เครือข่ายต่อต้านแชร์ลูกโซ่ นัดรวมพลเหยื่อ “แชร์แม่มณี” จี้นายกฯล้อมคอก
ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ นัดรวมพลเหยื่อ “แชร์แม่มณี” ร้องนายกฯเร่งเยียวยา
จี้ ถึงเวลาเอาจริงแก้กฎหมายช่วยผู้เสียหาย
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฉ้อโกงแชร์ลูกโซ่แม่มณีว่า คดีนี้ ศาลได้ตัดสินให้จำเลยที่ 1 คือ นางสาววันทนีย์ และนายเมธี ชิณภา สามี ซึ่งตกเป็นจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 343 ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่้เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกับฉ้อโกงประชาชน และความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14
แต่กฎหมายในประเทศไทยนั้นเป็นกฎหมายแบบบุฟเฟ่ท์ ทำผิดกฏหมายหลายฉบับก็ให้นำผลหนักสุดมาลงโทษ คือ โทษจำคุกร่วมกันกู้ยืเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ลงโทษกระทงละ 5 ปี เป็นจำนวน 2,528 กระทง รวม 12,640 ปี แต่จำเลยทั้งสองคนให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือโทษจำคุก 5,056 ปี
แต่กฎหมายให้รับโทษสูงสุดคนจำคุกคนละ 20 ปี และให้ชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหายพร้อมดอกเบี้ย นี่คือบทสรุปทางคดีของแชร์ลูกโซ่แม่มณี
อย่างไรก็ตามแม้คดีจะสิ้นสุด แต่นายสามารถ มองประเด็นที่ต้องตามต่อคือ ทรัพย์สินที่จะชดใช้คืนแก่ผู้เสียหาย เพราะหากคดีนี้หน่วยงานรัฐไม่ได้ยึดอายัดวงเงินแก่ผู้เสียหายเลย ก็เป็นหน้าที่ของผู้เสียหายจะต้องนำคำพิพากษาไปออกหมายบังคับคดี พร้อมกับติดตามทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือพูดง่ายๆคือ หากเจอทรัพย์สินใดก็ให้ไปบอกกรมบังคับคดีให้ยึด เพื่อเฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหาย ซึ่งถือเป็นเป็นหลักการของประเทศไทย และเป็นประเด็นสำคัญที่นายสามารถเรียกร้องให้มีการแก้ไข นอกเหนือจาก กฎหมายฟอกเงิน ที่ต้องให้ผู้เสียหายเร่งรัดหน่วยงาน ปปง ยึดทรัพย์ เพื่อมาเฉลี่ยคืนผู้เสียหายโดยเร็ว นายสามารถ จึงเห็นว่า ถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องมีกฎหมายใหม่ มีหน่วยงานที่บงคับใช้กฎหมายแบบ one stop service เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความยุติธรรมอย่างทันถ่วงที
“แปลกไหมเวลาเกิดคดีปล้นร้านทอง ทองคืนร้านทันที ปล้นธนาคาร เงินคืนธนาคารทันที แต่คดีฉ้อโกงปรระชาชน เงินกลับไมสามารถคืนประชาชนได้ทันที นั่นคือสิ่งที่ผมคิดว่า มันเป็นภาระของประชาชน มันควรยกระดับมาตราฐาน ของประเทศไทย ให้ได้รับการคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญด้วย...” นายสามารถ กล่าว
ดังนั้น ศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2566 13.00 น. นายสามารถ จะนำผู้เสียหายยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี พล.เอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ณ ศูนย์ร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้รัฐได้เร่งรัดเยียวยาผู้เสียหาย เนื่องจากคดีนี้ถึงที่สุดแล้ว เพราะจำเลยรับสารภาพ เพื่อที่น่าจะต้องการเป็นนักโทษเด็ดขาด ได้รับการลดโทษตามขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์ เพื่อให้ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำรวดเร็วขึ้น