"TK Park" เตรียมผุด "ตู้ยืมหนังสืออัตโนมัติ" ยืมได้ 24 ชม. เอาใจหนอนหนังสือ!
"TK Park" เตรียมให้บริการ “ตู้ยืมหนังสืออัตโนมัติ” เป็นครั้งแรกในย่านใจกลางเมืองกลางปีนี้ พร้อมนำร่อง "ห้องสมุดเดียว" ยืม-คืน ข้ามสาขาได้
สถาบันอุทยานการเรียนรู้ (TK Park) เปิดศักราชปี 2023 เดินหน้าสานภารกิจ “สร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้” ผ่านสื่อ หนังสือ และกิจกรรม พร้อมเน้นกลยุทธ์เชิงรุกนำการเรียนรู้ส่งถึงมือผู้คนในสังคม ใช้นวัตกรรมสร้างระบบเชื่อมโยงโครงข่าย TK Park ทั่วประเทศ ปั้นแพลตฟอร์ม “ห้องสมุดเดียว” อำนวยความสะดวกให้สมาชิกสามารถยืม-คืนหนังสือข้ามสาขาได้ และเตรียมนำ “ตู้ยืมหนังสืออัตโนมัติ” ที่บรรจุหนังสือกว่า 300 เล่ม มาให้บริการเป็นครั้งแรกในย่านใจกลางเมืองกลางปีนี้ ดึง Big Data มาใช้ประมวล ผลสร้างกิจกรรม-การเรียนรู้-คอร์สเทรนนิ่ง ที่มากกว่าการอัพสกิลและรีสกิล ตอบโจทย์การแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ตามความสนใจของผู้คนทุกช่วงวัย
และยังคงเน้นสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าสร้างเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู้ตามแนวทางของยูเนสโกเพิ่มขึ้น และในปีนี้เตรียมพร้อมเพิ่มจำนวนเครือข่ายใหม่ๆ ร่วมกับ ทรู ดิจิทัลพาร์ค อบจ.สุราษฎร์ธานี และเทศบาลเมืองพะเยา
กิตติรัตน์ ปิติพานิช ผู้อำนวยการสถาบันอุทยานการเรียนรู้ กล่าวว่า ในปี พ.ศ. 2566 TK Park ได้ลงทุนเพิ่มในเรื่องนวัตกรรมระบบโครงข่ายเชื่อมโยงข้อมูล Big Data ของ TK Park ทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะมาช่วยให้เรารู้ข้อมูลที่ชัดเจนถูกต้องมากขึ้น เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมของผู้คน และนำมาสู่การพัฒนาคุณภาพบริการ เติมเต็มสิ่งที่ประชาชนต้องการเรียนรู้และนำไปต่อยอดใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้
รวมทั้งยังเกิดการสร้างบูรณาการเป็นหนึ่งเดียวของ TK Park ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ด้วยแพลตฟอร์ม “ห้องสมุดเดียว” อำนวยความสะดวกให้สมาชิกสามารถยืม-คืนหนังสือข้ามห้องสมุดได้ โดยเฉพาะผู้ใช้บริการที่อยู่ในต่างจังหวัด สามารถยืมหนังสือจากกรุงเทพฯ และผู้ใช้บริการที่กรุงเทพฯ ก็สามารถยืมหนังสือจาก TK Park ในต่างจังหวัดได้ผ่านระบบตะกร้ากลางควบคู่กับบริการ Book Delivery ที่สามารถส่งและคืนหนังสือได้ตลอดเวลา
ในส่วนของกลยุทธ์ที่ TK Park ปักธงให้ความสำคัญในปีนี้คือ
1. เดินหน้าขยายความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรุงเทพมหานคร, ทรู ดิจิทัลพาร์ค และ กลุ่มหอการค้า ( YEC ) จากนี้ไปจะมีความร่วมมือเพิ่มเติมกับภาคเอกชนอีกหลายราย เพราะการส่งเสริมการเรียนรู้ทำเพียงลำพังจะทำให้ไปสู่เป้าหมายได้ยาก การลงทุนใหม่ทุกอย่างอาจไม่ใช่คำตอบ แต่การพยายามหาความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญที่ทำได้ดีอยู่แล้วหรือมีประสบการณ์แล้ว เราไปร่วมมือกันจะทำให้การสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้บรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น
“ต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะเปิดบริการ TK Park สาขาใหม่ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค เวสต์ ซึ่งเป็นพื้นที่สำนักงานและโครงการธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนชุมชนเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ บนถนนสุขุมวิท นับเป็นครั้งแรกของการเปิดสาขา TK Park ในพื้นที่กรุงเทพฯ และในปีนี้ เราเตรียมพร้อมเปิดTK Park ที่สวนสาธารณะเกาะลำพู ในตัวเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี และTK Park ในเขตเทศบาลเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา รวมถึงการผลักดันให้เกิดเมืองแห่งการเรียนรู้ หรือ Learning City เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางยูเนสโก ที่ TK Park จะร่วมผลักดันกับเครือข่ายในทุกจังหวัด เพื่อส่งเสริมให้ทุกที่สามารถเข้าร่วมเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ให้สำเร็จ”
เรื่องที่ 2. การขยายพื้นที่การเรียนรู้ จากนี้ TK Park จะยิ่งรุกหน้าเข้าหาประชาชนให้มากขึ้น นอกเหนือจากผ่านช่องทางการสื่อสารในแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ครอบคลุมของ TK Park แล้ว ยังมีการขยายเพิ่มการเข้าถึงพื้นที่กายภาพ โดยในช่วงกลางปีคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการ ตู้ยืมหนังสืออัตโนมัติ ที่มีหนังสือพร้อมให้บริการ 300 เล่ม ใช้บริการได้ตลอด 24 ชม. และอยู่ในพื้นที่ ๆ ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ต่อไป
เรื่องที่ 3. ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการในทุกกลุ่ม บริการหลักของ TK Park คือ มีหนังสือ สื่อ องค์ความรู้ และมีการฝึกอบรม แนวทาง Train the Trainers เพื่อขยายผลองค์ความรู้ให้ได้มากที่สุด โครงการต่างๆ ดำเนินการโดยผ่านการเก็บรวมรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเกิดเป็นโซลูชั่นที่ตรงกับความสนใจของคนแต่ละกลุ่ม เช่น โครงการแนะให้แนว ที่เป็นโครงการสำหรับเด็กวัยมัธยมเพื่อแนะนำ ชี้เส้นทางอนาคต ซึ่งจะทำให้เด็กๆ ได้มองเห็นแนวทางและภาพอนาคตของตนเอง โดยต่อไปจะมีการพัฒนากลุ่มเป้าหมายของโครงการ ไปสู่กลุ่มคนทำงาน ที่อยากจะพัฒนาทักษะด้านต่างๆ หรือการเปลี่ยนเส้นทางอาชีพ การต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ หรือเสริมเรื่อง Design Thinking กลุ่มคนวัยเกษียณ ที่ต้องการแนะแนวเส้นทางการใช้ชีวิตและการพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ
"สำหรับกิจกรรมของกลุ่มเด็กและผู้ปกครอง TK Park เราส่งเสริมการสร้างการเรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเด็กๆ เพิ่มทักษะที่เหมาะกับโลกยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นด้านความคิดสร้างสรรค์ การทำงานเป็นทีม การเข้าใจผู้อื่น ผ่านกิจกรรมเด็กมากมาย อาทิ กิจกรรมนิทานผลิบาน กิจกรรมสนุกอ่านสนุกคิด ฯลฯ ที่เด็กๆ จะได้กระตุ้นจินตนาการผ่านนิทาน และยังต่อยอดด้วยการเปิดอบรมให้กับคุณครู เพื่อที่จะนำความรู้เหล่านี้ขยายผลและต่อยอดได้มากขึ้น โดยกิจกรรมอบรมเหล่านี้มีทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์"
นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ ยังกล่าวเสริมถึงทิศทางต่อไปของ TK Park ว่า ปัจจุบันกระแส Sharing Economy กำลังมาแรง โดยเฉพาะในต่างประเทศได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่การแชร์หนังสือแลกกันอ่าน แต่ยังรวมถึงการแชร์สิ่งของที่ผู้คนใช้กันไม่บ่อย ช่วยลดการซื้อของเข้าบ้าน TK Park เราได้คิดนำระบบการแชร์หนังสืออ่านด้วยกันมาใช้ รวมถึง การให้ยืม "ของเล่น" ที่เหมาะกับเด็กในช่วงวัยต่างๆ โดยที่ผู้ปกครองไม่จำเป็นต้องซื้อ เป็นการเดินหน้าสู่คอนเซ็ปต์ เปลี่ยนห้องสมุดจาก Public Space ให้เป็น People Space นั่นคือ ถ้าเราอยากให้ห้องสมุดเป็นที่ต้องการของผู้คน เราก็ต้องทำตัวให้เกี่ยวข้องกับความต้องการของผู้คนมากขึ้น ต้องตอบโจทย์กับสิ่งที่คนสนใจให้ได้ ต้องรู้จักคิดต่อยอด เช่น ในย่านที่ห้องสมุดตั้งอยู่นั้น มีอะไรโดดเด่นในพื้นที่ เราควรหยิบอะไรออกมาใช้เพื่อจะได้สัมพันธ์กับวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่นั้นๆ
“ทักษะที่จะทำให้คนเราอยู่รอดได้ท่ามกลางอุปสรรคและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา คือ Transferable Skill เป็นทักษะที่จะสามารถส่งต่อให้กับผู้คนรู้จักนำไปใช้ในการแก้ปัญหาและหาคำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงในทุกวัน TK Park สนับสนุนการเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งเรียนรู้เยอะยิ่งดี เราจึงพยายามสนับสนุนการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ของโลก การที่เราเรียนรู้ด้วยตัวเอง อยากรู้เรื่องใดก็ค้นคว้าหาความรู้ เพราะปัจจุบันแนวโน้มคนเราเริ่มรู้เส้นทางการเรียนรู้ที่เขาอยากจะเป็นเพิ่มมากขึ้น TK Park จึงนับเป็นพื้นที่ ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนเข้าถึงการเรียนรู้ ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคมได้อย่างแท้จริง” ผอ.กิตติรัตน์กล่าว