'สภาผู้บริโภค' จี้ ผู้รับเหมา เร่งแก้ปัญหาก่อสร้างไม่ปลอดภัย บน ถ.พระราม2
"สภาองค์กรผู้บริโภค" จับมือ 3 พรรค ลงพื้นที่รับฟังปัญหาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบก่อสร้างถนนพระราม 2 มานานกว่า 50 ปี จี้ ผู้รับเหมาแก้ไขภายใน 7 วัน น้ำท่วมชุมชนป้าแดง ฝุ่น PM2.5 และ มาตรการควบคุมการก่อสร้างที่ปลอดภัยป้องกันการเสี่ยงชีวิตจากการเดินทางบนถนนพระราม 2
สภาองค์กรของผู้บริโภค หรือ สภาผู้บริโภค นำโดยนางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาผู้บริโภค นางสาว บุญยืน ศิริธรรม ประธานสภาผู้บริโภค ได้เชิญ ตัวแทน 3 พรรคการเมืองประกอบด้วย นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ สส. ปูอัด พรรคก้าวไกล นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา สก.เขตลาดกระบัง พรรคเพื่อไทย นายสารัช ม่วงศิริ สก.เขตบางขุนเทียน พรรคประชาธิปัตย์ และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตนายกสภาวิศวกร ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจผลกระทบจากการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 บริเวณชุมชนป้าแดง เขตจอมทองที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างมานานกว่า 50 ปี
โดย ชาวบ้านชุมชนป้าแดง เขตจอมทอง จะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี-ปากท่อ (ถนนพระราม 2) และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว (M82) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2570
นางลัดดา พันธุมะโรจน์ อายุ 63 ปี ชาวบ้านชุมชนป้าแดงซึ่งโตมาพร้อมกับการสร้างถนนบนถนนพระราม 2 ตั้งแต่อายุ 20 ปี จนกระทั่งปัจจุบันบอกว่า ชาวบ้านในชุมชนได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างมาตลอด มีทั้งปัญหาฝุ่น ความไม่ปลอดภัยจากการเดินทางเกรงว่าคานเหล็กจะร่วงลงมาใส่ ขณะที่รวมถึงปัญหาน้ำท่วมในชุมชนที่ไม่สามารถระบายออกไปได้
“ชาวบ้านก็อยู่กับการก่อสร้างมานาน แต่เหมือนจะชิน แต่ที่ไม่ชินเพราะการก่อสร้างล่าสุดตัดท่อระบายน้ำเพื่อวางตอม่อทำให้นำท่วมขังในชุมชนตลอดเวลาได้บอกและแจ้งไปแล้วก็ไม่มีการแก้ไข”
ขณะที่นายวิรัตน์ เจริญดี และ นายจำนงค์ เพชรเกษตร แกนนำชุมชนป้าแดง บอกว่า การที่มีคนเรียกถนนพระราม 2 ว่าเป็นถนน 7 ชั่วโคตร ก็คงไม่ได้ผิดอะไร เพราะพวกเราเองเป็นคนดั้งเดิมของชุมชน ก็เห็นการก่อสร้างไม่เคยเสร็จสักครั้ง ขณะที่การก่อสร้างก็ไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัย เช่น กรณี ภรรยาของตนเดินไปตลาด สภาพถนนที่ขรุขระหว่างก่อสร้างก็ลื่นล้มและมีคนในชุมชนได้รับอุบัติเหตุมอเตอร์ไซต์ล้มไปหลายคน แต่ชาวชุมชนไม่รู้ว่าต้องติดต่อความช่วยเหลือจากใครหรือโครงการไหน
ด้านนางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสภาผู้บริโภคและหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากการใช้ถนนพระราม 2 เนื่องจากเป็นผู้ใช้ถนนพระราม 2 กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ได้ใช้ถนนพระราม 2 เป็นระยะเวลามากกว่า 30 ปีเพราะต้องเดินทางจากอำเภอแม่กลอง จ.สมุทรสงครามมาทำงานที่กรุงเทพฯ ต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่างๆ ทุกนาทีไม่รู้ว่าจะมีอะไรตกลงมาเมื่อไหร่ทำให้ชีวิตการเดินทางต้องเสี่ยงชีวิตตลอดเวลานอกจากนี้การก่อสร้างที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้สภาพการจราจรที่ติดขัดอย่างมาก
“ชีวิตบนถนนพระราม 2 คือความเสี่ยงในทุกวินาทีที่อยู่บนถนน ทั้งเรื่องรถชน ตกหลุมถนน สิ่งก่อสร้างหล่นมาทับหัว ใช้ชีวิตบนถนนแบบไม่รู้ชะตากรรมเลยว่าวันนี้จะเจออะไร จะมีอะไรร่วงใส่หัว จะยังมีชีวิตรอดกลับถึงบ้านไหม มันไม่มีอะไรที่ค้ำประกันชีวิตได้เลย จึงอยากให้มีการแก้ไขเชิงนโยบาย มีกฎหมายที่คุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน และอยากให้มีการปิดตำนานพระราม 2 ซ่อม 7 ชั่วโคตร ไม่ควรเกิดขึ้น และอยากบอกว่าสภาผู้บริโภคเป็นเพื่อนผู้บริโภคหากเดือดร้อนนึกไม่ออกมาบอกกับพวกเราได้ ยินดีเชื่อมประสานหน่วยงานแก้ไขในเชิงนโยบายเพื่อความปลอดภัยของประชาชน”
ขณะที่นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาผู้บริโภค มีข้อเสนอในระยะสั้นและระยะยาวหลังรับฟังปัญหาชุมชนว่า การแก้ไขปัญหาระยะสั้นที่เป็นความเดือดร้อนของชุมชนป้าแดงควรเกิดขึ้นภายใน 7 วัน คือ 1. ปัญหาน้ำท่วมขังชุมชนป้าแดง ต้องใช้ท่ออ่อนดูดน้ำออกจากชุมชน 2. การจัดการความปลอดภัยในการเดินทางจะเก็บกวาดอย่างไรให้เดินทางแล้วปลอดภัย 3. ต้องเร่งดำเนินการวางป้ายบอกทาง หรือ ชื่อโครงการก่อสร้างว่าเป็นของบริษัทไหน ก่อสร้างเสร็จเมื่อไหร่ เบอร์ติดต่อผู้รับผิดชอบ เพื่อให้ชาวบ้านสามารถติดต่อได้
“อยากฝากชาวบ้านในชุมชนช่วยติดตามว่าทั้ง 3 มาตรการบริษัทจะสามารถดำเนินการได้ภายใน 7 วันหรือไม่ หากยังไม่มีมาตรการเหล่านี้ให้ชาวชุมชนช่วยแจ้งมายังสภาผู้บริโภค หรือสส.ปูอัด สก.วิรัชได้ พวกเราจะได้ลงมาติดตามเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในระยะสั้น”
ส่วนมาตรการระยะยาว นางสาวสารี กล่าวว่า ข้อแรกอยากเห็นการก่อสร้างแล้วมีแผนในเรื่องความปลอดภัยอย่างไร หรือหากเป็นไปได้จะสามารถก่อสร้างได้ที่ละครึ่งเพื่อให้สามารถใช้ทางร่วมกันและมีทางเบี่ยงที่ชัดเจนได้เพราะอยากเห็นการเดินทางของคนใช้ถนนไม่มีความเสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมงได้อย่างไร
2.เร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็วไม่ยืดเยื้อไม่ขยับเวลาก่อสร้าง และ 3.อยากเห็นว่าการเยียวยาที่ทันท่วงที หากมีการเสียชีวิตชาวบ้านไม่ต้องไปฟ้องคดี แต่ต้องมีกลไกอัตโนมัติจากสัญญาก่อสร้างให้มีผู้มารับผิดชอบเยียวยา หรือมีประกันชีวิตในบุคคลที่ 3 ได้ทันที เช่น หากมีผู้เสียชีวิตต้องชดเชยเยียวยาเป็นจำนวนเงิน 7.5 ล้านบาทขึ้นไป
ขณะที่นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส. เขตจอมทอง-บางขุนเทียน-ท่าข้าม พรรคก้าวไกลหรือ สส.ปูอัดซึ่งติดตามผลกระทบจากโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 มายาวนานกล่าวว่ามีเป้าหมายในการขับเคลื่อนประเด็นนี้เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ยังไม่ได้เป็น สส. จึงตั้งเป้าหมายว่าใน 4 ปีต้องปิดตำนานการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ให้ได้ โดยจะขับเคลื่อนยกระดับกฏหมายบรรเทาสาธารณะภัยให้มีการเยียวยาทันท่วงทีมีตัวเลขที่ชัดเจน
“ทุกวันนี้หากมีผู้เสียชีวิตจากโครงสร้างขนาดใหญ่ ชาวบ้านไม่รู้เลยว่าเขาจะได้รับการเยียวยาจากที่ไหน เหมือนถูกทิ้งลอยแพ เพราะฉะนั้นการสร้างประเทศให้คนเท่าทัน กฏหมายต้องเท่าเทียมด้วยจึงจะเร่งผลักดันกฎหมายนี้” ส.ส.ปูอัด กล่าว
ด้าน ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตนายกสภาวิศวกรและอดีตผู้สมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอ 3 วิธี เพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น คือ “ติดตั้งเครื่องวัดฝุ่นเพื่อให้ประชาชนทราบข้อมูลที่แท้จริง” ทางที่สอง คือ “ปั๊มสูบน้ำ” และต่อท่ออ่อนเนื่องจากน้ำในชุมชนไม่สามารถระบายออกไปได้ เกิดจากโครงการก่อสร้างปิดทางระบายน้ำส่งผลให้น้ำในชุมชนเน่าและส่งกลิ่นเหม็น ผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างจึงจำเป็นต้องเยียวยาช่วยเหลือให้ตรงจุด เพื่อดูแลชุมชนความเป็นอยู่ของชุมชน
และทางสุดท้าย คือ “ขอคืนผิวทางจราจร ให้ได้สัญจรตามมาตรฐานสากล” เมื่อโครงการก่อสร้างใช้พื้นที่ในส่วนของการสัญจรแล้วนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องโยกย้ายสิ่งของหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ออกไป เพื่อเปิดทางให้การสัญจรได้สะดวกยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามหลังการสำรวจและรับฟังปัญหาร่วมกับ 3 พรรคการเมืองได้เห็นร่วมกันว่าจะมีการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาในสภาผู้แทนราษฎรและสภากรุงเทพมหานคร ทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาวร่วมกันให้เกิดความปลอดภัยบนถนน พระราม 2