ด่วน! สั่งย้ายฟ้าผ่า "ผู้การฯสุราษฎร์ธานี" เซ่นคดีดังสังหารสาวเจ้าของบ่อน
ผบช.ภ.8 สั่งย้ายฟ้าผ่า "ผู้การฯสุราษฎร์ธานี" เซ่นปมคดีดังสาวเจ้าของบ่อนการพนันถูกยิงตาย พร้อมตั้งกรรมการสอบใน 30 วัน
ความคืบหน้าเหตุ 2 คนร้าย บุกยิง นางสาวจิตรภัส เชิดชูพงศ์เจริญ อายุ 43 ปี สาวคนดังวงพนัน จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิต ภายในคาร์แคร์ที่ถูกดัดแปลงเป็นบ่อน ในพื้นที่ซอยบางชุมโถ หมู่ 1 ต.วัดประดู่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเบื้องต้นตำรวจตั้งปมขัดแย้งกันในบ่อนการพนัน ขณะที่แม่ผู้ตายเชื่อเป็นฝีมือผู้มีอิทธิพลที่สังหารลูกสาวและหวังฮุบบ่อนการพนัน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (10 มิถุนายน 2565) พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 มีหนังสือคำสั่งที่ 192/2565 ให้ พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ผู้การฯสุราษฎร์ธานี) ไปปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 8 โดยขาดจากต้นสังกัด เพื่อปฏิบัติตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 8 มอบหมาย มีกำหนดเวลา 30 วัน (ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน - 9 กรกฎาคม 2565)
พร้อมกันนี้ได้มีคำสั่งที่ 193/2565 ให้ พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ไปรักษาราชการแทนในตำแหน่ง "ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี" อีกตำแหน่งหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน เป็นต้นไป จนกว่าจะมีผู้มาดำรงตำแหน่งตามปกติ หรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้สืบเนื่องวันเดียวกันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้มีคำสั่งที่ 191/2565 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากกรณีมีการโพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ว่า เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2565 นางสาวจิตตภัส เชิดพงศ์เจริญ อายุ 43 ปี ได้ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่คาร์แคร์ใน ต.วัดประดู่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี โดยอ้างว่าผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าของบ่อนถูกยิงเสียชีวิตภายในบ่อนของตัวเอง
จึงได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากตำรวจภูธรภาค 8 พิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และมีกรณีสงสัยว่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี, รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้รับผิดชอบพื้นที่และผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะมีส่วนบกพร่องในการป้องกันและปราบปรามอบายมุข จึงมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการฯ
โดยมี พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นประธานกรรมการ มีกรรมการและเลขานุการ รวม 4 คน ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว กฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แล้วรายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็นให้ทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีคำสั่ง