ร้านค้าส่งสับปะรดเดือดร้อน หลัง "ราคาน้ำมัน" ดีเซลพุ่งสูงขึ้น
พ่อค้าแม่ค้าสับปะรด โอด หลังน้ำมันดีเซลปรับราคาสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อระบบขนส่ง วอนรัฐบาลเร่งแก้ปัญหา บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน
เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 65 ที่ ตลาดรัถการคอมเพล็กซ์ ตลาดขายผลไม้ค้าส่ง เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้ประกอบการ ร้านค้าผลไม้เดือดร้อนกันถ้วนหน้า หลังราคาน้ำมันดีเซลพุ่งสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อระบบการขนส่ง ที่ต้องนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง
นายปรีชา ผลเงาะ พ่อค้าขายส่งสัปปะรด ตลาดรัถการคอมเพล็กซ์ เผยว่า ในฐานะที่ตนเป็นพ่อค้าขายส่ง อาจจะเดือดร้อนไม่มาก แต่รายได้ที่ควรได้รับกลับลดลงเกินครึ่ง ซึ่งปกติตนนำรถกระบะไปรับสับปะรดมาจากจังหวัดกระบี่ และใส่น้ำมันครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท แต่ตอนนี้ใส่ครั้งหนึ่งตกอยู่ที่เกือบ 2,000 บาท บวกกับตอนนี้สับปะรดก็ราคาตกต่ำ ขายได้กำไรลูกละแค่ 1-2 บาทเท่านั้น ถือว่ากำไรน้อยมาก
นอกจากนี้ มองว่า ยังมีอีกหนึ่งกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักมากกว่า นั่นคือ เจ้าของสวนโดยตรง เพราะนอกจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นแล้ว ราคาปุ๋ยก็ปรับสูงขึ้นเช่นกัน ดังนั้นตอนนี้ก็ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนสัก 1-2 เดือน
แต่อย่างไรก็ตาม การขึ้นราคาของสับปะรด ยังไม่มี แต่จะใช้วิธีปรับลดขนาดของสับปะรดให้เหมาะสมตามราคาแทน เพราะเกรงว่าลูกค้าจะได้รับผลกระทบ
แต่หากไม่ไหวจริงๆ ก็คงจะต้องปรับขึ้นราคาสับปะรดตามไปด้วยแน่นอน เพราะต้นทุนการขนส่ง ค่าแรง และค่าครองชีพทุกวันนี้ปรับสูงขึ้นกันหมดแล้ว
ขณะที่ นางฐิตาภรณ์ รักบุรี แม่ค้าขายปลีกสับปะรด ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เผยว่า ทุกสัปดาห์ต้องมาซื้อสับปะรดที่อำเภอหาดใหญ่ เพื่อนำไปจำหน่ายต่อ ซึ่งปกติจะไปรับเองจากจังหวัดกระบี่ แต่สู้กับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นไม่ไหว เลยมาเลือกซื้อที่นี่ เพราะเป็นพันธุ์เดียวกับที่ขายอยู่ แต่อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาน้ำมันแพงโดยด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสภาวะค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นทุกอย่าง