'พลภูมิ'ขับเคลื่อนไทยศูนย์กลางท่องเที่ยว - คิกออฟดึง'ญี่ปุ่น'เที่ยวไทย

'พลภูมิ'ขับเคลื่อนไทยศูนย์กลางท่องเที่ยว - คิกออฟดึง'ญี่ปุ่น'เที่ยวไทย

'พลภูมิ'ขับเคลื่อนไทยศูนย์กลางท่องเที่ยว - คิกออฟดึง'ญี่ปุ่น'เที่ยวไทย จับกลุ่มอัดโปรโมชั่นจูงใจ สนับสนุนให้เที่ยวเมืองรอง

นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางตรวจเยี่ยมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น โดยมี น.ส.สุดาพร วรพล ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานฟูกูโอกะ และ น.ส.พิมรภัส ชินบุตร รองผู้อำนวยการ สำนักงาน ททท. สำนักงานฟูกูโอกะ ให้การต้อนรับ

นายพลภูมิ กล่าวว่า รมทว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบนโยบายในการดึงนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นให้เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวไทยสู่ Tourism Hub และดึงเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเข้าประเทศ 3.5 ล้านล้านบาท โดยปัจจุบันสำนักงานท่องเที่ยวทั้ง 3 สำนักงานในประเทศญี่ปุ่น ( โตเกียว-โอซาก้า-ฟูกูโอกะ) ได้จัดทำแคมเปญ “Imakara Thai e: Now to Thailand” ในวันที่ 15 มกราคม –15 พฤษภาคม 2567 เพื่อเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Young Gen) ทดแทนกลุ่มลูกค้าเก่า และกระตุ้นให้ชาวญี่ปุ่นเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น 
 

โดยนักท่องเที่ยวที่ได้รับการประทับตรวจลงตราเข้าประเทศไทยเป็นครั้งแรกในหนังสือเดินทาง (Passport) จะได้รับรางวัลพิเศษ ได้แก่  SIM Card มูลค่า 299 บาท จาก AIS ,Rabbit Card มูลค่า 100 บาท สำหรับใช้โดยสารรถไฟฟ้า BTS ,นวดตัวหรือเท้า 1 ชั่วโมง จาก “Let’s Relax” spa และสิทธิเข้าใช้ “Coral Lounge” ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือท่าอากาศยานดอนเมือง 1 ครั้ง 

ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมแคมเปญตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าแคมเปญดังกล่าวประสบความสำเร็จมาก หากดำเนินการขยายผลออกไปอีกอย่างต่อเนื่องจะสามารถเห็นผลสำเร็จได้อย่างชัดเจน รวมถึงจำเป็นที่จะต้องสร้างการรับรู้มากขึ้นผ่าน Social media หรือ Influencer เพื่อสร้าง impact ในวงกว้าง แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ จึงไม่สามารถดำเนินการจัดทำแคมเปญดังกล่าวต่อได้

\'พลภูมิ\'ขับเคลื่อนไทยศูนย์กลางท่องเที่ยว - คิกออฟดึง\'ญี่ปุ่น\'เที่ยวไทย

ส่วนในไตรมาส 4 ที่จะถึงนี้ ทาง ททท.ทั้ง 3 สำนักงาน เตรียมจัดทำ Joint Sale Promotion สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป เพื่อเสนอขายบัตรโดยสารเครื่องบินราคาพิเศษร่วมกับสายการบินต่างๆ เพื่อกระตุ้นการเดินทาง เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นในขณะนี้ยังอยู่ในสภาวะถดถอย ค่าเงินเยนอ่อน และค่าครองชีพสูง ทำให้ชาวญี่ปุ่นยังไม่ตัดสินใจเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ และจัดทำโปรโมชั่นเฉพาะกลุ่ม ได้แก่ นักกอล์ฟ ให้ไปเล่นกอล์ฟที่ประเทศไทยในช่วง Green Season เนื่องจากราคาต่ำกว่าที่ญี่ปุ่น นักเรียน/นักศึกษา มีความต้องการเดินทางสูงในช่วงปิดเทอม กลุ่มผู้ชื่นชอบเข้าร่วมงาน World Event / Concert มีความต้องการและกำลังซื้อสูง 

นอกจากนี้ ยังได้ทำการสื่อสารเรื่องเที่ยวเมืองไทย ในลักษณะของจับกลุ่ม เพื่อส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในเมืองน่าเที่ยว(เมืองรอง) ที่จะเป็นส่วนขยายออกไปจากเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น พื้นที่ภาคเหนือ: เชียงใหม่ - ลำพูน - ลำปาง พื้นที่อันดามัน: ภูเก็ต - พังงา – กระบี่ พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พื้นที่กรุงเทพฯ - จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พื้นที่กรุงเทพฯ - พัทยา จังหวัดชลบุรี

\'พลภูมิ\'ขับเคลื่อนไทยศูนย์กลางท่องเที่ยว - คิกออฟดึง\'ญี่ปุ่น\'เที่ยวไทย

สำหรับการทำให้รายจ่ายต่อหัวมากขึ้นนั้น มี 2 แนวทาง คือ การเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัว (Spending per Head) โดยการผลักดันให้บริษัทนำเที่ยวจัดรายการนำเที่ยวคุณภาพ มุ่งเน้นการทำกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่าและมีความหมาย (Valuable & Meaningful Experiences) เช่น กิจกรรมอาบน้ำช้าง ทำกระดาษจากมูลช้าง ทำผ้ามัดย้อม แต่งชุดไทย เป็นต้น และการเพิ่มวันพักเฉลี่ย (Length of Stay) ให้ยาวนานขึ้น โดยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากเมืองหลัก
ออกไปยังเมืองบริวารมากขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายในส่วนของโรงแรมที่พักยาวนานขึ้น และทำกิจกรรมในพื้นที่หลากหลายขึ้น

ทั้งนี้ ททท. 3 สำนักงานจะดำเนินการ implement โดยการกระตุ้นและสร้างการรับรู้ผ่าน Socialmedia นำเสนอ Content เกี่ยวกับ 5 Must Do in Thailand อย่างจริงจัง เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน

นายพลภูมิ ยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลจะผลักดันให้การท่องเที่ยวไทย มุ่งสู่การเป็น Tourism Hub  เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้น พำนักในประเทศไทยนานขึ้น และใช้จ่ายมากขึ้น ประเทศไทยจะเป็นที่หนึ่งของการท่องเที่ยว ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากคนไทยทุกภาคส่วน ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงประเทศ ไปจนถึงก้าวสุดท้ายก่อนเดินทางกลับด้วยความประทับใจ