15 หนัง LGBTQ+ จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2023
ต้อนรับ Pride Month ด้วยหนัง LGBTQ+ น่าดูจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2023 มีทั้งหนังรางวัลปาล์มทองคำอย่าง ANATOMY OF A FALL หนังใหม่ของผู้กำกับ Wes Anderson, หนังซามูไร, หนังใหม่ของผู้กำกับ Hirokazu Kore-eda หนังพล็อตแหวกแนวจากคองโก ฯลฯ
กลับมาอีกครั้งกับการรวบรวมหนังที่มีประเด็นหรือตัวละคร LGBTQ+ จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์สายต่าง ๆ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง Pride Month เดือนมิถุนายน ของปี 2023 นี้ ซึ่งก็มีทั้งหนังที่เล่าเรื่องราวตัวละคร LGBTQ+ เป็นหลักจำนวน 10 เรื่อง และหนังที่สอดแทรกเนื้อหา LGBTQ+ เอาไว้ในฉากเล็ก ๆ อีก 5 เรื่อง 5 ราวด้วยกัน ดังต่อไปนี้
- ANATOMY OF A FALL
กำกับโดย Justine Triet (ฝรั่งเศส) สายประกวดหลัก รางวัลปาล์มทองคำ
สำหรับหนังรางวัลปาล์มทองคำประจำปีนี้ ก็เป็นหนัง courtroom drama ขึ้นโรงขึ้นศาล เกี่ยวกับ Sandra นักเขียนหญิงคนเก่งชาวเยอรมัน ที่ย้ายตาม Samuel สามีชาวฝรั่งเศสมาอาศัยอยู่ ณ บ้านพักตากอากาศท่ามกลางหิมะบนเทือกเขาแอลป์ พร้อมกับ Daniel บุตรชายผู้บกพร่องด้านการมองเห็น
แต่เธอได้กลายเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ หลังเกิดเหตุมรณกรรมของ Samuel ที่พลัดตกลงมาจากหน้าต่างห้องใต้หลังคาจนเสียชีวิต ซึ่งจากการไต่สวนคดีทำให้ความลับของ Sandra ถูกเปิดเผยว่า เธอเคยนอกใจสามีแอบไปมีชู้
แถมชู้ที่ว่าก็เป็นผู้หญิงด้วยกัน สั่นคลอนความน่าเชื่อถือต่อปากคำทั้งหมดของเธอเมื่อในที่สุดแล้ว Sandra จะเป็นหญิงไบเซ็กชวลที่สามารถคบหาได้ทั้งสองเพศจนอาจไม่ได้รัก Samuel ทั้งใจจริง ๆ ทำให้คำให้การของเธอยิ่งมีความน่าเคลือบแคลงได้มากขึ้น!
หนังมีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้
- MONSTER
กำกับโดย Hirokazu Kore-eda (ญี่ปุ่น) สายประกวดหลัก รางวัล Queer Palm
ส่วนหนังที่ได้รับรางวัล Queer Palm หรือหนังที่มีประเด็น LGBTQ+ ยอดเยี่ยมจากเทศกาลฯ ผ่านการตัดสินของคณะกรรมการอิสระ ก็ได้แก่หนังญี่ปุ่นเกี่ยวกับชีวิตเด็กชายวัยรุ่นมีปัญหาและชอบด้อยค่าตัวเองเรื่อง Monster ของผู้กำกับ Hirokazu Kore-eda
หนังได้ใช้กลเม็ดการเล่าแบบ Rashomon-effect ค่อย ๆ เผยต้นตอของปัญหาจากสายตาของตัวละครรายต่าง ๆ ที่ให้ข้อมูลต่างกันไป เนื้อหาส่วนที่อาศัยพฤติกรรมในแบบ LGBTQ+ จึงถือเป็นหนึ่งในความลับของหนังที่อาจจะยังไม่เหมาะกับการแพร่งพราย เสียแต่หนังดันได้รางวัล Queer Palm จากเทศกาลไป มันเลยเหมือนเป็นการไขกุญแจบางดอกแบบกลาย ๆ แม้ว่าอาจจะยังไม่ได้ทำลายอรรถรสทั้งหมดของการรับชม
หนังมีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้
- HOMECOMING
กำกับโดย Catherine Corsini (ฝรั่งเศส) สายประกวดหลัก
ในขณะที่ผู้กำกับหญิงชาวฝรั่งเศส Catherine Corsini กลับเปิดตัวอย่างชัดเจนว่าเธอเป็นเลสเบี้ยน และทำหนังที่เล่าเรื่องราวของตัวละคร ‘หญิงรักหญิง’ มาแล้วหลายครั้ง ใน Homecoming หนังสายประกวดคานส์เรื่องล่าสุดของเธอ จึงไม่น่าจะต้องลุ้นหรือเก็บงำความลับอะไร
Homecoming เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ Khédidja คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวผิวสี ที่ได้งานเป็นพี่เลี้ยงดูแลบุตรของครอบครัวมีอันจะกินจากปารีสในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ณ เกาะคอร์สิกา กับลูกสาววัยรุ่นทั้งสองของเธอ จึงมีทั้งฉากปาร์ตี้และการมีเซ็กส์ของเด็กหญิงวัยรุ่นทั้งกับผู้ชาย และกับผู้หญิงด้วยกันซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติ
จนเกิดเรื่องอื้อฉาวก่อนที่หนังจะได้เปิดตัวฉายว่าผู้กำกับบังคับขืนใจนักแสดงรุ่นเยาว์ให้เปลื้องผ้าเข้าฉากนี้กันหรือไม่ ในขณะที่ตัวหนังจริง ๆ ก็ออกจะมิดชิดและป้องกันการล้ำเส้นในฉากเหล่านี้อย่างดิบดี
- ASTEROID CITY
กำกับโดย Wes Anderson (สหรัฐอเมริกา) สายประกวดหลัก
ผลงานใหม่ของผู้กำกับ Wes Anderson เรื่องนี้นับเป็นงานโชว์การกำกับภาพรวมดาราครึ่งฟ้าฮอลลีวู้ด เล่าเหตุการณ์หลากหลายตัวละครที่เกิดขึ้น ณ การเข้าค่ายดูดาว Junior Stargazer กลางทะเลทรายในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1955
โดยในขณะที่เด็ก ๆ กำลังตื่นเต้นกับกิจกรรมการดูดาวและความรู้ด้านดาราศาสตร์ พวกผู้ใหญ่ก็จับคู่แอบเล่นสวาท หรือไม่ก็มีเรื่องโต้เถียงพิพาทกันอย่างอลวนอลเวง ซึ่ง Wes Anderson ก็ใช้ลูกเล่นบทละครซ้อนบทละครสร้างตัวละครนักเขียนบทละครชื่อ Conrad Earp รับบทโดย Edward Norton ในช่วงขาวดำ
และที่สำคัญคือเขาเป็นตัวละครเกย์ แอบมีความสัมพันธ์กับนักแสดงหนุ่มในค่าย ท้าทายทุกมาตรฐานจริยธรรมในสมัยนั้นด้วยฉาก gay kiss ที่แสนจะสวยงามแปลกตา เมื่อมาอยู่ในหนังของ Wes Anderson หนังมีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้
- HOW TO HAVE SEX
กำกับโดย Molly Manning Walker (สหราชอาณาจักร) สาย Un Certain Regard
อเมริกามีหนังแก๊งค์วัยรุ่นอยากรู้อยากลองอย่าง American Pie (1999) ฝั่งอังกฤษก็ขอมี (Steak & Kidney) British Pie ที่ย้ายมาเล่าในมุมมองของเหล่าวัยรุ่นหญิงที่นัดกันมาฉลองวันหยุดพักผ่อน ณ รีสอร์ทหรู โดยมีการได้เปิดซิงกับผู้ชายแซ่บ ๆ เป็นเป้าหมายหลัก ซึ่งหนังก็เจาะกะเทาะไปถึงการมีเพศสัมพันธ์โดยไร้ความรักของหญิงสาววัยรุ่นในยุคปัจจุบันได้อย่างดี ว่ามีผลต่อชีวิตพวกเธออย่างไรบ้าง โดยเฉพาะกับ Tara หญิงสาวร่างเล็กที่ดูจะดึงดูดผู้ชายได้ยากกว่าสหายสาวของเธอ
หนังแสดงความเปิดกว้างทางเพศด้วยการเขียนบทให้ในกลุ่มฝั่งหญิงสาว และชายหนุ่มมีตัวละครเลสเบี้ยนอยู่ฝั่งละราย ซึ่งในที่สุดพวกนางก็จับคู่คบหากันโดยปริยาย ในขณะที่ฝ่ายหญิงและฝ่ายชายยังจะต้องแอบเหล่แอบมองกันว่ารายไหนหนอที่ดูแล้วหน่วยก้านดีที่สุด หนังมีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้
- ROSALIE
กำกับโดย Stéphanie di Giusto (ฝรั่งเศส) สาย Un Certain Regard
ปี 1870 ในฝรั่งเศสช่วงที่วิทยาการด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และเทคโนโลยียังไม่ได้ก้าวหน้าอะไรมากนัก Rosalie เป็นหญิงสาวที่มีความผิดปกติทางชีววิทยา เนื่องจากร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชายให้มากเกินไป เธอจึงกลายเป็นสตรีมีขนมีหนวดมีเคราเยี่ยงผู้ชาย ฝ่ายบิดาของเธอจึงสอนให้รู้จักโกนหย่อมโลมาเพื่อให้ดูโสภาดึงดูดเพศชาย ก่อนจะเสนอให้สินสอดเพื่อดัน Rosalie เข้าสู่ประตูวิวาห์กับ Abel หนุ่มเจ้าของบาร์เหล้าถังแตก
แต่ Rosalie จะเก็บความลับนี้ได้นานแค่ไหน โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ชิดใกล้กับสามี และเธอจะมีโอกาสใช้ชีวิตแบบ ‘ผู้หญิงมีขน’ อย่างนี้ อย่างที่เธอเป็นสักครั้งได้ไหม ในขณะที่ทุกสายตาต่างมองว่าเธอเป็นตัวประหลาดและอาจนำมาด้วยความเสนียดจัญไร!
หนังเล่าเรื่องราวได้อย่างสมจริงจนชวนให้สะเทือนใจ ในยุคสมัยที่ความเข้าใจในเรื่องอะไรเหล่านี้ยังมีอยู่น้อยมาก
- OMEN
กำกับโดย Baloji (คองโก-เบลเยียม) สาย Un Certain Regard
หนังพล็อตประหลาดจากคองโกเกี่ยวกับคู่สามีภรรยาข้ามชาติ Koffi ชาวคองโก และ Alice ชาวเบลเยียมผู้กำลังตั้งครรภ์ลูกแฝด ทั้งคู่ตัดสินใจเดินทางจากเบลเยียมกลับไปยังบ้านเกิดของ Koffi ที่คองโก เพื่อนำสินสอดไปมอบให้ครอบครัวฝ่ายชาย
เคราะห์ร้าย Koffi ดันเลือดกำเดาไหลไปโดนหลานวัยแบเบาะ ซึ่งทุกคนมองว่าเป็นเครื่องเคราะห์ร้ายตามความเชื่อในคุณไสย์มนต์ดำ Koffi จึงถูกนำตัวไปเข้าพิธีไล่ผี โดยระหว่างที่เดินทางกลับบ้านนั้น พวกเขาได้พบกับ Paco หัวโจกแก๊งค์อันธพาลหัวร้อนที่สูญเสียน้องสาวไปด้วยฝีมือของแก๊งค์คู่อริ
Paco จึงนำทีมไปปรึกษาคณะกะเทยผู้เชี่ยวชาญด้าน vogue dance จัดการแต่งองค์ทรงเครื่องพวกเขาในชุดเดรสสีชมพูเชิงสัญลักษณ์ แสดงเจตนาแตกหักเอาคืนผ่านการแก้แค้นครั้งนี้ จึงเป็นภาพที่แปลกตาดีที่จะได้เห็นแก๊งค์อันพธาล ‘ชายแท้’ ในชุดผู้หญิงสีหวานผ่านฉากการต่อสู้อันแสนจะดุเดือด!
- ALONG CAME LOVE
กำกับโดย Katel Quillevere (ฝรั่งเศส) สาย Cannes Premiere
ปี 1947 ณ เมืองเล็ก ๆ ริมหาดนอร์มังดีทางตอนเหนือของฝรั่งเศส François นักศึกษาหนุ่มมาดผู้ดี พบรักกับ Madeleine คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวผู้หาเช้ากินค่ำราวเป็นบุพเพสันนิวาส แต่ แต่ แต่! ทั้งคู่ดูจะมีความสุขด้วยกันได้ไม่นาน เมื่อ François ค่อย ๆ เผยว่าเขามีรสนิยมทางเพศเป็นอย่างไร
โดยเฉพาะเมื่อ François และ Madeleine ได้ชวน Jimmy ทหารผิวสี G.I. มาร่วมเตียงแบบ threesome ทำให้ทุกฝ่ายได้กระจ่างว่าแท้แล้ว François อาจเป็นหนุ่มไบเซ็กชวล
ผู้กำกับหญิง Katel Quillevere ไม่ลืมที่จะถ่ายทอดภาพของสองโลกที่แตกต่างระหว่างรสนิยมทางเพศอันเป็นส่วนตัวของ François กับพื้นที่สาธารณะที่บังคับให้เขาต้องกลายเป็น ‘ชายแอบ’ ในยุคนั้น และหายนะมันจะใหญ่หลวงแค่ไหนหากเขาไม่สามารถขีดเส้นคั่นระหว่างโลกสองใบนี้ได้ ดังที่แสดงไว้ในหนังเรื่องนี้
- KUBI
กำกับโดย Takeshi Kitano (ญี่ปุ่น) สาย Cannes Premiere
หนังซามูไรชายชาติทหารสุดโหดผลงานการกำกับของผู้กำกับสายบู๊หน้านิ่ง Takeshi Kitano ที่ดูจากหน้าหนังแล้วไม่น่าจะมีอะไรเควียร์ได้เลย เรื่องราวการต่อสู้กันระหว่างก๊กเหล่าต่าง ๆ ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ที่เหล่าขุนศึกต่างแย่งชิงอำนาจสร้างความเป็นใหญ่กันเองในช่วงสงครามกลางเมือง
ขุนศึกโนบุนางะจอมโหด ถูกลอบทำร้ายโดยคนของเขาเอง นำไปสู่ความระส่ำระสายทั้งภายนอกและภายใน เมื่อเรื่องของอำนาจบารมีไม่เข้าใครออกใคร ต่อให้คมกระบี่จะต้องเปื้อนเลือดเกรอะกรังขนาดไหนก็ต้องยอมเสียเลือดเนื้อของกองทัพไปเพื่อให้ได้ชัยชนะกลับคืนมา
แน่นอนว่าเนื้อหาหลักของ Kubi อุดมไปด้วยการต่อสู้หักเหลี่ยมเฉือนคมทั้งคมดาบและคมไหวพริบตามขนบของหนังซามูไรสายโหดโดยทั่วไป แต่จุดที่สร้างความแตกต่างให้กับหนังซามูไรเรื่องนี้ได้อย่างมากมายก็คือ ชายชาติทหารเหล่านี้เขามีจิตปฏิพัทธ์อันลึกซึ้งถึงขั้นคบหากันเป็นคู่รักร่วมเรียงเคียงหมอนกันเลยทีเดียว
และมิได้มีแค่คู่เดียว แต่ละรายต่างยึดถือปฏิบัติกันเป็นธรรมเนียมเลยว่าเกิดมาเป็นซามูไรยังไงก็ต้องมีคู่จิ้น ไม่เว้นแม้แต่ท่านแม่ทัพ Kubi จึงเป็นหนังซามูไรแบบวายกระจาย แถมไม่ต้องหลบซ่อนเอียงอายเพราะต่างฝ่ายต่างภูมิอกภูมิใจใน ‘ผู้ชาย’ ของตนเสียเหลือเกิน!
- STRANGE WAY OF LIFE
กำกับโดย Pedro Almodovar (สเปน) สาย Special Screening
ปิดท้ายด้วยหนังสั้นความยาวเพียง 31 นาทีของผู้กำกับเควียร์ Pedro Almodovar ที่ฉายกันแบบ ‘พิเศษ’ ในสาย Special Screening ซึ่งก็มาในแนวหนัง (Cow)boys’ love และได้นักแสดงดัง Ethan Hawke และ Pedro Pascal มารับบทเป็น Jake คาวบอยหน่วยปราบปรามผู้ร้าย และ Silva ชายชาวเม็กซิกัน ตามลำดับ
ทั้งคู่ไม่ได้พบเจอกันมานานถึง 25 ปี และหลังจากที่ปราศรัยทักทาย ใช้เวลาทานอาหารค่ำด้วยกันเรียบร้อยแล้ว ปฏิบัติการรำลึกความหลังเมื่อครั้งที่พวกเขาแอบคบหาเป็นคู่รักกันจึงปะทุขึ้นอีกครั้ง ณ ห้องพักของ Jake นั่นเอง แต่เวลายาวนานถึง 25 ปี ย่อมมีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย หนังจึงไม่ได้แสดงภาพการลุกโชนครั้งใหม่ของถ่านไฟเก่าในใจพวกเขาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนอารมณ์รันทดที่ต้องแอบซ่อนตัวตนในโลกแบบ toxic masculinity ของสังคมคาวบอยในช่วงปี 1910 นั้นด้วย
นอกจากหนังที่เล่าเนื้อหาประเด็น LGBTQ+ ทั้งสิบเรื่องนี้แล้ว เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประจำปี 2023 ยังมีหนังเรื่องอื่น ๆ ที่มีตัวละคร LGBTQ+ มาร่วมสร้างสีสันให้เนื้อหาเรื่องราวแบบเล็ก ๆ อีกห้าเรื่องด้วยกัน คือ
1) FIREBRAND กำกับโดย Karim Aïnouz สายประกวดหลัก เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์อันอำมหิตระหว่างกษัตริย์ Henry VIII กับพระชายาองค์ที่หก Katherine Parr โดยมีตัวละครตลกหลวงเป็นชายชราหนวดเคราดกหนาออกมาแต่งตัวเป็นผู้หญิงสร้างเสียงหัวเราะครื้นเครงในงานเลี้ยง
2) THE NATURE OF LOVE กำกับโดย Monia Chokri สาย Un Certain Regard เล่าเรื่องราวของ Sophia ศาสตราจารย์สาวด้านปรัชญาผู้ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมชีวิตของเธอถึงมีผู้ชายงานดีเข้ามาขยี้หัวใจให้หวั่นไหวเยอะจัง โดยเฉพาะในระหว่างที่เธอมีคู่ครองอยู่แล้ว ซึ่งเธอก็มีเพื่อนเกย์คอยให้คำปรึกษา เผื่อว่าจะได้มุมมองที่แตกต่างจากเพื่อนหญิงคนอื่น ๆ
3) THE SETTLERS กำกับโดย Felipe Galvez สาย Un Certain Regard เล่าเรื่องราวย้อนยุคไปยังช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ในชิลี เมื่อกลุ่มคนผิวขาวทั้งจากอังกฤษและอเมริกา เข้ามารุกรานจับจองพื้นที่ทำกินจากคนพื้นถิ่นอย่างอุกอาจ ก็มีฉากที่ฝั่งนายจ้างคนผิวขาวฝ่ายชายเสพสังวาสกันเองอย่างท้าทาย ประกาศให้คนในพื้นที่รู้ว่า เสพเมถุนกันเองจะยังดีกว่าต้องเอาสีผิวมาแปดเปื้อนกับสตรีในท้องที่!
4) HOPELESS กำกับโดย Kim Chang-hoon สาย Un Certain Regard จากเกาหลีใต้ เล่าเรื่องราวของหนุ่มน้อยจากครอบครัวยากจนทนอยู่กับชีวิตเส็งเคร็ง ที่สุดท้ายก็หันไปหา ‘เงินเร็ว’ ด้วยการเรียนรู้การใช้ชีวิตในโลกอาชญากรรมจากหัวโจกขี้เก๊กรุ่นพี่ ซึ่งวิธีการหนึ่งในการแบล็คเมล์เหยื่ออาเสี่ยก็คือการวางยาแล้วจับแก้ผ้า ขึ้นเตียงถ่ายรูปกับนายแบบจำเป็นอีกรายในสภาพไร้อาภรณ์เช่นกัน เพราะเห็นตัวเองแบบนั้นแล้วใครกันจะไม่ยอมจ่ายเงิน! หนังมีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้
5) BONNARD, PIERRE AND MARTHE กำกับโดย Martin Provost สาย Cannes Premiere เล่าชีวประวัติของจิตรกรชื่อดังชาวฝรั่งเศส Pierre Bonnard (1867-1947) กับ Marthe de Méligny หญิงสาวรายสำคัญที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างงาน โดยมีฉากที่ Bonnard พา muse หรือแรงบันดาลใจหญิงรายใหม่เข้าบ้าน พร้อมชวนขึ้นเตียงแบบ threesome นำไปสู่ฉากเผลอที่ muse หลวงและ muse น้อยหันมาจุมพิตกันเองอย่างดูดดื่ม!
