คืนเงินไม่จบ "อดีตพระกาโตะ" ความผิดสำเร็จแล้ว ปมยักยอกเงินวัด 6 แสน

คืนเงินไม่จบ "อดีตพระกาโตะ" ความผิดสำเร็จแล้ว ปมยักยอกเงินวัด 6 แสน

ตำรวจ ปปป. ยัน "อดีตพระกาโตะ" คืนเงินยักยอกวัด ก็ไม่จบ เพราะทำผิดสำเร็จแล้ว ขณะที่ "สีกาตอง” อาจโดนคดีกรรโชกทรัพย์

จากกรณีนายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ อดีตพระกาโตะ นักเทศน์ชื่อดังที่ตกเป็นข่าวฉาวมีความสัมพันธ์กับสีกา แม้จะลาสิกขาเพื่อยุติปัญหา แต่ทว่ายังถูกเปิดโปงพฤติกรรมเพิ่มเติมเรื่องการนำเงิน 600,000 บาทจากบัญชีของวัดเพ็ญญาติ จ.นครศรีธรรมราช ที่ถูกระบุว่าจ่ายให้ “พระคนกลาง” และ “สีกาตอง” เพื่อปกปิดข่าว ต่อมา “อดีตพระกาโตะ” ได้นำเงินจำนวน 600,000 บาท คืนวัดแล้ว

ล่าสุด (6 พ.ค.65) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย inside Thailand ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นคดีอาญาแผ่นดิน เป็นการกระทำความผิดของเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.สงฆ์ ซึ่งอดีตพระกาโตะ ได้เอาเงินของวัดไปใช้ส่วนตัว เจ้าหน้าที่พิจารณาเบื้องต้นเข้าข่ายความตามมาตรา 147 คือ เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ แม้จะนำเงินมาคืนแล้ว แต่ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ยังจบไม่ได้ เพราะในอดีตพระกาโตะเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ จึงถือเป็นเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.สงฆ์ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังต้องตรวจสอบต่อว่ามีใครให้การสนับสนุนอดีตพระกาโตะในการนำเงินก้อนดังกล่าวออกมาหรือไม่

ส่วนการที่ “อดีตพระกาโตะ” อ้างว่าเป็นการหยิบยืมชั่วคราวและนำเงินไปคืนแล้ว พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า เงินส่วนรวมจะไปหยิบยืมอย่างไรก็ไม่สมควร โดยต้องดูที่เจตนา ซึ่งจากที่ตนเองทราบตอนแรกอดีตพระกาโตะหยิบยืมไปไม่มีใครรู้ก็เงียบ พอเริ่มจะมีข่าวว่าจะเป็นความผิดก็เริ่มดิ้นเพื่อเอามาคืน ซึ่งการที่นำเงินไปใช้ผิดประเภททั้งที่เป็นเงินบริจาคที่ประชาชนให้เพื่อเอาไปสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมแต่เอาไปใช้ส่วนตัว

ส่วนที่คณะกรรมการวัดอ้างว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ “อดีตพระกาโตะ” หามาได้ จึงยืมไปได้ ซึ่งไม่ใช่เพราะหากเป็นส่วนตัวต้องแยกบัญชีกัน ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดำเนินการก็จะเป็นตัวอย่างให้วัดอื่นๆ ทำตามได้

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังระบุถึงการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเรียก “สีกาตอง” มาให้ปากคำด้วย ว่า เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย อดีตพระกาโตะอาจจะเป็นเหยื่อก็ได้ เพราะว่ากรณีนี้ดูลึกๆ เข้าไปมีการกรรโชกทรัพย์ด้วย ซึ่งหากได้ข้อมูลจากอดีตพระกาโตะเราอาจจะได้ข้อมูลลึกๆ ว่าเป็นการวางแผนเพื่อจะมารีดทรัพย์หรือไม่ ดังนั้นทั้ง “อดีตพระกาโตะ” และ “สีกาตอง” หากบริสุทธิ์ใจก็ควรที่จะมาให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการให้ตรงไปตรงมา ยืนยันเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

เมื่อถามว่าการที่ “สีกาตอง” เรียกทรัพย์จากอดีตพระกาโตะเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่าอาจจะเข้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตรวจสอบก่อน ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินจำนวน 600,000 บาทของพระกาโตะ จะมีการตรวจสอบหรือไม่นั้น ต้องดูทั้งเส้นทางการเงินการสอบปากคำร่วมด้วย ซึ่งวันนี้ตำรวจจะมีการพาเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ไปสอบปากคำทุกฝ่าย ทั้งคนในวัด พระ และนายกอบต. 

 

นอกจากนี้ “พล.ต.ต.จรูญเกียรติ” ยังวิเคราะห์พฤติการณ์ของ “สีกาตอง” ที่มีการแอบอัดคลิปแล้วนำไปปล่อย ว่า ส่วนตัวเชื่อว่าเจตนาไม่ดี ต้องเกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างอดีตพระกาโตะกับสีกาตอง จึงได้อัดคลิปไปปล่อยเพื่อให้เกิดประเด็น ซึ่งจริงๆ ทั้งคู่ได้ร่วมกันกระทำความผิดอยู่แล้ว แต่พระกาโตะยังเป็นพระมีอายุน้อยประสบการณ์น้อย การที่ถูกสีกาคนหนึ่งหน้าตาดีไก่แก่แม่ปลาช่อนมาหลอกอาจจะทำให้ผิดพลาดไปบ้างก็เป็นไปได้