"ผู้พันเบิร์ด แนะ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ร.9 เกราะป้องกันยุคข้าวยากหมากแพง 

"ผู้พันเบิร์ด แนะ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ร.9 เกราะป้องกันยุคข้าวยากหมากแพง 

"ผู้พันเบิร์ด" บรรยายพิเศษ โรงเรียนทหารสื่อสาร ระบุ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ ร.9 ไม่ล้าสมัย แต่คือเกราะป้องกันยุคข้าวยากหมากแพง ทำคนรวยรวยอีก คนจนก็รวยได้

17 ก.ค.2565 ที่โรงเรียนทหารสื่อสาร พ.อ.วันชนะ สวัสดี หรือ ผู้พันเบิร์ด รองโฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะจิตอาสา 904  เป็นวิทยากรบรรยายเรื่อง หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในตอนหนึ่งโดยระบุว่า  หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นความรู้ความจริงที่เมื่อทำแล้ว เป็นประโยชน์กับผู้ปฏิบัติ ทำแล้วไม่ตกอับแน่นอน บางคนมีฐานะดีขึ้นด้วย แม้เศรษฐีระดับโลกก็ใช้หลักนี้ ยิ่งสภาพเศรษกิจแบบนี้ยิ่งต้องใช้ 
  \"ผู้พันเบิร์ด แนะ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ร.9 เกราะป้องกันยุคข้าวยากหมากแพง 

เศรษฐกิจพอเพียง นี้เป็นเหมือนศีล กล่าวคือไม่ได้บังคับให้ต้องทำ แต่ถ้าทำแล้วจะเกิดประโยชน์กับผู้ทำทันที เป็นหลักประกันได้ว่า จะผ่านพ้นปัญหาทางเศรษฐกิจของครอบครัวได้ อีกทั้งจะนำพาไปสู่ ฐานะที่มั่นคงและดีขึ้นด้วย แต่ที่ รัชกาลที่ 9 ได้เอาปรัชญานี้ไปรวมกับเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ เพราะประเทศไทยมีคนประกอบอาชีพเกษตรกรรมมากที่สุด พระองค์จึงนำไปช่วยคนส่วนใหญ่ของประเทศก่อน แต่ในความจริงนั้นทุกสาขาอาชีพก็ใช้ปรัชญานี้ได้


\"ผู้พันเบิร์ด แนะ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ร.9 เกราะป้องกันยุคข้าวยากหมากแพง 

 


โดยเมื่อพิจารณาทั้ง3ห่วง คือ พอประมาณ มีเหตุผล และภูมิคุ้มกัน ก็เป็นหลักที่ทุกคนต้องใช้ในการพิจารณา ในการเลือกใช้สิ่งของสำหรับตนเองว่า มีเหตุผลและพอประมาณหรือไม่ เกินตัวไหม ส่วนภูมิคุ้มกันนี้ยิ่งชัดเจนว่า เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด หรือแม้แต่ปัจจุบัน คนจำนวนมากเกิดความขัดสน ชักหน้าไม่ถึงหลังนี้ ก็เพราะ ไม่นำปรัชญานี้มาใช้เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าต้องไปทำการเกษตรเท่านั้น เขาจึงไม่มีภูมิคุ้มกันที่เก็บไว้ยามจำเป็น

ทั้งนี้หากทุกบ้านสามารถคิดออกมาได้ว่า รายจ่ายแต่ละเดือนคือเท่าไหร่ บ่างอย่างจ่ายทุกเดือน บางอย่างจ่ายรายปี เอามารวมกันทั้งปีแล้วหารเฉลี่ยเป็นเดือน นั่นเป็นเงินที่เราควรมีเก็บไว้ 1เดือน และถ้าอยากมีภูมิคุ้มกันมากๆ ก็เก็บให้มากขึ้นเป็น 6-12เดือน เมื่อตกงาน เราก็มีเงินเพื่อใช้จ่ายแล้ว6-12เดือนระหว่างหางานใหม่ ถ้าเก็บมากก็มีภูมิคุ้มกันมาก และเมื่อพิจารณาถึง2เงื่อนไข มีความรู้และคุณธรรม อันนี้จะเป็นตัวช่วยให้เรามีฐานะดีขึ้น  เมื่อเรามีเงินเก็บมากพอที่จะไปลงทุน 

"คนส่วนใหญ่จะพลาดเพราะไม่มีความรู้ และที่สำคัญคือ ขาดคุณธรรมคือ มีความโลภเข้ามานำก่อน เมื่อขาดทั้งสองอย่างก็ทำให้ผิดพลาดง่าย ยิ่งไปกว่านั้นคือ ดันไม่มีภูมิคุ้มกันคือเงินสำรองอีก ยิ่งไปกันใหญ่ เมื่อไม่มีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวยก็จนได้ จนก็ยิ่งจนเข้าไปอีก แต่ถ้ามีปรัชญานี้ รับรองไม่ตกอับ แน่นอน รวยก็รวยอีก จนก็รวยได้ ย้ำว่า ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงนี้ไม่ล้าสมัย ทำได้จริงและเหมาะกับทุกคน ทุกอาชีพ เป็นเหมือนเกราะป้องกันตน และสามารถพัฒนาตนให้ดีขึ้นอีกด้วย" พ.อ.วันชนะ ระบุ