สาวใหญ่บุรีรัมย์สุดเฮง ถูกรางวัลที่1รับ4ล้าน

สาวใหญ่บุรีรัมย์สุดเฮง ถูกรางวัลที่1รับ4ล้าน

สาวใหญ่บุรีรัมย์สุดเฮง ถูกรางวัลที่ 1 รับทรัพย์ 4 ล้าน เผยบ้านกำลังจะถูดยึด โชคดีได้เงินไปไถ่ถอน ยันไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยเพราะครอบครัวยากจน

วันนนี้ (17 พ.ค.) ที่ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.สายแก้ว เพ็ชรเลิศ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/4 หมู่ 4 ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้นำสลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลข 011421 ชุดที่ 55 , 56 งวดที่ 34 ประจำวันที่ 16 พฤษภาคม 2558 จำนวน 1 คู่ 2 ใบ เป็นลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็นเงิน 4 ล้านบาท เข้าแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์

จากนั้น ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 90/4 หมู่ 4 ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีสภาพเก่าทรุดโทรม ก็พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านต่างมาแสดงความยินดีกับ น.ส.สายแก้ว เพ็ชรเลิศ อายุ 39 ปี มีอาชีพรับจ้างทั่วไปและมีฐานะยากจน

เป็นผู้โชคดีที่ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ซึ่งหลังจากญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านทราบข่าวว่า น.ส.สายแก้ว ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ต่างก็เดินทางมาแสดงความยินดีที่บ้าน บางคนก็โทรศัพท์มาดีใจด้วย

ทั้งนี้ เนื่องจากทราบว่า น.ส.สายแก้ว กำลังจะถูกยึดบ้านและที่ดินที่อาศัยอยู่ในปัจจุบัน เพราะก่อนหน้านี้ได้นำบ้านและที่ดินไปจำนองกับนายทุนเกือบ 600,000 บาท แต่ไม่มีเงินไปใช้หนี้ เพราะด้วยฐานะที่ยากจนมีรายได้แค่เพียงจากการรับจ้างทั่วไปวันละ 200 –

300 บาทบางวันก็ไม่มีใครจ้าง ขณะนี้ก็ครบกำหนดที่นายทุนจะมายึดบ้านและที่ดินแล้ว แต่ขอยืดระยะเวลาออกไปสักระยะเพราะกำลังสร้างกระต๊อบเล็กๆที่ขออาศัยอยู่ในที่ดินของญาติพี่น้อง

น.ส.สายแก้ว เล่าว่า เมื่อเช้าวันที่ 16 พ.ค.58 ได้ไปซื้อกับข้าวที่ตลาดและมีเงินเหลือในกระเป๋าเพียง 210 บาท ก็มีคนเร่ขายลอตเตอรี่ซึ่งเป็นคนพิการ นำลอตเตอรี่มายัดใส่มือให้ 1 ใบ บอกว่าเป็นเลขดังเหลืออยู่ใบสุดท้าย ตอนแรกก็ลังเลเพราะปกติเป็นคนไม่ชอบซื้อหวยอยู่แล้ว

อีกทั้งเงินที่เหลืออยู่ 210 บาท ต้องเก็บไว้ซื้อกับข้าวให้สามีและลูก แต่คนขายก็คะยั้นคะยอให้ซื้อจึงตัดสินใจซื้อ เพราะเชื่อว่าน่าจะมีโชคบ้าง จึงได้จ่ายเงินไป 110 บาท กระทั่งตอนเย็นก็มาทราบว่าถูกลอตเตอรี่รู้สึกดีใจมากจนทำอะไรไม่ถูก ส่วนเงินรางวัลที่ได้อันดับแรกก็จะนำไปไถ่ถอนบ้านและที่ดินคืนจากนายทุน เพื่อให้มีที่อยู่อาศัย ส่วนที่เหลือก็จะเก็บไว้เป็นค่าเล่าเรียนของลูก และใช้จ่ายในครอบครัว

น.ส.สายแก้ว กล่าวว่า แม้จะถูกรางวัลแต่ก็จะทำอาชีพรับจ้างเหมือนเดิมและใช้ชีวิตตามปกติ ที่สำคัญจะไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย เพราะที่ผ่านมาลำบากมาก เคยไปทำงานที่พัทยา เพื่อจะหาเงินมาใช้หนี้และไถ่ถอนบ้านคืน แต่รายได้ก็ยังไม่เพียงพอจึงตัดสินใจกลับมาทำงานรับจ้างที่บ้าน กระทั่งมาโชคดีได้ปลดหนี้จนหมด