6-8 ส.ค.นี้ กทม.เฝ้าระวัง 17 เขตริมแม่น้ำเจ้าพระยา คาดปริมาณฝนสะสม 200-250 มล.
ผู้ว่าฯ "ชัชชาติ" กำชับ 17 เขตพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ อันเนื่องมาจากน้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุน ในช่วงวันที่ 6-8 ส.ค.นี้
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขต 50 เขต สำนักงานประชาสัมพันธ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล
ในที่ประชุม สำนักการระบายน้ำรายงานการพยากรณ์อากาศโดยกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งจะมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 6-8 ส.ค.นี้ ในกรุงเทพฯ จะมีฝนตก 60-80% ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีปริมาณฝนสะสม 200-250 มิลลิเมตร ซึ่งขณะนี้มีปริมาณฝนสะสมอยู่ที่ 99 มิลลิเมตร และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น เนื่องจากจะมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอันเนื่องมาจากน้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุน อย่างใกล้ชิด
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 17 เขต ประกอบด้วย 1.เขตบางซื่อ 2.เขตดุสิต 3.เขตพระนคร 4.เขตสัมพันธวงศ์ 5.เขตบางรัก 6.เขตสาทร 7.เขตบางคอแหลม 8.เขตยานนาวา 9.เขตคลองเตย 10.เขตพระโขนง 11.เขตบางนา 12.เขตบางพลัด 13.เขตบางกอกน้อย 14.เขตธนบุรี 15.เขตคลองสาน 16.เขตราษฎร์บูรณะ และ17.เขตบางกอกใหญ่ เฝ้าระวังจุดอ่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา เสริมกระสอบทรายบริเวณจุดฟันหลอ ทั้งในจุดที่ยังก่อสร้างเขื่อนถาวรไม่แล้วเสร็จ และบริเวณแนวที่รั่วซึม ซึ่งขณะนี้ทุกสำนักงานเขตได้วางกระสอบทรายเสร็จแล้ว คงเหลือบริเวณจุดฟันหลอชุมชนศาลเจ้าเขตสัมพันธวงศ์ขอให้เสร็จสิ้นงานเทกระจาดก่อนจะเร่งวางกระสอบทรายให้แล้วเสร็จ
นอกจากนี้ ยังจัดเก็บผักตบชวาเปิดทางน้ำไหล ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมเพื่อเร่งสูบน้ำออกกรณีเกิดการท่วมขัง และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น ทำสะพานไม้ชั่วคราว จัดเทศกิจช่วยบริการช่วยเหลือให้เกิดทางเข้าออกในชุมชน โดยให้ประสานขอกำลังสนับสนุนพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์จากสำนักการระบายน้ำหากจำเป็น
รวมทั้งยังพบปัญหาขณะนี้คือศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม กทม. มีข้อมูลเฉพาะเส้นเลือดใหญ่ คือ ระบบระบายน้ำหลัก แต่ยังขาดข้อมูลเส้นเลือดฝอยในตรอกซอย ชุมชนต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่เขต ทำให้ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีและทั่วถึง เพราะแม้ว่าบนถนนหลักน้ำจะแห้งแล้วในซอยก็ยังต้องใช้เวลาหลังจากนั้น แม้จะเพียงแค่ 30 นาที ก็ทำให้คนที่ต้องรอและได้รับผลกระทบรู้สึกไม่ดี เขตจึงต้องลงพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาและพร้อมจะให้ความช่วยเหลือให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ประสานเจ้าหน้าที่เทศกิจ และทหารซึ่งพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ โดยขอให้เขตข้างเคียงอื่นๆ ที่น้ำไม่ท่วมมาระดมช่วยเขตที่น้ำท่วมด้วย
ขณะนี้ สำนักการระบายน้ำได้ร่วมกับสำนักการวางผังและพัฒนาเมือง จัดทำแอปพลิเคชันสำหรับให้แต่ละสำนักงานเขตใช้กรอกข้อมูลพื้นที่เสี่ยงและจุดอ่อนน้ำท่วมในพื้นที่ เพื่อเป็นฐานข้อมูลและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ รวมทั้งการดำเนินการแก้ไขปัญหา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาปรับปรุงคาดว่าจะสามารถให้สำนักงานเขตเริ่มทดลองใช้ภายในสัปดาห์นี้