สายเที่ยวเฮ! ยกเลิกตรวจคัดกรองเข้าภูเก็ต ทุกช่องทาง เริ่ม 1 พ.ค.นี้

สายเที่ยวเฮ! ยกเลิกตรวจคัดกรองเข้าภูเก็ต ทุกช่องทาง เริ่ม 1 พ.ค.นี้

สายเที่ยวเฮ! บอร์ดโรคติดต่อภูเก็ต มีมติยกเลิกตรวจคัดกรองเข้าภูเก็ต ทุกช่องทาง เริ่ม 1 พ.ค.นี้ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อลดต่อเนื่อง ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยยังยึดตามประกาศ ศบค. เชื่อจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงโลว์ซีซั่น

สถานการณ์โควิด-19 ใน จ.ภูเก็ต ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 8/2565 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมฯ และมีนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วม

 

 

วาระสำคัญ คือ การพิจารณามาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตทุกช่องทาง ทั้งทางบก (ด่านท่าฉัตรไชย) ทางน้ำ (ท่าเรือทุกท่า) และทางอากาศ (ผ่านทางสนามบินภูเก็ตภายในประเทศ) ตามคำสั่งที่ 2056/2565 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่กำหนดไว้ว่า คนที่จะเดินทางเข้าภูเก็ตจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดส ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด หรือเป็นผู้ป่วยโควิดมาแล้วไม่เกิน 90 วัน หากไม่ได้รับวัคซีนจะต้องแสดงหลักฐานการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยวิธี RT-PCR หรือ ATK ภายใน 72 ชั่วโมง

 

จากการสอบถามความคิดเห็นของภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ต่างให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ขณะนี้รายงานการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดภูเก็ตมีตัวเลขลดลงต่อเนื่อง และเป็นไปในทิศทางที่ดี รวมถึงในส่วนของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเช่นกันพบมีตัวเลขผู้ติดเชื้อจำนวนไม่มาก จึงเห็นควรให้มีการยกเลิกคำสั่งมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ทุกช่องทาง

 

เพื่อให้สอดคล้องกับ มติ ศบค. เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ให้ผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศ โดยไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR แล้ว

 

นอกจากนี้ยังเพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนไทยเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจของภูเก็ตกระเตื้องขึ้น ส่วนของผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรนั้นก็ให้เป็นไปตามมติของ ศบค.

 

 

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการประชุมฯ ว่า ที่ประชุมได้มีการวิเคราะห์สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จากการรายงานของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พบว่ามีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจน ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ยืนยัน 98 ราย

 

และเพื่อให้สอดคล้องกับมติของที่ประชุม ศบค.เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่มีการผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ประชุมจึงมีมติร่วมกันให้ยกเลิกมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 นี้ เป็นต้นไป โดยผู้ที่เดินทางเข้าภูเก็ตจะไม่มีการตรวจใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดวัคซีน หรือตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในทุกช่องทาง

 

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯภูเก็ต กล่าวว่า การยกเลิกมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าภูเก็ตนั้นจะเป็นส่วนช่วยให้คนไทยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ตได้สะดวกขึ้น และสามารถมาเที่ยวได้ทุกคน เนื่องจากตลาดคนไทยเป็นตลาดที่สำคัญ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของภูเก็ต ในช่วงโลว์ซีชั่นดีขึ้น และทดแทนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบางประเทศที่เริ่มหายไป ส่วนแนวโน้มการแพร่ระบาดของโควิดคงจะไม่เพิ่มขึ้น จากการติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง พบว่าอยู่ในช่วงขาลง หรือหากจะมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นจำนวนมาก ทางหน่วยงานด้านสาธารณสุขของจังหวัดได้เตรียมพร้อมดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

 

ขณะที่ นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความพร้อมในการรับมือหากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ หลังการยกเลิกมาตรการตรวจคัดกรองเข้าจังหวัดภูเก็ตในทุกช่องทางว่า

 

เหตุที่มีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ของทางจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากสถานการณ์การติดเชื้อรายใหม่ลดลง และกระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับตัวเลขของผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบ ซึ่งจะดูว่าศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้เป็นอย่างไร ซึ่งผู้ป่วยปอดอักเสบของจังหวัดภูเก็ตมีประมาณ 20 ราย และอัตราการใช้เตียงในโรงพยาบาลอยู่ที่ประมาณ 24-25% หากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มีอาการจะสามารถรองรับได้ และจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดน้อยลง รวมถึงอาการก็ลดน้อยลง ซึ่งใช้หลักการ "เจอ แจก จบ" รวมถึงมาตรการ 2 ยู ได้ Universal Prevention และ Universal VACCINE และสามพอ ได้แก่ ยาพอ ครุภัณฑ์และวัคซีนพอ รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์เพียงพอ ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมในการเข้าสู่โรคประจำถิ่น

 

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อด้วยว่า แม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ แต่เราก็ยังคง มาตรการ Universal Prevention รวมถึงการฉีดวัคซีนให้กับทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือ กลุ่ม 608 ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก

 

ข่าวโดย สาลินี ปราบ จ.ภูเก็ต