กทม.สั่งสำรองเตียง - ยาฟาวิพิราเวียร์ รับผู้ป่วย "โควิด" ระลอกใหม่

กทม.สั่งสำรองเตียง - ยาฟาวิพิราเวียร์ รับผู้ป่วย "โควิด" ระลอกใหม่

กทม.กำชับทุกหน่วยงานเฝ้าระวัง "โควิด" หยุดยาว สั่งสำรองเตียง - ยาฟาวิพิราเวียร์ - ยาโมลนูพิราเวียร์ - ยาแพกซ์โลวิด รับผู้ป่วยระลอกใหม่

วันที่ 12 ก.ค. ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด กทม. ครั้งที่ 25/2565 โดยมีคณะกรรมการ และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม ที่ห้องรัตนโกสินทร์ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) และผู้เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล

ผศ.ดร.ทวิดา ได้เน้นย้ำข้อสั่งการของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ที่ได้สั่งการในที่ประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ครั้งที่12/2565 วานนี้ (11 ก.ค.) โดยกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือกรณีเกิดโควิดระบาดระลอกใหม่ ที่อาจมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้น รวมทั้งการสื่อสารประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข และสำนักงานเขต ให้ประชาชนทราบถึงระบบการรับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ชัดเจน หากมีเรื่องติดขัดต้องสามารถชี้แจง และตอบคำถามประชาชนได้เสมอ 

กทม.สั่งสำรองเตียง - ยาฟาวิพิราเวียร์ รับผู้ป่วย \"โควิด\" ระลอกใหม่

ผศ.ดร.ทวิดา กล่าวว่า ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์นี้ที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน ประชาชนอาจมีการไปท่องเที่ยว รวมกลุ่มทำกิจกรรมจำนวนมาก จึงขอให้ประชาชนยังคงเข้มมาตรการป้องกันตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงการติด และแพร่เชื้อ โดยให้เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น หากมีความเสี่ยงหรือมีอาการให้ตรวจด้วย ATK ทั้งนี้ ได้กำชับให้ผู้อำนวยการเขตเตรียมความพร้อมในการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด หากในพื้นที่มีสัญญาณว่าจะเกิดคลัสเตอร์ ต้องเตรียมระบบการรับ-ส่งผู้ป่วย รวมทั้งสำรวจสถานที่ในการจัดตั้งศูนย์พักคอย และความจำเป็นในการเตรียมพื้นที่สำรองมีมากน้อยแค่ไหน ต้องมีการวิเคราะห์สถานการณ์ล่วงหน้า เพื่อบริหารจัดการหากเกิดการแพร่ระบาดในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที

กทม.สั่งสำรองเตียง - ยาฟาวิพิราเวียร์ รับผู้ป่วย \"โควิด\" ระลอกใหม่

ผศ.ดร.ทวิดา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเตียงรองรับผู้ป่วยให้พร้อม การสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ ยาโมลนูพิราเวียร์ และยาแพกซ์โลวิด รวมทั้งยาอื่นๆ ต้องสามารถบริหารจัดการยา และแจกจ่ายให้กับประชาชนได้อย่างเพียงพอ ที่สำคัญในการป้องกันการติดเชื้อนั้นประชาชนยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางหรือกลุ่ม 608 ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ ผู้ติดเชื้อ และกลุ่มเสี่ยงสูง ผู้ให้บริการใกล้ชิดผู้อื่น รวมถึงผู้ที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ 

"ทุกคนควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่ออยู่ในสถานที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เพื่อป้องกันการรับและแพร่เชื้อโควิดสิ่งสำคัญคือ ขอให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนโควิดโดยเฉพาะเข็มกระตุ้นเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน จะช่วยลดความเสี่ยงอาการรุนแรงและการเสียชีวิตได้"ผศ.ดร.ทวิดา ระบุ

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์

กทม.สั่งสำรองเตียง - ยาฟาวิพิราเวียร์ รับผู้ป่วย \"โควิด\" ระลอกใหม่