ขยายผลไม้ดอกไม้ประดับ จากเหนือสุดสู่ปลายด้ามขวานประเทศไทย

ขยายผลไม้ดอกไม้ประดับ จากเหนือสุดสู่ปลายด้ามขวานประเทศไทย

ขยายผลสัมฤทธิ์ ไม้ดอกไม้ประดับ จากเหนือสุด สู่ปลายด้ามขวานประเทศไทย มากกว่าอาชีพเสริม แต่เป็นอาชีพหลักได้อย่างยั่งยืน

“จากจิตอาสาปลูกดอกดาวเรือง วันนี้เป็นอาชีพที่มั่นคง โดยเมื่อปี 2560 ได้รับมอบหมายจาก จ.ยะลา ให้ปลูกดอกดาวเรืองเพื่อใช้ประดับพระเมรุมาศจำลองของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพื้นที่ อ.รามัน ร่วมกับเกษตรกรอีกหลายราย และได้ปลูกเพื่อใช้ในงานกิจกรรมต่างๆ ของจังหวัดมาอย่างต่อเนื่อง ต่อมาเกิดการระบาดของโควิด-19 มีการงดจัดกิจกรรม เกษตรกรจึงนำดอกดาวเรืองไปขายในตลาด ปรากฏว่าขายได้ดี จึงปลูกเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน” นายปรีชา บุญเนื่อง เกษตรกร อ.รามัน จ.ยะลา กล่าวในระหว่างการตรวจเยี่ยมความคืบหน้าโครงการสนับสนุนการปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ในพื้นที่ภาคใต้ของนางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( สำนักงาน กปร. ) และคณะ เมื่อวันก่อน

นางสุพร ตรีนรินทร์  เลขาธิการ กปร. เปิดเผยว่า แปลงไม้ดอกไม้ประดับ ณ อ.รามัน จ.ยะลา สํานักงาน กปร. และจ.ยะลา ได้เชิญ ศ.ดร.โสระยา ร่วมรังษี ผู้อำนวยการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริมาถ่ายทอดผลสำเร็จการปลูกไม้ดอกไม้ประดับของโครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่ฯ จ.เชียงใหม่ มาขยายผลให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ ปัจจุบันประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี 

ขยายผลไม้ดอกไม้ประดับ จากเหนือสุดสู่ปลายด้ามขวานประเทศไทย
 

“เกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่จากสวนยางพารามาทำเกษตรผสมผสานและปลูกดาวเรืองขาย พร้อมรวมกลุ่มกว่า 10 รายจัดตั้งเป็นกลุ่มส่งเสริมอาชีพการเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงชุมชน (ไม้ดอก) อ.รามัน จ.ยะลา ขึ้น ปัจจุบันขยายผลไปยังพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา และ อ.สุคิริน อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส อีกด้วย” เลขาธิการ กปร. กล่าว

 นายปรีชา บุญเนื่อง เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การปลูกต้นดาวเรืองเป็นการเริ่มต้นจากจิตอาสาสู่อาชีพ มีเกษตรกรรายอื่นๆ เห็นว่าขายได้ก็เข้ามาศึกษาเรียนรู้ และรวมตัวจัดตั้งเป็นกลุ่มไม้ดอกของอําเภอรามันขึ้น ปัจจุบันมีสมาชิก 30 ราย ล่าสุด ศ.ดร.โสระยา ร่วมรังษี ได้ส่งพันธุ์ไม้ดอกที่พัฒนาสายพันธุ์ให้มาปลูก เช่น แกลดิโอลัส แอสเตอร์ ปทุมมา ตอนนี้ที่เห็นผลเจริญเติบโตออกดอกได้ดีจะเป็นปทุมมา และมีตลาดรองรับอีกด้วย” นายปรีชา  บุญเนื่อง กล่าว

ขณะที่นายปฏิพัทธ์ กาโลง ผู้ใหญ่บ้าน บ้านวังพญา หมู่ที่ 2 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา สมาชิกกลุ่มวังดาวเรืองบอกว่า ได้ไปดูงานที่แปลงปลูกดาวเรืองของนายปรีชา พบว่าปลูกง่ายดูแลไม่ยาก จึงรวมกลุ่มในชุมชน ปัจจุบันมีสมาชิกผู้ปลูกดาวเรือง จำนวน 14 คน 

“ทุกคนใช้ทุนของตัวเองในการจัดเตรียมพื้นที่ และได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ โดยการปลูกเริ่มต้นจากเพาะเมล็ดพันธุ์ในถาดเพาะเป็นเวลา 15 วัน แล้วนำลงแปลงปลูก ดูแลอีก 45 วัน ก็สามารถเก็บดอกได้ โดย 1 ต้น ให้ดอกประมาณ 15 ถึง 45 ดอก ตัดดอกครั้งหนึ่งได้ประมาณ 2,000 – 3,000 ดอก ราคาดอกละ 2 บาท ขึ้นกับขนาดของดอก ส่งขายที่ตลาดยะลา และตอนนี้ขยายตลาดไปที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งมีความต้องการรับซื้อไม่จำกัด ตอนนี้ในแปลงปลูกที่เก็บดอกได้แล้วประมาณ 2,000 ต้น สามารถเก็บดอกได้ 25 - 30 ครั้ง หรือ ประมาณ 4 เดือน ก่อนที่จะถอนทิ้ง แล้วเริ่มปลูกรุ่นใหม่ต่อไป 

ขยายผลไม้ดอกไม้ประดับ จากเหนือสุดสู่ปลายด้ามขวานประเทศไทย

โดยพื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกดาวเรืองได้ทั้งหมด 8,000-10,000 ต้น ทางกลุ่มได้รับความรู้การปลูกไม้ดอกจากโครงการไม้ดอกเมืองหนาว
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.เบตง จ.ยะลา โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา และส่วนราชการต่างๆ ได้ให้คำแนะนำ หากเกษตรกรท่านใดสนใจ ต้องการปลูกต้นดาวเรืองเพื่อประกอบเป็นอาชีพ เข้ามาศึกษาดูงานได้ และขอขอบพระคุณสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้พระราชทานอาชีพการปลูกไม้ดอกให้แก่เกษตรกร ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงอาชีพเสริมอย่างเดียว หากทำจริงอย่างตั้งใจก็จะสามารถเป็นอาชีพหลักได้อย่างยั่งยืน