คณะทำงานนายกฯ ชึ้เปิด Direct PPA ช่วยดึงดูดลงทุน-ลดค่าไฟ
คณะทำงานนายกฯ ชี้มติ กพช.เร่งเปิด Direct PPA ให้เอกชนซื้อขายไฟฟ้าพลังงานสะอาดโดยตรง เชื่อปลดล็อกโครงสร้าง พร้อมดึงดูดลงทุน-ลดค่าไฟ-ลดการผูกขาด
วันที่ 27 มิ.ย. 2567 นายศุภกร คงสมจิตต์ คณะทำงานของนายกรัฐมนตรี ด้านการลงทุนระหว่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติให้เร่งผลักดันให้เอกชน สามารถซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบการทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง หรือ Direct Power Purchase Agreement: Direct PPA กว่า 2,000 เมกะวัตต์ ซึ่งถือว่าเยอะมาก สามารถสร้าง Hyperscale Data Center ได้ถึง 10-20 แห่ง ในขณะที่มาเลเซียที่เปิดแค่ 800 MW นั้นจะสร้างได้เพียง 4-8 แห่งเท่านั้น จึงมั่นใจว่าจะรับนักลงทุนได้หลายหมื่นล้านบาท
ที่ผ่านมาการไปพบนักลงทุนหลายเจ้าที่ต้องการไฟสะอาด ต่างอยากจะเป็นคนเจรจากับผู้ผลิตไฟฟ้าเอง เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทเขาสามารถเป็น 100% Green ได้ จึงเป็นที่มาของการสนับสนุนให้เกิด Direct PPA ซึ่งการแข่งขันด้านพลังงานในภูมิภาค จะยิ่งดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ แต่ข้อดีของประเทศไทยคือเรามีสายส่งที่เพียบพร้อม หากเปรียบเทียบกับฟิลิปปินส์ หรือเวียดนาม ที่ระบบส่งไฟฟ้ายังช้ากว่าไทย 5-10 ปี หรือมีภูมิภาคเป็นเกาะ ซึ่งยากต่อการเชื่อมต่อ
นายศุภกร ยังได้กล่าวอีกว่าส่วนตัวมองว่าการแข่งขันกันดึงดูดธุรกิจในภูมิภาคจะดุเดือดมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพลังงานสีเขียว ระบบขนส่งโลจิสติกส์ ทั้งถนน ราง เรือ การเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งหลายๆอย่าง ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศชั้นนำ ไปที่ไหนก็มีอินเทอร์เน็ต มีสายไฟฟ้า ขณะเดียวกันไทยก็จะต้องไม่อยู่เฉย การแข่งขันจะกดดันให้รัฐบาลแต่ละประเทศออกนโยบายอีกหลายประการเพื่อขับเคลื่อนให้ทันความดุเดือดนี้
นายศุภกร ยังเห็นว่า Direct PPA จะเป็นการเปิดให้คนทั่วไป หรือ เอกชน สามารถใช้สายไฟฟ้าของรัฐส่งไฟที่ผลิตได้ ไปยังลูกค้าด้วยราคาที่ตกลงกัน บริษัทอย่าง Microsoft, Google, AWS, Tencent, หรือบริษัทที่ต้องการไฟฟ้าสะอาด 100% ก็จะมาลงทุนทั้งสร้างโรงงาน และสร้างโรงไฟฟ้าสะอาดในไทยมากขึ้น ทำให้ไทยได้เศรษฐกิจที่ดีขึ้น และลดคาร์บอนไปคราวเดียวพร้อมกัน และเมื่อมีการแข่งขันของภาคเอกชน ก็จะไม่มีการผูกขาดอีกต่อไป ค่าไฟก็จะดีขึ้นในระยะถัดไป
ในส่วนของสัญญาการผลิตไฟเดิมที่ประเทศได้ทำไว้ รัฐบาลก็จะต้องปฏิบัติตามทุกฉบับ เพื่อไม่ให้เกิดสภาวะรัฐบาลไม่รักษาสัญญา ซึ่งจะกระทบเรื่องของความเชื่อมั่น (Trust) ในระยะยาว ซึ่งรัฐควรมุ่งเพิ่มการแข่งขัน แต่จะต้องไม่ลดความมั่นคง เพื่อให้ราคาพลังงานมีความเหมาะสมในระยะยาว
ทั้งนี้ มติบอร์ด กพช. ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ แต่ในการทำรายละเอียด ทางกระทรวงพลังงานและ กพช. ยังต้องไปทำการบ้าน ราคา ให้เหมาะสมด้วย เพื่อไม่ให้เป็น มาตรการกระดาษที่ไม่มีใครใช้ เพราะราคาและมาตรฐานไม่เหมาะสม