"บิ๊กโจ๊ก" สั่งการไล่ล่าแก๊งชาวจีนก่อเหตุฆ่านักศึกษาจีน
"บิ๊กโจ๊ก" สั่งการไล่ล่าแก๊งชาวจีนก่อเหตุฆ่านักศึกษาจีน หลังจับมาเรียกค่าไถ่ ก่อนนำศพไปทิ้ง ริมคลองริมป่าบัว ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
จากกรณีเมื่อวันที่ 1 เม.ย.66 ตำรวจได้พบศพหญิงไม่ทราบชื่อ ถูกนำมาทิ้งที่ บริเวณริมคลองริมป่าบัว ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พื้นที่รับผิดชอบ สภ.บางแม่นาง
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 เม.ย. ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามสืบสวนหาตัวคนร้ายในคดีนี้ จนกระทั่งต่อมา ทราบว่า ผู้ตายคือ น.ส.จิน ซ่าน นักศึกษาชาวจีน ที่ได้เกิดเหตุ ถูกกลุ่มคนร้าย ติดต่อ ส่งข้อมูลภาพถ่ายของผู้ตายไปยังผู้ปกครองที่ประเทศจีน เพื่อเรียกค่าไถ่เป็นจำนวนเงิน 500,000 หยวน หรือเป็นเงินไทยจำนวน 2,500,000 บาท แต่ผู้ปกครองไม่ยอมโอนเงินให้ โดยจากการสืบสวน ภายหลัง จึงทราบว่าศพ ที่พบถูกนำมาทิ้ง คือ น.ส.จิน ซ่าน ที่ถูกเรียกค่าไถ่ในคดีดังกล่าว ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน จึงได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน
จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุในคดีนี้ คือ นายโจว เผิงเฟย (MR.PENGFEI ZHOU) อายุ 24 ปี สัญชาติ จีน นายเฉิน ไซคัง (MR.SAIKANG CHEN)อายุ 23 ปี สัญชาติจีน นายโจว เซี่ยงเฟย (MR.XIONFEI ZHOU ) อายุ 23 ปี สัญชาติ จีน หลังจากการก่อเหตุในคดีนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไป เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2566 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึง ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางแม่นาง ได้ร้องขอต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับ ผู้ต้องหาดังกล่าว ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่192/2566, 193/2566, 194/2566 ในข้อหา “ร่วมกัน เอาตัวบุคคลอายุกว่า 15 ปี ไปโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายหรือวิธีการข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายซึ่งให้ได้มาซึ่งค่าไถ่
เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอา ตัวไปถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง นั้นถึงแก่ความตาย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ โดยไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันทำให้เสียหายหรือเคลื่อนย้าย ทำลาย ซ่อนเร้น ยักย้าย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งศพหรือสวนของศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุ แห่งการตาย และร่วมกันลักทรัพย์
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จึงได้ ประสานงานไปยัง อุปทูตจีน ประจำประเทศ เพื่อประสานทางจีนติดตามจับกุม ทราบว่า ขณะนี้ ทางการจีนได้ควบคุม ผู้ต้องหาชาวจีน ทั้ง 3 คน ไว้แล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จึงได้ ส่งทีมสอบสวน สตม. เพื่อนำหลักฐานและให้ข้อมูลกับทางการจีน เพื่อซักถามผู้ต้องหาชาวจีน ทั้ง 3 คน และนำลายพิมพ์นิ้วมือ ส่งมายัง พนักงานสอบสวน สภ.บางแม่นาง เพื่อเปรียบเทียบลายนิ้วมือแฝง ที่พบใน สถานที่เกิดเหตุ ขณะนี้ทราบว่า ผู้ต้องหาชาวจีน ได้รับสารภาพว่า ได้ร่วมกันกระทำความผิด ส่วนรายละเอียดในคดีอยู่ระหว่างการซักถาม
นอกจากนี้ จากการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมได้พบว่า มีชาวไทยเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีนี้ คือ น.ส.ชนิดา มาทอง อายุ 19 ปี โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา ดำเนินคดี ข้อหาเป็นผู้ใช้ ในความผิดฐาน ร่วมกัน เอาตัวบุคคลอายุกว่า 15 ปี ไปโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายหรือวิธีการข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายซึ่งให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอา ตัวไปถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง นั้นถึงแก่ความตาย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ โดยไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันทำให้เสียหายหรือเคลื่อนย้าย ทําลาย ซ่อนเร้น ยักย้าย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งศพหรือสวนของศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้เพิ่มเติม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกด้วย กรณีถูกอุ้มฆ่าทิ้งไว้แม่น้ำออกหมายจับคนจีนความผิดฐานราวมกันฆ่าผู้อื่น ประสานทางการทูตจีนจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนได้ อธิบดีทูตจีนประสานงานเพื่อดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าว จากการสอบสวนผู้ต้องหาชาวจีน 3 คน ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ลงมือฆ่าจริง ร่วมโดยมีคนไทยให้การช่วยเหลือ ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง ผู้ต้องหาไม่ได้บอกว่าทำไมถึงต้องสังหาร จะส่งให้ทางพนักงานสอบสวนของจีนดำเนินการตรวจสอบ ส่วนคนที่เปิดประเด็นเป็งเฟยโจ เป็นเพื่อนชายคนสนิทยืนยันผู้เสียหายไม่ยอม ผู้หญิงไทยจึงบอกให้จัดการจนผู้ตายเสียชีวิต โดยหญิงชาวไทยให้คำแนะติดต่อกับผู้ก่อเหตุ 3 คน เข้ามาเมืองไทยมาเที่ยวและรู้ว่าผู้ตายเรียนอยู่มหาลัย โดย 1 ใน 3 รู้จักกับผู้ตายตั้งแต่เพิ่งเข้ามาเรียน จึงประสานคนไทยเพื่อหาทางติดต่อกับผู้ตายที่เจอกันที่บาร์แห่งหนึ่ง จึงเริ่มกระบวนการดังกล่าว แต่อาจจะได้ไม่ได้ตั้งใจฆ่าและให้โอนเงินมาอำพรางเพื่อเรียกค่าไทย โดยแนะนำอย่าไปบริเวณโรงแรมหรือจุดที่มีกล้องวงจรปิด
ส่วนผู้ช่วยทูตจีนขอรายงานสืบสวนภาษาจีนภายในวันที่ 21 เม.ย.นี้ ส่งนายตำรวจจีนมาร่วมดำเนินการสืบสวนสอบสวน รวมถึงสอบปากคำหญิงไทยที่เกี่ยวข้อง ส่วนการสอบสวนความผิดเกิดขึ้นในราชอาณาจักรไทย จึงมีความประสงค์ดำเนินคดีที่ประเทศไทย ทำหนังสือเป็นทางการขอดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งทางการจีนก็สามารถดำเนินคดีที่ประเทศจีนได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทำหน้าที่ ต่อไป