พาณิชย์ ตรวจเข้มร้านสังฆภัณฑ์รับเทศกาลเข้าพรรษา
พาณิชย์จังหวัดอุทัยธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลุยตรวจร้านสังฆภัณฑ์ ภายในย่านเศรษกิฐอำเภอเมืองจังหวัดอุทัยธานี หวังควบคุมการจำหน่ายสินค้าต้องได้มาตรฐาน ติดป้ายราคาและ ราคาที่เป็นธรรม และป้องปรามการฉวยโอกาสช่วงเทศกาลเข้าพรรษา
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 65 นางอัมพิกา พ่างสกุล พาณิชย์จังหวัดอุทัยธานี นำเจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สคบ.ออกตรวจร้านจำหน่ายเครื่องสังฆทาน และเครื่องสังฆภัณฑ์ เทียนพรรษา ในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา หรือลักลอบนำสินค้าหมดอายุ เสื่อมคุณภาพ และไม่ได้มาตรฐาน มาบรรจุใส่ชุดเครื่องสังฆภัณฑ์วางจำหน่ายในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ปี 2565 ที่ชาวไทยพุทธจะนิยมซื้อต้นเทียน และเครื่องสังฆภัณฑ์ไปทำบุญตามวัดต่างๆ เพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณีอันดีงามของไทยเป็นประจำทุกปี
โดยจากการออกสุ่มตรวจร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์พบว่า มีการปิดป้ายแสดงราคา และรายการสินค้าในชุดสังฆภัณฑ์ที่นำมาวางจำหน่าย อย่างไรก็ตาม หากได้รับร้องเรียนหรือสุ่มตรวจพบผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืนไม่ปิดป้ายแสดงราคา หรือรายการสินค้าที่นำมาบรรจุในชุดเครื่องสังฆภัณฑ์ หรือนำสินค้าหมดอายุเสื่อมคุณภาพมาสอดไส้ในชุดสังฆภัณฑ์ และมีการจำหน่ายแพงเกินความเป็นจริง จะถูกดำเนินการเอาผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ขณะที่ผู้ประกอบการจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ เผยว่า ปีนี้ยอดจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์เริ่มคึกคักขึ้นมีพุทธศาสนิกชนทยอยออกมาซื้อกันอย่างต่อเนื่อง และเริ่มขายดี เนื่องจากมีการผ่อนคลายมาตรการโควิด – 19 แต่ปีนี้ลูกค้ามีพฤติกรรมลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี แต่บางคนก็จะรวมซื้อเป็นกลุ่มหรือหมู่บ้าน โดยการสุ่มตรวจร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา หรือนำสินค้าหมดอายุเสื่อมคุณภาพมาสอดไส้ในชุดสังฆภัณฑ์วางจำหน่ายให้ลูกค้าที่จะซื้อไปทำบุญ พร้อมกันนี้ ยังได้ย้ำเตือนผู้ประกอบการและพ่อค้าหัวใสที่ตระเวนซื้อเครื่องสังฆทาน และต้นเทียนตามวัดต่างๆ ที่พุทธศาสนิกชนนำไปถวายพระแล้วนำกลับมาเวียนขายในราคาถูก เพราะสินค้าบางประเภทที่บรรจุในชุดเครื่องสังฆภัณฑ์อาจหมดอายุ หรือเสื่อมคุณภาพ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อพระสงฆ์ หรือผู้ที่นำไปใช้ได้ หากตรวจพบก็จะดำเนินการเอาผิดผู้ประกอบการดังกล่าวเช่นกัน แต่ขณะนี้ยังไม่พบมีการกระทำผิดแต่อย่างใด