ทอ.ต่ออายุ "เฮอร์คิวลิส" ซี 130 จอมพลัง จบเฟสแรก 8 เครื่อง
ประเดิมงาน ว่าที่ "ผบ.ทอ." ปิดเฟสแรกปรับปรุง ซี130 จำนวน 8 เครื่อง ต่ออายุไปอีก 10 ปี เตรียมเดินหน้า เฟส 2 หลังรับงบประมาณปี 2566 แจงซื้อเครื่องใหม่ทดแทน ยังต้องพิจารณา รับงบ ทอ.มีจำกัด
26 กันยายน 2565 เวลา 09.00 น. พลอากาศเอก นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ มอบหมายให้ พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ หรือ ว่าที่ ผบ.ทอ. เป็นประธานในพิธีปิดโครงการปรับปรุงขีดความสามารถเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130H) ณ โรงซ่อมอากาศยาน บริษัทอุตสาหกรรมการบิน จำกัด ดอนเมือง โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศ คณะกรรมการบริหารโครงการปรับปรุงขีดความสามารถเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130H) นักบินและเจ้าหน้าที่ ฝูงบิน 601 กองบิน 6 ตลอดจนผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ บริษัทอุตสาหกรรมการบิน จำกัด ร่วมพิธี
พลอากาศเอก อลงกรณ์ กล่าวว่า เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130H)
ที่เราเรียกว่า ซี130 S มีภารกิจสำคัญในหลายมิติด้านการสนับสนุนการรบการส่งกำลังบำรุงและการช่วยเหลือประชาชนรวมถึงสนับสนุนภารกิจของรัฐบาล โดยโครงการดังกล่าวมุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถเพื่อให้การปฏิบัติภารกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูงสุดอีกทั้งยังยกระดับมาตรฐานการบินของกองทัพอากาศให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลซึ่งนับว่าเป็นความสำเร็จและเป็นผลงานที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่กองทัพอากาศตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างยิ่งและการดำเนินการเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดซึ่งแสดงถึงการเอาใจใส่การแก้ไขปัญหาการดำเนินงานตลอดจนความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงขีดความสามารถเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 ที่ผ่านการใช้งานมานานมาก ด้วยมีการปรับปรุงระบบ avonic (ระบบนำร่องการบิน)หลายตัว เปลี่ยนหน้าจอ รวมถึงอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยป้องกันการชนและการติดตามอากาศยาน โดยเฉพาะโครงสร้างปีก ที่มีความสำคัญ หลังผ่านการใช้งานมาวาง 20,000 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้โครงสร้างล้า
ดังนั้นการเปลี่ยนโครงสร้างปีกจะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรง ถือเป็นความสำเร็จของกองทัพอากาศ และโครงการนี้ยังต้องดำเนินการต่อไป ขณะนี้เป็นเพียงเฟสแรก จำนวน 8 เครื่อง ส่วนอีก 4 เครื่อง ที่มีการของบประมาณไปแล้วในปี 2566 โดยเน้นปรับปรุงโครงสร้างและหน้าจอเป็นหลักเช่นกัน
ส่วนแผนการจัดหาเครื่องบินใหม่ทดแทน ซี30 นั้น ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ หลังจากการประเมินยังสามารถใช้เครื่อง ซี 130 ได้ดี ซึ่งความจำเป็นในการซื้อจะต้องนำมาประเมินใหม่อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เราจะทดลองบินให้ครบทั้ง 12 เครื่อง ว่ามีปัญหาอีกหรือไม่ หากไม่มีปัญหาอะไรเราก็ต้องใช้งานไปก่อน เพราะสภาพงบประมาณของกองทัพอากาศในขณะนี้อยู่ในสภาวะต้องประหยัดพอสมควร
เมื่อถามว่างบประมาณของ ทอ.จะตึงมือหรือไม่เพราะมีการจัดซื้อโครงการ f 35 และจัดซ่อมบำรุงเครื่องบินซี 130 พลอากาศเอก อลงกรณ์ กล่าวว่า ไม่เพราะการปรับปรุง 430 ใช้งบประมาณไม่มากในขณะที่การจัดหาเครื่องบิน f-35 เป็นโครงการขนาดใหญ่ ต้องไปว่ากันในอนาคตต่อไป
ทั้งนี้กองทัพอากาศได้มอบหมายให้ บริษัทอุตสาหกรรมการบิน จำกัด ดำเนินการปรับปรุงขีดความสามารถเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130H) จำนวน 4 รายการ ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 – 30 กันยายน 2565 ซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วตามกรอบเวลาที่กำหนด โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. งานถอดเปลี่ยนจอแสดงผลในห้องนักบิน (Multi-function Display : MFD) จำนวน 8 เครื่อง เครื่องละ 4 จอ และมีจอแสดงผลไว้สำรอง จำนวน 4 จอ รวมทั้งหมด 36 จอ
2. งานปรับปรุงระบบป้องกันการชนระหว่างอากาศยาน (Traffic Alert and Collision Avoidance System Version 7.1 : TCAS7.1) และติดตั้งระบบติดตามอากาศยานอัตโนมัติ (Automatic Dependent Surveillance–Broadcast : ADS-B) จำนวน 4 เครื่อง
3. งานถอดเปลี่ยน Center Wing Upper and Lower Rainbow Fitting ทั้งด้านซ้ายและขวา จำนวน 8 เครื่อง
4. งานซ่อมใหญ่ ชุด Quick Engine Change (QEC) ให้มีความสมบูรณ์ และมีสภาพพร้อมใช้งาน จำนวน 28 ชุด
นอกจากนี้ยังมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศ ให้มีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงอากาศยานอีกด้วย
ผลจากการปรับปรุงขีดความสามารถในครั้งนี้ ทำให้เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130H) มีเครื่องวัดประกอบการบินและเครื่องช่วยเดินอากาศที่ทันสมัยมากขึ้น ตอบสนองเทคโนโลยีการบินและข้อกำหนดในปัจจุบัน อีกทั้งโครงสร้างของเครื่องบินได้รับการปรับปรุงให้มีความแข็งแรง และได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล ซึ่งกองทัพอากาศจะสามารถใช้งานเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130H) ต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ไม่ต่ำกว่า 10 ปี