สนทช. เร่งรัดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 189 โครงการ
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 72 พรรษา สนทช. ติดตามเร่งรัดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 189 โครงการ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย และสอดคล้อง เชื่อมโยงกับแผนพัฒนาบริหารจัดน้ำของรัฐบาล
25 ก.ค.2567 นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ หรือ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 สทนช. มีแผนในการติดตาม เร่งรัดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้ดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ สทนช. เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ ได้น้อมนำแนวพระราชดำริเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสานการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ มาขับเคลื่อนเพื่อช่วยให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ
สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้ดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมาย ประกอบด้วย โครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณไปแล้ว จำนวน 125 โครงการ ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ 111 โครงการ และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง จำนวน 14 โครงการ โครงการที่อยู่ในขั้นตอนการเตรียมความพร้อมเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 54 โครงการ และโครงการที่อยู่ระหว่างการขอใช้พื้นที่และการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม จำนวน 10 โครงการ
โดยมีที่มาของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 189 โครงการ มาจาก 3 แหล่ง ดังนี้
1.โครงการที่พระราชทานพระราชดำริโดยตรง จำนวน 24 โครงการ ปัจจุบัน กรมชลประทานได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำในพื้นที่จังหวัดสกลนคร จำนวน 23 โครงการ เช่น โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นฯ โครงการอ่างเก็บน้ำภูน้อยฯ โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำซับ 2, 3 และ 4 ฯ โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโศกฯ โครงการอ่างเก็บน้ำบ้านแพงตอนบนฯ โครงการอ่างเก็บน้ำหนองบัวแพฯ โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยหาดฯ โครงการอ่างเก็บน้ำวังก่อไผ่ฯ และโครงการอ่างเก็บน้ำบ่อสะอือฯ เป็นต้น
2.โครงการที่เกิดจากราษฎรขอพระราชทานความช่วยเหลือ (ฎีกา) และทรงรับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริแล้ว จำนวน 118 โครงการ กระจายอยู่ทั่วประเทศ แบ่งเป็น
2.1 โครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณแล้ว จำนวน 68 โครงการ แบ่งเป็น
ในพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 26 โครงการ เช่น โครงการก่อสร้างอ่างน้ำห้วยเฮี้ยฯ จังหวัดเชียงราย โครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านห้วยแหนพร้อมระบบส่งน้ำ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นต้น
ภาคกลาง จำนวน 10 โครงการ เช่น โครงการก่อสร้างฝายบ้านเขาแดงพัฒนาฯ จังหวัดจันทบุรี โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำวังตะโกฯ จังหวัดลพบุรี เป็นต้น
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 23 โครงการ เช่น โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำซำตมขาวพร้อมท่อส่งน้ำบ้านห้วยหมากหล่ำฯ จังหวัดอุดรธานี โครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำหนองบ่ออองและขุดร่องชักน้ำพร้อมระบบติดตั้งสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าฯ จังหวัดบึงกาฬ เป็นต้น
และภาคใต้ จำนวน 9 โครงการ เช่น โครงการจัดหาน้ำอุปโภคบริโภคตำบลลำสินธุ์พร้อมระบบส่งน้ำฯ จังหวัดพัทลุง โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยธารสะอาดพร้อมระบบส่งน้ำ จังหวัดระนอง เป็นต้น
2.2 โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (การเตรียมความพร้อมและอยู่ระหว่างขั้นตอนของบประมาณ) จำนวน 40 โครงการ แบ่งเป็น
พื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 23 โครงการ เช่น โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยป่าสักพร้อมระบบส่งน้ำฯ จังหวัดเชียงราย โครงการประตูระบายน้ำน้ำแวนและสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำ จังหวัดพะเยา เป็นต้น
ภาคกลาง จำนวน 5 โครงการ เช่น โครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าหนองไก่เถื่อนพร้อมระบบส่งน้ำ จังหวัดเพชรบุรี โครงการอ่างเก็บน้ำเขาขุย จังหวัดลพบุรี เป็นต้น
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 4 โครงการ เช่น โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำน้ำตกสองชั้นพร้อมระบบส่งน้ำ จังหวัดอุดรธานี โครงการแก้มลิงกุดหลึม - หนองผือพร้อมอาคารประกอบ จังหวัดยโสธร เป็นต้น
และภาคใต้ จำนวน 8 โครงการ เช่น โครงการปรับปรุงฝายบ้านควนพร้อมระบบส่งน้ำฯ จังหวัดยะลา โครงการอาคารบังคับน้ำคลองม่วงชุม จังหวัดปัตตานี เป็นต้น
2.3 โครงการที่อยู่ระหว่างการขอใช้พื้นที่และจะต้องทำรายงานสิ่งแวดล้อม จำนวน 10 โครงการ
อยู่ในพื้นที่ ภาคเหนือ จำนวน 9 โครงการ เช่น โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยจ๊วกพร้อมอาคารประกอบ จังหวัดน่าน โครงการอ่างเก็บน้ำแม่เชียงราย จังหวัดลำปาง โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยระแฮน้ำพร้อมระบบส่งน้ำ จังหวัดสุโขทัย เป็นต้น และในพื้นที่ภาคกลาง จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการอ่างเก็บน้ำคลองตาพลายฯ จังหวัดจันทบุรี
3. โครงการที่หน่วยงานขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย จำนวน 47 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดำเนินการโดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลทั้งหมด แบ่งเป็นโครงการที่ได้รับงบประมาณแล้ว จำนวน 33 โครงการ ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ 28 โครงการ
เช่น โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งฯ ในพื้นที่ตำบลด่านทับตะโก จังหวัดราชบุรี โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งฯ ในพื้นที่บ้านหนองแวง จังหวัดขอนแก่น เป็นต้น และอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง จำนวน 5 โครงการ เช่น โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งฯ ในพื้นที่บ้านสระแดงพัฒนา จังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น
และเป็นโครงการที่อยู่ระหว่างขั้นตอนเตรียมของบประมาณ จำนวน 14 โครงการ เช่น โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งฯ ในพื้นที่บ้านคลองถนนตาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งฯ ในพื้นที่บ้านนามน จังหวัดมุกดาหาร เป็นต้น
ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นอกจากช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การเกษตร และบรรเทาปัญหาอุทกภัยในฤดูน้ำหลากได้อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ยังเป็นการพัฒนาแหล่งน้ำที่สอดคล้องและเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาบริหารจัดน้ำของรัฐบาล ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำได้ในทุกมิติ อันจะนำไปสู่การวางแผนพัฒนาและบริหารจัดการน้ำแต่ละลุ่มน้ำในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นคง สร้างความสุข ตลอดจนสร้างประโยชน์กับประเทศและสังคมได้อย่างยั่งยืน
สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561– 2580) และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561– 2580) ได้ต่อไป “สืบสาน รักษา ต่อยอด” เพิ่มน้ำพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อประโยชน์สุขที่ยั่งยืนของประชาชนและประเทศ
โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สร้างความมั่นคง สร้างความสุข สร้างประโยชน์อย่างยั่งยืน
เลขาธิการ สนทช.กล่าวอีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระปฐมบรมราชโองการพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน ความว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”
พระปฐมบรมราชโองการดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้แล้วเสร็จ ควบคู่กับดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อสร้างทางเลือกการพัฒนาให้แก่ประชาชนและพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าและเกิดประโยชน์อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 จนปัจจุบัน มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 189 โครงการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ เพราะ “น้ำคือชีวิต” น้ำมีความสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิตของมนุษย์ สัตว์ พืช และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อีกมากมาย ดั่งพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2529 ความว่า “หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำบริโภค น้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะว่าชีวิตอยู่ที่นั้น ถ้ามีน้ำคนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้าคนอยู่ได้ แต่ถ้ามีไฟฟ้าไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้”