กทม. ยกเครื่องโรงกำจัดมูลฝอยชุมชนเป็นระบบปิด ติดตั้งระบบบำบัดดับกลิ่นขยะ
กทม. ปรับปรุงโรงกำจัดมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตพลังงาน 800 ตัน เป็นระบบปิด 100% ติดตั้งระบบบำบัดอากาศดับกลิ่นขยะ
14 ก.ย. 67 เวลา 08.30 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในความดูแลรับผิดชอบของสำนักสิ่งแวดล้อม โครงการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชน เพื่อผลิตพลังงาน ขนาดไม่น้อยกว่า 800 ตันต่อวัน เพื่อติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงโรงงานแก้ไขปัญหาเรื่องกลิ่นส่งผลกระทบแก่ชุมชนโดยรอบ ณ ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช เขตประเวศ
ทั้งนี้ รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม และผู้แทนบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้เดินตรวจบริเวณอาคารรับขยะ ช่องเทขยะ และบ่อรับขยะ เพื่อติดตามการปรับปรุงโรงงานให้เป็นโรงงานระบบปิดทั้งหมด ตรวจการตั้งติดตั้งประตู 3 ชั้น บริเวณทางเข้าอาคารรับขยะและบ่อรับขยะ ประกอบด้วย ประตู high speed shutter door บริเวณทางเข้าอาคารรับขยะ ซึ่งเป็นประตูอัตโนมัติ จะเปิด-ปิดในเวลาที่มีรถขยะผ่านเข้า-ออก ประตู shutter door พร้อมม่านอากาศ บริเวณทางเข้าช่องเทขยะ ประตู shutter door บริเวณบ่อรับขยะ ซึ่งประตูด้านในทั้ง 2 จุด จะมีเจ้าหน้าที่ควบคุมการเปิด-ปิด ส่วนม่านอากาศจะช่วยป้องกันไม่ให้กลิ่นกระจายออกไปสู่ด้านนอก การเพิ่มระบบบำบัดกลิ่น โดยการใช้เคมีบำบัด จากเดิม 100,000 ลบ.ม./ชม. เพิ่มเป็น 167,000 ลบ.ม./ชม. เพิ่มปริมาณการดูดอากาศ เน้นการดูดกลิ่นในบริเวณที่มีกลิ่นรุนแรง ช่วยบำบัดอากาศให้ดีขึ้น โดยได้กำชับให้บริษัทฯ ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมสั่งการโดยเคร่งครัด คาดว่าการปรับปรุงจะแล้วเสร็จในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 พร้อมทั้งมอบหมายหัวหน้าศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ให้ติดตามการแก้ไขปัญหาของโรงงานกำจัดมูลฝอยภายในศูนย์ฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนโดยรอบ นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้สำนักสิ่งแวดล้อมติดตามการแก้ไขปัญหาของโรงงานต่าง ๆ ผ่านกลไกการทำงานของคณะกรรมการและบริษัทฯ เพื่อให้การปรับปรุงเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โครงการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชน เพื่อผลิตพลังงาน ขนาดไม่น้อยกว่า 800 ตันต่อวัน เป็นโครงการตามนโยบายการบริหารจัดการมูลฝอย โดยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อลดพื้นที่การนำขยะไปฝังกลบ ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ว่าจ้าง บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ดำเนินการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชน เพื่อผลิตพลังงาน ขนาดไม่น้อยกว่า 800 ตันต่อวัน เป็นโครงการนำร่องใช้เทคโนโลยีเชิงกล-ชีวภาพ (Mechanical-Biological-Treatment : MBT) เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า โดยมีผลพลอยได้เป็นขยะเชื้อเพลิง (RDF) และขยะรีไซเคิล เริ่มเปิดเดินระบบมาตั้งแต่ปี 2563 ต่อมามีการร้องเรียนจากประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหากลิ่น ที่ผ่านมากรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้สั่งระงับใบอนุญาต เพื่อให้บริษัทฯ ปรับปรุงระบบ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหากลิ่น โดยอนุญาตให้กลับมาเปิดเดินระบบทดสอบรับกำจัดขยะ เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2565 ต่อมา กรอ. ได้สั่งการให้แก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติม ในเรื่องระบบบำบัดน้ำเสีย และการตรวจค่าวัดกลิ่น
ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินงานตามคำสั่งของ กรอ. ดังนี้ 1. โรงผลิตก๊าซชีวภาพ และบำบัดน้ำเสีย มีลำดับการดำเนินงาน ประกอบด้วย 1) วันที่ 2 เมษายน 2567 กรอ. มีหนังสือแจ้งให้บริษัทฯ ทราบว่า ตามที่ได้มีคำสั่งให้บริษัทฯ ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยจัดให้มีบุคลากรด้านสิ่งแวดล้อมประจำโรงงาน และให้ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องการจัดทำรายงานชนิดและปริมาณสารมลพิษที่ระบายออกจากโรงงาน พ.ศ.2558 ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ กรอ. ได้ตรวจสอบโรงงานเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 พบว่าบริษัทฯ ได้ปฏิบัติถูกต้องตามคำสั่งแล้ว 2) วันที่ 19 เมษายน 2567 กรอ. มีคำสั่งขยายระยะเวลาการปรับปรุงแก้ไขโรงงานออกไปถึงวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 โดยให้แสดงรายละเอียดการนำน้ำทิ้งจากการปรับคุณภาพน้ำ เพื่อนำกลับไปใช้ประโยชน์ในโรงงาน โรงผลิตก๊าซชีวภาพ และบำบัดน้ำเสียเท่านั้น ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดส่งข้อมูลให้ กรอ. เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 3) วันที่ 26 สิงหาคม 2567 กรอ. แจ้งผลการปฏิบัติการตามคำสั่ง มาตรา 37 ของโรงผลิตก๊าซชีวภาพ และบำบัดน้ำเสีย พบว่าบริษัทฯ ได้ปฏิบัติถูกต้องตามคำสั่งแล้ว 2. โรงคัดแยก ตามที่บริษัทฯ ได้ส่งแผนและมาตรการปรับปรุงโรงงานเป็นระบบ Negative Pressure ให้ กรอ. เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เพื่อขอให้ กรอ. พิจารณาขยายระยะเวลาการปรับปรุงโรงงาน ต่อมาวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 กรอ. มีคำสั่งให้ขยายเวลาการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขโรงงาน ออกไปจนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567
ส่วนการแก้ไขปัญหาเรื่องกลิ่นรบกวนชุมชนโดยรอบโครงการฯ ดำเนินการดังนี้ 1. การปรับปรุงโรงงานให้เป็นโรงงานปิด 100% 2. การติดตั้งประตู 3 ชั้น บริเวณทางเข้าอาคารรับขยะและบ่อรับขยะ ประกอบด้วย ประตู high speed shutter door บริเวณทางเข้าอาคารรับขยะ ประตู shutter door พร้อมม่านอากาศ บริเวณทางเข้าช่องเทขยะ ประตู shutter door บริเวณบ่อรับขยะ 3. เพิ่มระบบบำบัดกลิ่น โดยการใช้เคมีบำบัด จากเดิม 100,000 ลบ.ม./ชม. เพิ่มเป็น 167,000 ลบ.ม./ชม. ซี่งการเพิ่มปริมาณการดูดอากาศจะเป็นการเน้นการดูดกลิ่นในบริเวณที่มีกลิ่นรุนแรง ได้แก่ บริเวณเครื่องเตรียมหมัก (Biodamp) บริเวณเครื่องบีบอัด (Screw press) บริเวณชุดแยกกรวดทราย (Aerating sand) 4. การติดตามปัญหาเรื่องกลิ่น การลงพื้นที่สอบถามกับชุมชน บริเวณโดยรอบโครงการฯ เช่น ประสานงานให้กรมอนามัยเป็นผู้ตรวจวัดกลิ่น ทั้งช่วงก่อนปรับปรุงโรงงาน ระหว่างปรับปรุงโรงงาน และหลังปรับปรุงโรงงาน จัดหาอุปกรณ์ตรวจวัดกลิ่น E-NOSE ติดตั้งในจุดที่เฝ้าระวัง
ในการนี้มี นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม นายอาฤทธิ์ ศรีทอง รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม ผู้แทนบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อม และบริษัทผู้รับจ้าง ร่วมลงพื้นที่และรายงานข้อมูล