"หลวงพี่กาโตะ" เจ้าคณะเมืองคอนสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน

กรณีคลิปเสียง - แชทกล่าวอ้างถึงพระรูปหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช ว่าแอบมีสัมพันธ์กับหญิงสาวบนรถ ซึ่งก่อนหน้านี้ พระพงศกร จันทร์แก้ว หรือ "หลวงพี่กาโตะ" ที่ถูกพาดพิงถึงได้ออกมาเปิดใจยืนยันความบริสุทธิ์ตามที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามล่าสุดเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งเจ้าคณะอำเภอตั้งคณะกรรมการสอบสวน หลวงพี่กาโตะ

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- คดีพลิก ! สาวกุเรื่อง “หลวงพี่กาโตะ” อ้างป่วยไบโพลาร์

- "หลวงพี่กาโตะ" ตอบปมคลิปเสียง-แชท พระนักเทศน์แอบสัมพันธ์สาวบนรถ (คลิป)

- วอน "พระนักเทศน์" สึก เปิดใจ หลวงพี่กาโตะ สุดตกใจเสียงคล้ายอาตมามาก

- แฉหลวงพี่ "พระนักเทศน์" ชื่อดังภาคใต้ แอบมีสัมพันธ์สาวบนรถ

 

วันนี้ (29 เม.ย.2565) พระครูสิริธรรมมารัตน์ เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุติ) กล่าวว่า ตั้งแต่รู้ข่าววันแรกทางคณะสงฆ์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งมีการทำหนังสือด่วนที่สุดให้เจ้าคณะอำเภอฉวางแต่ตั้งคณะกรามการ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จะเป็นผู้เชี่ยวชาญ มีความรู้ในแต่ละด้าน เช่น ด้านเทคโนโลยี ด้านกฎหมาย ด้านพระธรรมวินัย อยู่ระหว่างคัดเลือกคณะกรรมการ พร้อมจะเร่งรัดให้มีการตรวจสอบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งผลการสอบข้อเท็จจริงอยู่ที่หลักฐานที่ได้รับ เช่น คลิปเสียงสนทนา หลักฐานทางการเงิน แต่ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ทั้งผู้ร้องเรียน ฝ่ายผู้หญิง และฝ่ายพระที่ถูกกล่าวหา (หลวงพี่กาโตะ) ยอมรับว่าข่าวที่ออกมาพระพุทธศาสนาได้รับผลกระทบ แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากพระรูปเดียว

 

อย่างไรก็ตาม พระที่ถูกกกล่าวหา (หลวงพี่กาโตะ) ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่หากผลสอบเป็นอย่างไรก็ถือพระรูปที่ถูกกล่าวหาปฏิบัติ ตอนนี้กำลังเร่งรัดทางเจ้าคณะอำเภอเร่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ทางคณะสงฆ์จะตัดสินความผิดพระทีถูกกล่าวหาก็เป็นไปไม่ได้ เพราะในทางสงฆ์ การตัดสินให้พระปาราชิก โดยที่ยังไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงถือว่าเป็นการประหารชีวิต

 

 

พระครูสิริธรรมมารัตน์ เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุติ) กล่าวอีกว่า ส่วนการที่ทางคณะสงฆ์จะดำเนินการเรียกพระรูปที่ถูกกล่าวหามาสอบสวนนั้น ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกฎของสงฆ์ระบุชัดว่าการตรวจสอบเรื่องต่างที่เกี่ยวกับพระสงฆ์ต้องทำตามขั้นตอน เช่นกรณีนี้ต้องอันดับแรกต้องเป็นหน้าที่ของพระสงฆ์ที่ทำหน้าที่เป็นพระอุปัชฌาย์ให้กับพระรูปที่ถูกกล่าวหา แต่ทราบว่าพระอุปัชฌาย์ แจ้งว่า มีการโทรศัพท์และเดินทางไปหาพระที่ถูกกล่าวหาแล้ว แต่ไม่พบ อย่างไรก็ตามช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เคยได้รับเรื่องร้องเรียนพระที่ถูกกล่าวหามาแล้ว 2-3 ครั้ง และเคยเรียกมาว่ากล่าวตักเตือนแล้ว