"สามารถ"จี้ งัดยาแรงคดีแชร์ลูกโซ่-หลอกออมทอง เตือนจนท.รัฐละเว้นผิดม.157
"สามารถ" เตือนหลอกออมทอง สูญเงินนับ700ล้านบาท จี้เจ้าหน้าที่รัฐงัดยาแรงคดีแชร์ลูกโซ่-ฉ้อโกงประชาชน พร้อมเตือนละเว้น เสี่ยงผิดม.157
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่มีการหลอกให้ลงทุนออมทอง ดึงดูดด้วยกำไรก่อนปิดร้านหอบเงินหนีลอยนวล สร้างความเสียหายประมาณ 700 ล้านบาทว่า ตนขอฝากให้ประชาชนระมัดระวังมิจฉาชีพเหล่านี้ เพราะรูปแบบของการหลอกลวงนั้นมีมากมาย กลโกงในรูปแบบทองไม่ใช่เรื่องใหม่ อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน ยิ่งมิจฉาชีพในเคสนี้เปิดร้านทองด้วยก็ยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือ
"การหลอกว่าให้ลงทุน 23,000 บาทจะได้ทอง 1 บาท วิธีการแบบนี้ก็คือ ใช้กุ้งฝอยตกปลากระพง ในช่วงแรกๆ ก็จะได้รับทองตามที่เขากล่าวอ้าง แต่พอลงทุนไปจำนวนมากๆเข้า เขาก็หนีไป นี่คือสิ่งที่ผมบอกว่า เรามีกฎหมาย พรก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ต้องขอฝากไปถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เป็นผู้ถือกฎหมาย พรก.ฉบับนี้ เพราะผมมีความกังวลว่า ถ้าผู้เสียหายเขาไปร้องทุกข์ว่าท่านไม่ ปฏิบัติตามหน้าที่ ท่านจะโดนความผิดในมาตรา 157 ได้"
นายสามารถ กล่าวต่อว่า เคสนี้คือการเปิดบ้านขายทอง ตั้งอยู่กลางจังหวัดสระบุรี อำเภอเมือง เพื่อมาหลอกลวงประชาชน ตามตำแหน่งแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีมีอำนาจตามมาตรา 7 ท่านได้เรียกบริษัทดังกล่าวมาชี้แจงหรือไม่ว่า มีการชักชวนให้ระดมทุนอย่างไร แต่ปรากฎว่าวันนี้ร้านทองร้านนี้ปิดไปแล้ว จริงๆแล้วร้านทองนี้เปิดมาสักพัก ไม่ใช่เพิ่งเปิด มีการขายทองราคาต่ำกว่าอัตราแลกเปลี่ยนทั่วๆไป สมาคมค้าทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ทำอะไรอยู่
"ประชาชนที่ถูกหลอกลวงบางคนอาจจะโลภ หวังที่จะอยากได้อยากมี แต่คนที่ตกเป็นเหยื่อ เชื่อโดยสุจริตก็มี สิ่งสำคัญที่สุด คือกฎหมายต้องคุ้มครองผู้เสียหายที่เป็นผู้สุจริต ทำไมปัญหาแชร์ลูกโซ่ที่ฉ้อโกงประชาชนมาหลายคดีถึงไม่สามารถยุติได้ นั่นเป็นเพราะว่าหน่วยงานของรัฐทำงานช้ามากใช่หรือไม่"
นอกจากนี้ นายสามารถ ยังกล่าวถึงคดีการหลบหนีระหว่างขึ้นศาลของนายประสิทธิ เจียวก๊ก จำเลยในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ว่า ใช้วิธีอมกุญแจ นั้น ตนไม่เชื่อว่าเขาสามารถทำแบบนั้นได้ เรื่องนี้ขอเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ ต้องแสวงหาความจริงมาให้ได้ ส่วนการระบุว่านายประสิทธิมีการตะล่อมผู้เสียหายนั้น ตนอยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติของแชร์ลูกโซ่ทุกคดี เพื่อประวิงเวลา ไม่ให้ผู้เสียหายแจ้งความ และสุดท้ายผู้เสียหายจะท้อใจไปเอง
"ผมเคยพูดมาตลอดว่ารัฐบาลและผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องต้องเร่งแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง การติดตามทรัพย์ยากและกระบวนการยุติธรรมที่ยาวนาน จึงทำให้อาชญากรไม่เกรงกลัว"