"สุรเชษฐ์ หักพาล" จำชื่อนี้ไว้ เพื่อนหรือใครอย่าแอบอ้าง หลังจับ พ.ต.อ. เรียกเงิน 6 ล้าน
มาแรงมาก "สุรเชษฐ์ หักพาล" จำชื่อนี้ไว้ เพื่อนหรือใครอย่าแอบอ้าง หลังจับ พ.ต.อ. เรียกรับเงิน 6 ล้าน เตือนไว้เลยอย่าลองของ
กลายเป็นกระแสฮอตโซเชียล มาแรงมาก สำหรับ "สุรเชษฐ์ หักพาล" หรือ บิ๊กโจ๊ก ผู้ช่วย ผบ.ตร. จำชื่อนี้ไว้ เพื่อนหรือใครอย่าแอบอ้าง หลังจับ พ.ต.อ. เรียกรับเงิน 6 ล้าน เตือนไว้เลยอย่าลองของ
"บิ๊กโจ๊ก” รุดสอบปากคำ “ผกก.” เพื่อนร่วมรุ่น หลังแอบอ้างชื่อช่วยเหลือคดีชาวอังกฤษ เรียกรับเงิน 6 ล้านบาท พบหลักฐานชัดเจน - เส้นทางการเงิน เผยเจ้าตัวรับสารภาพ ทำมาแล้วหลายครั้ง ย้ำถึงแม้เป็นเพื่อนร่วมรุ่น แต่ทำผิดต้องดำเนินคดี แจงจับผู้ต้องหาอ้างชื่อ 5 รายแล้ว ไม่กังวลใจ เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางเข้าสอบปากคำ พ.ต.อ. ตำแหน่งผู้กำกับการ หรือ ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฉ้อโกง หลังแอบอ้างว่าสนิทกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลวงผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้ต้องกักชาวต่างชาติว่าสามารถช่วยเหลือทางคดี และสามารถประกันตัวผู้ต้องกักได้ โดยมีการเรียกรับเงินจำนวน 6 ล้านบาท
ลำดับเหตุการณ์
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสามารถจับกุมตัวนายชายชาวอังกฤษ ผู้ต้องหาตามหมายจับสากลคดีเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ซึ่งเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยใช้พาสปอตปลอม สัญชาติอังกฤษ ทางการของประเทศอังกฤษ มีความประสงค์ให้ส่งตัวกลับประเทศเพื่อดำเนินคดี ทาง สตม. จึงต้องทำการกักตัวไว้ ที่ กก.3 บก.สส.สตม.
ต่อมา ได้มี น.ส.ธิฯ ผู้เสียหายได้ขอเข้าประกันตัวผู้ต้องกัก แต่ไม่สามารถขอประกันตัวได้ ผู้เสียหายจึงขอความช่วยเหลือไปยังนายธนัญฯ ซึ่งรู้จักกับนายวิทยา และนายวิทยาอ้างว่ารู้จักกับ พ.ต.อ. ผู้ต้องหา เป็นนักเรียนนายร้อยรุ่น 47 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และมั่นใจว่าจะสามารถช่วยเหลือทำเรื่องประกันตัวชายชาวอังกฤษได้ ทำให้ผู้เสียหายและนายธนัญฯหลงเชื่อ โดยนายวิทยาแจ้งว่า ต้องมีค่าดำเนินการและชำระเงินในกับนายวิทยาจำนวน 6 ล้านบาท
ความแตกถูกหลอก
ต่อมา วันที่ 29 มิ.ย. 2565 นายธนัญฯ และนายวิทยา ได้เข้าติดต่อร้อยเวรรักษาการณ์ ประจำสถานกักกันคนต่างด้าว เพื่อเข้าพบชายชาวอังกฤษ แต่ร้อยเวรแจ้งว่าไม่สามารถเข้าพบได้เนื่องจากผิดระเบียบของการเข้าเยี่ยม แต่นายวิทยาได้พยายามให้ร้อยเวรคนดังกล่าวพูดคุยกับบุคคลที่อ้างว่าเป็น พ.ต.อ. ซึ่งเป็นชุดทำงานของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมทั้งอ้างว่าผู้ต้องกักทำงานและเป็นสายให้กับตนเอง และพยายามจะเข้าพบผู้ต้องกักให้ได้
ขณะที่ทางด้านร้อยเวรยืนยันว่า ไม่สามารถให้เข้าพบได้เนื่องจากขัดระเบียบปฏิบัติและให้ติดต่อกับผู้บังคับบัญชาโดยตรง หลังจากนั้นนายวิทยา ได้แจ้งให้น.ส.ธิและนายธนัญ โอนเงินให้ครบจำนวน 6 ล้านบาท เมื่อผู้เสียหายโอนเงินให้ครบตามจำนวนและพยายามติดต่อเรื่องขอประกันตัว กลับพบว่านายวิทยาพยายามบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จนพักหลังไม่สามารถติดต่อได้แล้ว จึงเข้าร้องทุกข์
จากแนวทางการสืบสวนพบว่า นายวิทยามีการติดต่อกับพ.ต.อ. ในห้วงเวลาเกิดเหตุจริง มีพยานบุคคลที่สามารถยืนยันได้ว่า ทั้งคู่มีการแอบอ้าง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. จริง ส่วนเส้นทางการเงินจำนวน 6 ล้านบาท ได้แบ่งกระจายไปตามบัญชีต่าง ๆ โดยได้มีการโอนเงินให้นายวิทยา 3 แสนบาท ส่วนที่เหลือได้โอนกระจายไปยังคนในครอบครัวของ พ.ต.อ. ประกอบไปด้วย แม่ ลูก และภรรยา ก่อนที่จะโอนกลับเข้ามายังบัญชีของ พ.ต.อ. รวมจำนวนกว่า 5 ล้านบาท
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้เข้าไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมรุ่น เจ้าตัวให้การรับสารภาพ จากการสืบสวนพบว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ผู้ต้องหาเคยมีพฤติการณ์ในลักษณะนี้หลายครั้ง ถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อร่วมรุ่นกันแต่ถ้าเพื่อนทำผิดก็ต้องดำเนินคดี เพื่อนดีก็ต้องส่งเสริม เพื่อนไม่ดีก็ไม่ละเว้น ซึ่ง 3 เดือนที่ผ่านมา ตนจับกุมผู้ต้องหาที่แอบอ้างชื่อตน เพื่อกระทำความผิดรายนี้ถือเป็นรายที่ 5
ตามล่าผู้แอบอ้าง
ผช.ผบ.ตร.ไม่ได้รู้สึกกังวลใจ แต่เกรงว่าประชาชนจะหลงเชื่อ จึงฝากบอกประชาชนว่าถ้าต้องการสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผม สามารถโทรมาได้ที่ สว.นนท์ ตำรวจติดตามที่เบอร์ 064-954-9197 ยืนยันว่าไม่มีพฤติกรรมในการเรียกรับผลประโยชน์ และฝากไปถึงกลุ่มบุคคลที่อ้างชื่อในการกระทำความผิดจะดำเนินการจับกุมให้หมด
ทั้งนี้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน ว่าในคดีนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายเรียกผู้ต้องหา ทั้งผู้หลอกลวง และเจ้าของบัญชีที่รับโอนเงิน รวม 5 คน โดยมี พ.ต.อ. ติดต่อขอเข้ามอบตัวเพียง 1 คน ส่วนที่เหลืออีก 4 คนอยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดี