นักท่องเที่ยวทะลักด่านสะเดาวันเดียว 1,300 คน
ด่านสะเดาคึกคักนักท่องเที่ยวทะลักด่านไทย-มาเลเซีย วันเดียว 1,300 คน สูงสุดในรอบปีหลังเปิดประเทศ เอกชนปลื้มยก 3 ปัจจัยหนุนเศรษฐกิจและท่องเที่ยวฟื้นตัวเริ่มที่ปลดล็อค Test & Go จูงใจนทท.ฉลองฮารีรายอ
ที่ด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย โดยเฉพาะด่านสะเดา จ.สงขลา มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและมาเลเซียเดินทางเข้ามา 1,300 คนสูงที่สุดหลังเปิดด่านรอบใหม่หลังเกิดสถานการณ์โควิด19 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการยกเลิกระบบTest & Go มีผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวที่รอบนี้ไม่ต้องจองโรงแรม ไม่ต้องตรวจ RT-PCR จากเดิมที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายนับหมื่นบาทเหลือเพียง 800 บาทประกอบกับอยู่ในช่วงฮารีรายอของพี่น้องมุสลิมทำให้เป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านแดนไทย-มาลเซียมากเป็นพิเศษ
เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา (ตม.) รายงานข้อมูลผู้ที่ลงทะเบียนเดินทางผ่านด่านสะเดาวันที่ 1พ.ค.65สูงถึง1,300คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการเปิดด่านอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1เม.ย.ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งยอมรับว่าเป็นผลมาจากการผ่อนคลายมาตรการTest & Go ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์รวมถึงนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นๆที่พำนักในประเทศมาเลเซียเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น และที่สำคัญช่วงนี้ตรงกับวันฮารีรายอของพี่น้องมุสลิมโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีแรงงานส่วนหนึ่งที่ทำงานในมาเลเซียใช้โอกาสนี้เดินทางกลับเพื่อมาอยู่กับครอบครัวในวันฮารีรายอด้วย
ขณะที่ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมหาดใหญ่-สงขลา เปิดเผยว่า มี 3ปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ปัจจัยแรกคือการยกเลิกระบบTest & Go มีส่วนทำให้นักท่องเที่ยวสนใจเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น และปัจจัยที่ 2 เป็นจังหวะดีที่การผ่อนคลายมาตรการตรงกับช่วงฮารีรายอและปัจจัยที่3 ศบค.ปรับให้จังหวัดสงขลาเป็นพื้นที่สีฟ้าซึ่งปัจจัยทั้งหมดทำให้กระตุ้นให้บรรยากาศท่องเที่ยวกระเตื้องขึ้นในรอบปีที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาวันเดียว 1,300 คนและส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซียร้อยละ 70 ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลัก ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวมีความหวังมากขึ้นว่าหลังจากนี้เศรษฐกิจจะดีขึ้นอย่างแน่นอน