ชีวิตมงคลกับมหัศจรรย์เลข 7 | วรากรณ์ สามโกเศศ
แต่ละสังคมมีเลขที่ชื่นชอบ หรือถือว่าเป็น เลขมงคล แตกต่างกัน ในกลุ่มวัฒนธรรมจีนคือเลข 8 ในวัฒนธรรมไทยคือเลข 9 เเละในวัฒนธรรมตะวันตกคือเลข 7 คำถามก็คือเพราะเหตุใดจึงชอบเลขเหล่านี้เป็นพิเศษ และเราจะรู้ไปทำไม วันนี้เราจะมาดูเลข 7 ของวัฒนธรรมตะวันตก
เลข 7 ปรากฏอยู่ในวัฒนธรรมตะวันตก ซึ่งมีศาสนาคริสต์เป็นหลักมายาวนานนับพันปี เราเห็นเลข 7 กันในหลายเรื่อง เช่น สิ่งอัศจรรย์ 7 อย่างของโลก คนแคระ 7 คนในเรื่องสโนว์ไวต์ รุ้ง 7 สี มีเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิลมากมายที่เกี่ยวพันกับเลข 7
นอกจากนี้ในศาสนาอื่นก็มีเลข 7 เช่น พระพุทธเจ้าทรงเดิน 7 ก้าวเมื่อประสูติ นอกจากนี้หนึ่งอาทิตย์มี 7 วัน ทะเล 7 แห่ง และ 7 ทวีป โน้ตดนตรีมี 7 เสียง ฯลฯ
เหตุใดคนจึงชอบเลข 7 จนบางคนที่เชื่อถือโชคลางเห็นว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ผู้คนในโลกตะวันตกและอีกจำนวนมากในซีกอื่นของก็โลกชอบเลข 7 เพราะเหตุผลดังต่อไปนี้
(1) ในเชิงวิชาการ เลข 7 มีความเป็นพิเศษโดยเป็นเลขที่โดดเดี่ยวออกมาไม่เหมือนเลขอื่นระหว่าง 1 ถึง 10 เพราะไม่สามารถหารหรือคูณระหว่างเลขอื่นๆ ให้เป็นเลข 7 ได้ ซึ่งต่างจากเลข 6 (2 คูณ 3) เลข 10 (2 คูณ 5) เลข 8 (4 คูณ 2 หรือ 8 หาร 2) เลข 2 (8 หาร 4) เลข 9 (9 หาร 3) ฯลฯ
การที่ไม่สามารถใช้เลขใดระหว่าง 1-10 ทั้งคูณและหารกันให้เป็นเลข 7 ได้ (ยกเว้น 7 คูณหนึ่ง หรือ 7 หารด้วย 1) ดังนั้น เลข 7 จึงมีความเป็นพิเศษ
คนจำนวนหนึ่งจึงชอบเลข 7 เป็นพิเศษ เพราะจำได้ง่าย จึงถูกใช้เป็นเลขตั้งรหัส นอกจากนี้ในเชิงความจำ ตัวเลขที่มีจำนวนไม่เกิน 7 ตัวเท่านั้นที่คนสามารถจำได้ ดังนั้น เบอร์โทรศัพท์ในโลกจึงมักมีไม่เกิน 7 ตัว และความเป็นพิเศษของเลข 7 นี้จึงเเพร่หลายไปทั่วโลก
(2) วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาในประวัติศาสตร์ มีบทบาทสำคัญต่อความเชื่อและความชอบของคน เลข 7 ปรากฏในหลายศาสนาและหลายความเชื่อจนกลายเป็นเลขมงคล ซึ่งต่างจากบางเลขเช่นเลข 4 ที่ถือว่าเป็นเลขอัปมงคลในกลุ่มวัฒนธรรมจีน (ญี่ปุ่นและเกาหลี) เพราะเลข 4 ในภาษาจีนออกเสียงคล้าย “ซี้” ซึ่งเเปลว่า “ตาย”
ในทางตรงกันข้าม ชอบเลข 8 เป็นพิเศษเพราะเมื่อเขียนเป็นอักษรจีนแล้วคล้ายกับ คำว่า “มั่งคั่ง” เลข 9 ในวัฒนธรรมไทยออกเสียงตรงกับ “ก้าว” ซึ่งหมายถึงการขับเคลื่อนไปข้างหน้าอันเป็นความก้าวหน้า (ระวังเลข 9 ข้างหน้าและข้างหลังของป้ายทะเบียนรถยนต์เพราะรถจะเสียบ่อยเพราะถูกสะกดให้อยู่กับที่)
(3) คนเชื่อถือไสยศาสตร์หรือเอียงทางสายมูเล็กๆ น้อยๆ มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งโลกใบนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ไม่ว่าเจริญรุ่งเรืองหรือเสื่อมลง สำเร็จหรือล้มเหลว สมหวังหรือผิดหวัง อยู่ดีหรือตาย ฯลฯ
เมื่อต้องเลือกเลขไม่ว่าจะเป็นเลขผานาทีของพิธีกรรม เลขรหัส เลขหวย ฯลฯ ก็เลยเอาความเชื่อของสังคมของตนเองมาปะปน และตัวเลขมงคลของสังคมก็เลยติดมาด้วย
(4) เลข 7 ถูกเอามาใช้เพื่อความสะดวกในการตั้งเลขหรือรหัสเพื่อความง่ายในการจดจำ สาเหตุหนึ่งที่แฮกเกอร์ที่รู้ข้อมูลส่วนตัวของเรา เช่น วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ บ้านเลขที่ ฯลฯ และ เอามาผสมกับเลข 7 จนสามารถทำร้ายเราได้ก็เพราะความสะดวกนี่แหละ ดังนั้น จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการตั้งรหัส
ความนิยมเลข 7 มาจากลักษณะพิเศษทางคณิตศาสตร์และจิตวิทยา การสืบทอดทางศาสนาวัฒนธรรม ความเชื่อทางไสยศาสตร์และความสะดวกในการจดจำ เมื่อมีข้อมูลว่าเลข 7 เป็นที่นิยม การเลียนแบบก็เกิดขึ้นและเกิดเป็นกระแสกระจายไปทั่วตลอดเวลานับร้อยนับพันปีที่ผ่านมา
นักคณิตศาสตร์ชื่อ Alex Bellos ให้คน 44,000 คน ทั่วโลกระบุเลขที่ชื่นชอบที่สุด ผลก็คือประมาณ 10% หรือ 4,000 บอกว่าเลข 7 ซึ่งเหนือกว่าเลขอื่นทั้งหมด อันดับสองคือเลข 3 และอันดับสามคือเลข 8 นอกจากนี้ก็ชอบเลขคี่มากกว่าเลขคู่
คำถามที่สำคัญอีกข้อก็คือ การศึกษาว่าผู้คนชื่นชอบเลขใดจะเป็นประโยชน์อย่างไร คำตอบก็ได้แก่
(1) การเข้าใจจิตวิทยาของคนในสังคมต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องตัวเลข ทำให้เป็นประโยชน์ต่อการตลาดและการสร้างแบรนด์ของสินค้า ลองจินตนาการว่าถ้าตั้งราคาสินค้า 44.44 หยวนในจีนนั้นจะขายได้หรือไม่ เมื่อเทียบกับ 88.88 หยวน
เพราะทั้งดึงดูดความสนใจและสำหรับบางคนอาจถือเป็นสินค้าที่เป็นมงคลเอาด้วยซ้ำ การกำหนดชั้นของคอนโดก็สำคัญ หากต้องการขายหรือให้คนในวัฒนธรรมจีนเช่า บางแห่งจะไม่มีชั้น 4 ถ้าท่านจะซื้อห้องและคิดว่าวันหนึ่งอาจให้คนเหล่านี้เช่าแล้ว ก็สมควรเลือกห้องที่มีเลข 8 และหลีกเลี่ยงเลข 4
(2) การสื่อสารข้ามวัฒนธรรม การเข้าใจสิ่งที่สังคมอื่นบูชาหรือเชื่อถือหรือถือว่าเป็นสิ่งอัปมงคลนั้นสำคัญอย่างยิ่ง เช่น การมอบนาฬิกาให้เพื่อนคนจีนเป็นของขวัญคือความผิดพลาด การเลือกจำนวนของขวัญหรือจำนวนแขก การพูดถึงเลขที่ไม่เป็นมงคล ฯลฯ ล้วนเป็นเรื่องอ่อนไหวที่ควรเข้าใจบริบทของวัฒนธรรมที่เกี่ยวพันด้วย
(3) ตัวเลขที่สังคมหนึ่งชื่นชอบอย่างมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมความเชื่อและการดำรงชีวิต เป็นความสนใจของนักมานุษยวิทยาและนักสังคมวิทยาที่ต้องการช่วยทำให้เกิดความเข้าใจระหว่างสังคมและมนุษยชาติยิ่งขึ้น
การศึกษาอดีตและความเป็นมามิได้เป็นไปเพื่อความสนุกและความอยากรู้หากเพื่อการนำมาอธิบายสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันและช่วยพยากรณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
Ian Fleming ผู้เขียนนิยายอมตะชุด James Bond ที่นำมาทำเป็นภาพยนตร์ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก เข้าใจเรื่องตัวเลขเป็นอย่างดี จึงตั้งรหัสของพระเอกว่า 007 ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าเป็นรหัส 004 แล้ว จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะพระเอกรหัส 004 คงดูกันไม่จืดในจีนญี่ปุ่นเละเกาหลีเป็นแน่