"หมอปลา" โต้กลับ "อนุชา" อย่าใช้อำนาจผูกขาดฝ่ายเดียว ลั่นตนทำงานเพื่อสังคม
"หมอปลา" ลั่นพร้อมสู้ในกระบวนการยุติธรรม โต้กลับ "อนุชา" อย่าใช้อำนาจผูกขาดพุทธศาสนาฝ่ายเดียว ยันทำงานเพื่อสังคมและไม่ได้กินเงินภาษีประชาชน
จากประเด็นร้อน นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีสั่งให้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) รวบรวมหลักฐานเอาผิด นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา กรณีเข้าไปตรวจสอบวัดต่าง ๆ โดยไม่มีอำนาจ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้(28 พฤษภาคม 2565) นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา ได้เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวว่า ตนไม่ได้กลัวแต่ขอฝากไปถึงผู้ใหญ่ที่ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ให้ไปดูรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 67 ว่าเขียนไว้ว่าอย่างไร
ซึ่ง มาตรา 67 รัฐพึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือมาช้านาน รัฐพึงส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาและการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาท เพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจและปัญญา
และต้องมีมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาไม่ว่าในรูปแบบใด และพึงส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีส่วนร่วมในการดำเนินมาตรการหรือกลไกดังกล่าวด้วย
หมอปลา กล่าวต่อว่า ฉะนั้นอย่าผูกขาด ตนก็เป็นพุทธศาสนิกชน เป็นชาวพุทธเหมือนกัน ถ้ามาตรการและกลไกในการป้องกันมิมีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนามันทำงาน และเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนมีส่วนร่วมในมาตรการหรือกลไกดังกล่าว ก็จะไม่มีใครวิ่งมาหาตนหรอก
"กฎหมายเขายังแก้ไขปรับปรุง แล้วเครื่องมือหรือกลไกของพวกคุณปรับปรุงหรือสร้างขึ้นมาหรือยัง อย่าผูกขาดฝ่ายเดียว ทำให้ครบ ส่วนที่มากล่าวหาว่าหมอปลาสติไม่ดีก็ขอบอกว่า คนสติไม่ดีอย่างหมอปลาทำงานเพื่อสังคม โดยไม่ได้กินภาษีประชาชน"
เมื่อนักข่าวถามว่า การที่ผู้ใหญ่ออกมาแบบนี้ผิดปกติ หรือมีชื่อนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่? หมอปลา ตอบว่า เรื่องนี้ตนไม่รู้ อย่าคิดว่าตนอยู่ฝั่งไหนแล้วต้องมาโจมตีฝั่งนั้น ตนอยู่ฝั่งคนที่เขาเดือดร้อนและเสียหาย ไม่ได้เกรงกลัวอำนาจรัฐ แต่วันนี้พวกคุณกำลังใช้อำนาจของคุณที่ทำถูกต้องหรือเปล่า อย่าผูกขาดเรื่องนี้ฝ่ายเดียว
ทั้งนี้ หมอปลา ยังถามกลับด้วยว่า เอาหลักฐานที่ไหนมากล่าวหาว่าตนมีพฤติกรรมบ่อนทำลายพุทธศาสนา ที่ตนออกมาเพราะมีพุทธศาสนิกชนมาร้องเรียน คุณเป็นศาลหรืออย่างไร จะกล่าวหาอย่างไรก็ว่าไปเพราะตนพร้อมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม