานระยะยาวจาก สปป.ลาว)

ไชน่าทาวน์เมืองใหม่

ออกไปเที่ยวในย่านไชน่าทาวน์เมืองใหม่ที่จำลองสถาปัตยกรรมตึกแถวอาคาร ย่านถิ่นแบบจีนมาแทบทั้งดุ้น ถ้าเคยไปเมืองจีนมาลักษณะตึกแถวหลายชั้นอาคารร้านค้าหน้าตาแบบนี้แหละ

เมืองใหม่ย่านเศรษฐกิจที่นั่นพิเศษขึ้นมาหน่อยเดียวคือ มีอักษรลาวแปะป้ายหน้าร้านคู่กับอักษรจีนให้พอระลึกได้ว่านี่ยังเป็นประเทศลาวอยู่ เดินเข้าไปในร้านอาหารร้านแรก อาหารเสฉวนที่ร้อนแรงอยากกินมานาน เข้าไปเจ้าของร้านรีบมาต้อนรับ แต่ไม่มีใครพูดไทย พูดลาวได้ เมนูก็มีแต่ภาษาจีนล้วน ภาพถ่ายอาหารให้ชี้ก็ไม่มี ได้แต่เดินคอตกออกไป...

ร้านที่สองดูดี เข้าไปใหญ่โตมา พนักงานเอาเมนูมีภาพถ่ายประกอบมาให้เป็นภัตตาคารตามสั่ง แต่แพงไปสำหรับมื้อเที่ยง

เดินสำรวจไปเรื่อยๆ ในเมืองใหม่แห่งนี้มีแต่ชาวจีนเท่านั้นที่มาลงทุนปักหลักสร้างอนาคตใหม่กัน ร้านแว่นตา ซุปเปอร์มาเก็ต โรงภาพยนตร์ก็มี รถยนต์หรูวิ่งไปมายี่ห้อดังๆ ทั้งนั้น ในไทยตกคันละ 3-4 ล้านก็มี

มันก็คือ เมืองใหม่ของคนจีน โดยคนจีน เพื่อคนจีนล้วนๆ !

ไปได้ร้านสุดท้ายสั่งหมี่คนละชาม โดยอาศัยลูกจ้างไทใหญ่ออกมาสื่อสารให้ เราชี้ภาพถ่ายแล้วใช้เครื่องคิดเลขถามราคาเงินบาท จ่ายเงินไป 500 บาทนิดๆ รวมน้ำดื่ม เห็นป้ายภาษาจีนเขียนราคาต่อชามเป็นเงินหยวนตก 33-35 หยวน ก็แพงใช้ได้ เอ่อ น้ำดื่มยี่ห้อจีน ขนาดโค้กกระป๋อง ก็โค้กจีน

เมืองเศรษฐกิจ เงินคล่อง ของก็แพงตาม.. แม้จะขายให้กับคนจีนด้วยกันก็เหอะ

ไชน่าทาวน์ริมโขง เมื่อมังกรมาจ่อริมรั้วบ้าน (เมืองใหม่แบบจีนๆ ที่สปป.ลาว)

ที่นี่สปป.ลาว แต่เหมือนเมืองจีน

กลับมาออกมาคิดในใจว่าเอ๊ะนี่เรามาเที่ยวเมืองจีน ไม่ใช่เพิ่งกลับมาจากสปป.ลาวหรอก เขตดังกล่าวชาวลาวท้องถิ่นเจ้าของประเทศขี่รถสามล้อเครื่องรับส่งคน ถ้าวิ่งรถเปล่าเร่ร่อนเข้าไปไม่ได้นะครับ ต้องมีคนจ้างจากนอกโซนเข้าไปส่ง เพราะมีแท็กซี่สีขาววิ่งไปมาเป็นเจ้าถิ่น

เคยคุยกับหนุ่มลาวที่เคยไปทำงานที่เขตเศรษฐกิจนี้ เขาเล่าว่า ใครสามารถพูดจีนได้จะได้งานดี เงินเดือนสูงกว่าคนพูดจีนไม่ได้ ตอนนี้หนุ่มสาวลาวฝึกพูดภาษาจีนกันเยอะแล้วก็มีโซนชุมชนเลเบอร์แรงงานท้องถิ่นเช่าห้องถูกๆ อยู่กันเป็นย่านถิ่น ร้านอาหารท้องถิ่น คาราโอเกะท้องถิ่น ร้านเหล้าราคาถูกสำหรับคนลาวก็มี .. ครบวงจรชนชนชั้นปกครองสูง-กลาง-ล่าง-ต่ำภายในเมืองใหม่

ส่วนคนท้องถิ่นเจ้าของที่ดินเดิมที่ถูกเวนคืนเมื่อสิบกว่าปีก่อน รัฐได้สร้างบ้านเป็นชุมชนใหม่ให้ถึงปัจจุบันก็ทรุดโทรมลง ที่สุดลูกหลานก็มาทำงานลูกจ้างจีนนั่นแลไม่ต้องไปไหนไกล

ภายใต้ความกระแสเงินบาทหยวนทำมาค้าคล่องนักท่องเที่ยวไทยจีนเริ่มเข้ามาหลังวิกฤตโควิด น่าเอ็นดูพี่น้องชาวลาวคนท้องถิ่นที่แทบไม่ได้ ก็ยังพยายามจะขอปันน้ำแกงจากเขตเศรษฐกิจ เช่น การไล่ตื๊อถามคนข้ามฝั่งจ้างรถสามล้อไปส่งไหม เผื่อมีคนไม่รู้ว่ามีรถตู้ของบ่อนวิ่งรับส่งให้ฟรี

 

ไชน่าทาวน์ริมโขง เมื่อมังกรมาจ่อริมรั้วบ้าน

เครื่องดื่มในสปป.ลาวก็มาจากเมืองจีน 

อิทธิพลของจีนในแผ่นดินลาว

เมืองต้นผึ้งดั้งเดิมที่เคยเป็นย่านการค้าเศรษฐกิจท้องถิ่น ก็ยังเหมือนเดิม คือเป็นเขตกีบโซน พอเลี้ยงตัวเองเช่นที่เคยเป็นมา

อิทธิพลเศรษฐกิจการเมืองของจีนในแผ่นดินลาว สามารถพล็อตออกมาเป็นกราฟได้ มันคงเป็นกราฟเส้นที่ไต่ขึ้นแบบชันๆ ยิ่งอยู่ยิ่งเข้มแข็ง

และไม่ใช่แค่อิทธิพลของอำนาจการเมืองปักกิ่ง หรือ อิทธิพลเงินหยวนเท่านั้น ... ที่มีน้ำหนักยิ่งกว่าก็คืออำนาจทางสังคมวัฒนธรรม !

 เอาแค่คนรุ่นใหม่ต้องขวนขวายพูดและอ่านจีนให้ออก ซื้อตั๋วเข้าแถวนั่งรถไฟตามธรรมเนียมแบบจีน ป้ายถนนหนทางชื่อร้านค้าเป็นภาษาจีน มีเป้าหมายชีวิต เพื่อทำงานกับจีน ใช้รถจีนโทรศัพท์จีน เครื่องไฟฟ้าจีน รู้สึกว่าขับรถเองสัญจรบนถนนของชาวจีน

พูดภาษาจีน สื่อสารในห้างร้านเป็นเรื่องปกติ การมีนายจ้างเป็นคนจีนที่มาประกอบการตรงไหนก็ได้เป็นเรื่องปกติ ฯลฯ นี่คือการกลืนกลายทางวัฒนธรรมที่มีน้ำหนักยิ่งกว่าเสียอีก

และก็ไม่ใช่แค่ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำที่ยกตัวอย่างถึง สภาพการณ์อิทธิพลมังกรที่ยกตัวอย่างมาได้เกิดโดยทั่วไปในเมืองใหญ่ๆ ของ สปป.ลาวอยู่แล้ว

ที่หลวงพระบาง แม้จะอยู่ใต้เงื่อนไขมรดกโลกยูเนสโก แต่นอกเมืองตุ๊กตาออกไปทางสนามกีฬา/ท่ารถโดยสารกลายเป็นถนนย่านคนจีนไปแล้ว เพราะผู้มาประกอบกิจการก็ชาวจีน ป้ายห้างร้านติดภาษาจีนไปหมดทั้งเส้น

เมืองใหญ่ๆ ที่เหนือขึ้นไปตามแนวรถไฟฟ้าจนถึงเขตเศรษฐกิจบอเตนสิ้นสุดทางรถไฟกลายเป็นเขตอิทธิพลมังกรเรียบร้อยเช่นกัน

ข้ามโขงกลับมา มองย้อนไปยังหมู่ตึกสูงฝั่งตรงข้าม รู้สึกเหมือนเห็นมังกรตัวเป็นๆ สยายกรงเล็บอยู่ริมรั้ว