เมื่อนักท่องเที่ยวอเมริกันก่อเรื่องใน"วาติกัน" เพราะไม่ได้พบ"โป๊ป"

เมื่อนักท่องเที่ยวอเมริกันก่อเรื่องใน"วาติกัน" เพราะไม่ได้พบ"โป๊ป"

ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันเข้าไปเที่ยวในนครวาติกัน อิตาลี แล้วอยากพบ"พระสันตปาปา" แต่ถูกปฎิเสธ จึงโกรธแล้วคว้ารูปปั้นทุ่มลงพื้น ล่าสุดจึงต้องมีมาตรการป้องกัน

ก่อนหน้าที่โลกจะมีปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายๆ ประเทศทั่วโลกที่มีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว มีปัญหาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไหลทะลักเข้ามาในประเทศมากเกินไปและสร้างปัญหาต่างๆ มากมายให้กับคนในพื้นที่

ในตอนนั้นหลายประเทศในยุโรปเริ่มคุยกันว่า จะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศกันเลยทีเดียว แต่เมื่อมีปัญหาโควิด-19 ปัญหาที่เกิดจากนักท่องเที่ยวก็หมดไป สถานที่ท่องเที่ยวในธรรมชาติก็มีโอกาสได้ฟื้นตัวให้กลับมามีคุณภาพอีกครั้งหนึ่ง แต่ที่ไม่ชอบใจ เห็นจะเป็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพราะเมื่อไม่มีนักท่องเที่ยว ก็ทำให้คนตกงานจำนวนมาก

แต่ในปีนี้ ปัญหาโควิดเริ่มคลี่คลาย ประเทศในยุโรปหลายๆ ประเทศรวมทั้งอิตาลี เริ่มกลับมาเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง และนั่นเองที่ทำให้ปัญหาจากนักท่องเที่ยวที่ไม่ยอมทำตามระเบียบกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

นักท่องเที่ยวทำรูปปั้นใน"วาติกัน"เสียหาย

เหตุการณ์ที่แสนจะฮือฮาล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนตุลาคม นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันวัย 65 ปีคนหนึ่งทำให้รูปปั้นโรมันโบราณในพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในนครวาติกันเสียหาย นครวาติกันตั้งอยู่ในกรุงโรม เมืองหลวงของประเทศอิตาลีและเป็นที่ประทับของพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งเป็นประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก

สื่อมวลชนอิตาลีรายงานว่า นักท่องเที่ยวรายนี้ซื้อตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์เจียรามอนติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์วาติกัน ที่นี่มีการจัดแสดงรูปปั้นและภาพสลักที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก อยู่ดีๆ เขาก็เดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่และแจ้งว่า เขาต้องการพบพระสันตปาปา

เมื่อนักท่องเที่ยวอเมริกันก่อเรื่องใน\"วาติกัน\" เพราะไม่ได้พบ\"โป๊ป\" นครวาติกัน

เมื่อนักท่องเที่ยวอเมริกันก่อเรื่องใน\"วาติกัน\" เพราะไม่ได้พบ\"โป๊ป\" ภาพภายหลังเหตุการณ์นักท่องเที่ยวทำลายรูปปั้นภายในพิพิธภัณฑ์เจียรามอนติ

แต่เมื่อถูกปฏิเสธ เขาก็แสดงอาการโกรธเกรี้ยวและหันไปคว้ารูปปั้นครึ่งตัว ซึ่งอยู่ใกล้ๆ และทุ่มลงกับพื้น และในขณะที่เขาพยายามจะวิ่งหนีตำรวจที่กรูกันเข้ามาจะจับเขา เขาก็ทำรูปปั้นอีกชิ้นตกและทำให้จมูกและหูของรูปปั้นหัก

แมทเธโอ อเลสซานดรินี ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อมวลชนของศาสนาจักรกล่าวว่า “รูปปั้นที่เสียหายเป็นรูปปั้นจากนครโบราณของโรม มีอายุราว 2,000 ปี ชิ้นหนึ่งเป็นรูปปั้นชายชราและอีกชิ้นเป็นรูปปั้นของชายหนุ่ม”

ตอนรูปปั้นอันแรกกระทบพื้น เสียงที่เกิดขึ้นดังไปทั่วแกลเลอรี่ ทำให้ตำรวจวาติกันรีบมารวบตัวเขาและส่งให้ทางการอิตาลี

ต่อมาโฆษกของกรมตำรวจแถลงว่า นักท่องเที่ยวคนนี้เดินทางมาเที่ยวที่โรมเมื่อ 3 วันที่แล้วและดูเหมือนมี “สภาวะความกดดันด้านจิตใจ” ตำรวจดำเนินการปรับเขา (แต่ไม่บอกว่าเท่าไหร่) และปล่อยตัวไป

ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำการซ่อมแซมรูปปั้นที่เสียหาย แต่การซ่อมแซมต้องใช้เวลากว่า 300 ชั่วโมง

อเลสซานดรินี กล่าวว่า ตอนแรกคิดว่า ความเสียหายจะมากกว่านี้ ส่วนริค สตีเวส เจ้าของธุรกิจท่องเที่ยวในยุโรปกล่าวว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์ อาจทำให้ทางพิพิธภัณฑ์เพิ่มมาตราการรักษาความปลอดภัย และจะทำให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ชื่นชมศิลปะไม่สามารถชมงานศิลปะได้อย่างใกล้ชิดเหมือนเดิม

มาตราการดูแลรูปปั้น

เขาเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 1972 เมื่อนักธรณีวิทยาจากฮังการีทำลายปิเอต้า ประติมากรรมหินอ่อน ผลงานชิ้นเอกของไมเคิล แองเจลโล ประติมากรชื่อดัง ปิเอต้าเป็นรูปพระแม่มาเรียประทับบนแท่น ขณะที่รองรับพระศพของพระบุตรไว้ในท่าพาดบนตักหลังจากที่ถูกนำลงจากไม้กางเขน

ผลงานชิ้นนี้ถูกนำมาแสดงไว้ที่มหาวิหารนักบุญเปโตร ซึ่งเป็นมหาวิหารเอก 1 ใน 4 แห่งในโรม เหตุการณ์ดังกล่าว ปิเอต้าได้รับการซ่อมแซมและนำกลับมาแสดงอีกครั้ง แต่มีการนำกระจกกันกระสุนมาล้อมรอบไว้

สตีเวสกล่าวว่า เมื่อรูปปั้นประติมากรรมชิ้นนั้นถูกกั้นด้วยกระจกกันกระสุน ผู้คนก็ไม่สามารถมองเห็นมันจากมุมที่ไมเคิลแอนเจโลต้องการให้พวกเขาได้เห็น

เมื่อนักท่องเที่ยวอเมริกันก่อเรื่องใน\"วาติกัน\" เพราะไม่ได้พบ\"โป๊ป\" เมืองปอมเปอี

เมื่อนักท่องเที่ยวอเมริกันก่อเรื่องใน\"วาติกัน\" เพราะไม่ได้พบ\"โป๊ป\" ภาพจากกล้องวงตรปิดเมื่อนักท่องเที่ยวขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้าไปในเขตเมืองปอมเปอี

สถานที่ท่องเที่ยวในอิตาลีและวาติกันเพิ่งกลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเมื่อปลายปีที่แล้ว และปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากนักท่องเที่ยวก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียคนหนึ่งถูกจับขณะขับรถจักรยานยนต์ (โมเพด) เข้าไปในเขตเมืองปอมเปอีได้ประมาณ 1 ไมล์

ทางการของเมืองปอมเปอี กล่าวว่า เส้นทางที่เขาขับรถเข้าไปเป็นพื้นที่ก่อสร้างและถนนนอกกำแพงเมือง จึงไม่ได้ทำความเสียหายแก่ปอมเปอี เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เมื่อปี 1997 เมืองปอมเปอีถูกทำลายและถูกฝังใต้เถ้าและหินภูเขาไฟหนาจากเหตุภูเขาไฟวิซุเวียสปะทุ ชาวเมืองกว่า 15,000 คนเสียชีวิตและถูกฝังทั้งเป็นใต้ลาวา ก่อนโควิดแพร่ระบาด มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากกว่า 2 ล้านคนต่อปีเลยทีเดียวส่วนในเดือนมิถุนายน นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน 2 รายขับรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขึ้นไปบนบันไดสเปน (Spanish Steps) ที่มีชื่อเสียงในกรุงโรม

ตำรวจของกรุงโรมกล่าวว่า นักท่องเที่ยวอเมริกัน 2 ราย อายุ 28 และ 29 ปีถูกควบคุมตัวเมื่อเวลาประมาณ 2.45 นาฬิกาของวันที่ 3 มิถุนายน หลังจากที่พวกเขาขับสกู๊ตเตอร์ไปบนบันไดสเปนและโยนสกู๊ตเตอร์ลงมาทำให้บันไดสเปนเสียหาย พวกเขาถูกปรับคนละ 400 ยูโรหรือประมาณ 15,000 บาทและถูกห้ามไม่ให้เข้ามาในเขตบันไดสเปนเป็นเวลา 2 วัน ในขณะที่มีการประเมินค่าซ่อมส่วนที่เสียหายไว้ที่ 25,000 ยูโร หรือประมาณ 915,000 บาท

เมื่อนักท่องเที่ยวอเมริกันก่อเรื่องใน\"วาติกัน\" เพราะไม่ได้พบ\"โป๊ป\"

บันไดสเปน

เมื่อนักท่องเที่ยวอเมริกันก่อเรื่องใน\"วาติกัน\" เพราะไม่ได้พบ\"โป๊ป\"

ความเสียหายของบันไดสเปนหลังจากนักท่องเที่ยวซาอุพยายามขับรถบนบันไดสเปน

บันไดสเปน เป็นบันไดที่ยาวที่สุดในยุโรป

บันไดสเปนนี้เป็นบันไดที่กว้างและยาวที่สุดในยุโรป ที่นี่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามและล้อมรอบไปด้วยสถาปัตยกรรมแกะสลักอันงดงามแบบโรมัน รวมทั้งเป็นสถานที่จัดงานอีเว้นท์สำคัญๆ เช่น งานแสดงแฟชั่น เหตุผลที่ชื่อบันไดสเปนก็เพราะเดิมนั้น บริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของสถานทูตสเปนนั่นเอง

บันไดสเปนดูจะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ชอบท้าทายกฎระเบียบเพราะในเดือนพฤษภาคม นักท่องเที่ยวจากซาอุดิอาระเบียอายุ 37 ปีขับรถมาเซอร์ราติที่เขาเช่ามาลงมาตามบับันนไดสเปน และทิ้งรถคาบันไดไว้อย่างนั้น การกระทำของเขาทำให้บันไดเสียหาย 2 ขั้นและราวบันไดบิดเบี้ยว

ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่า มีการขับรถมาเซอร์ราติมาจากเขตคนเดินด้านบนของบันไดสเปนและขับลงมาที่บันไดขั้นแรกก่อนที่รถจะหยุด คนขับลงมาดูรถก่อนที่จะเดินหายไป

ต่อมา นักท่องเที่ยวซาอุรายนี้ถูกจับที่สนามบินนานาชาติในเมืองมิลานหลังจากตำรวจตามรอยจากภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่และจากบริษัทให้เช่ารถนั่นเอง เขาถูกตั้งข้อหาทำความเสียหายอย่างรุนแรงแก่มรดกทางวัฒนธรรม

นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่เกิดจากนักท่องเที่ยวที่ไร้ระเบียบที่เกิดขึ้นในขณะที่การท่องเที่ยวในหลายประเทศยังไม่ได้กลับมาอย่างเต็มรูปแบบเหมือนแต่ก่อน ประเทศต่างๆ และคนในพื้นที่คงต้องมีการเตรียมตัวรับปัญหาที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นหลังการระบาดโควิด-19 หมดไป

.............

รูปและเรื่อง : เว็ปไซท์ซีเอ็นเอ็น วอชิงตันโพสต์ ยูเอสเอ ทูเดย์ อาร์ทนิวส์

เมื่อนักท่องเที่ยวอเมริกันก่อเรื่องใน\"วาติกัน\" เพราะไม่ได้พบ\"โป๊ป\" เมืองปอมเปอี

เมื่อนักท่องเที่ยวอเมริกันก่อเรื่องใน\"วาติกัน\" เพราะไม่ได้พบ\"โป๊ป\" ภายในพิพิธภัณฑ์เจียรามอนติ