ทลายโรงเชือดสุกรเถื่อนที่ระยอง ผิดกม.ไร้ใบอนุญาต

เมื่อคืนของวันที่24มีนาคมที่ผ่านมา นายเสกสรร แสงทรัพย์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ จังหวัดระยอง พร้อมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอเมืองระยอง อำเภอบ้านค่าย อำเภอเขาชะเมา อำเภอวังจันทร์ และทหาร จากพัน ร.6ร้อย รส.ทร.ที่2พล.นย. รวมกว่า30คน ลงพื้นที่ตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน3จุดในอำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง หลังมีประชาชนร้องเรียน ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง ว่า มีผู้ลักลอบเปิดโรงเชือดสุกร เถื่อน ไร้ใบอนุญาต ขอให้ดำเนินการตรวจสอบ และ จับกุม เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ บ้านเลขที่35/3ม.2ซ.ชุมชนหนองผักหนาม2ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เป็นจุดแรก

พบคนงานเป็นชายจำนวน7คน แบ่งเป็น คนไทย5คน กัมพูชา2คน กำลัง ชำแหละ สุกร ขนาดประมาณ70-80กิโลกรัม อยู่ในโรงเชือดเปิดกว้าง4ด้าน ขนาดประมาณ400ตรม.ปลูกสร้างบนเนื้อที่กว่า3ไร่ ที่เป็นบ้านพักอยู่ในโซนเดียวกัน

เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดระยองได้แสดงตัวขอดูใบอนุญาตให้ประกอบกิจการฆ่าสัตว์ และแบบตอบรับ แจ้งการฆ่าสัตว์ เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ แต่ใน ขณะนั้นไม่มีผู้ใดรับเป็นเจ้าของเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึด ของกลาง มีซากสุกร จำนวน9ตัว มีดจำนวน7เล่ม ขวานจำนวน2ด้าม เหล็กแป๊ปจำนวน2อัน ตะขอเกี่ยวจำนวน4อัน ที่ลับมีดจำนวน3อัน ต่อมา มีนางวิไลแซ่ลิ้ม อายุ46ปี รับเป็นเจ้าของ โรงเชือดสุกร

เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ว่ากระทำผิดกฎหมาย คืนหนึ่ง ประกอบกิจการฆ่าสัตว์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพรบ ควบคุม การฆ่าสัตว์ เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ. ศ.2559มาตรา15บทกำหนดโทษ ตามมาตรา56ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา15วรรคหนึ่ง มาตรา37หรือมาตรา39วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ2ฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายโดยไม่แจ้งชนิด และจำนวนสัตว์ที่จะฆ่า แหล่งที่มาของสัตว์ ที่จะฆ่า วันและเวลาที่จะฆ่าสัตว์ และชื่อโรงฆ่าสัตว์ต่อพนักงานท้องถิ่น
ตามพรบ.ควบคุมการฆ่าสัตว์ เพื่อจำหน่ายเนื้อสัตว์พ. ศ.2559มาตรา31บทกำหนดโทษตามมาตรา60ผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม มาตรา31วรรคหนึ่ง มาตรา32หรือมาตรา36วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับ เรียงตามรายตัว ของ เขาสัตว์ โดย แพะแกะสุกร หรือนกกระจอกเทศ ตัวละไม่เกิน20,000บาท นำตัวส่ง พ.ต.ท.ชนะพล ภัทรชนานนท์รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ดำเนินคดี

เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดระยอง นำกำลังรุดไป จุดที่2ถนน ซอย11พณานิคม อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ซึ่งเป็นเส้นทางในป่ายาง ตรวจพบ โรงเชือดขนาดพื้นที่กว่า500ตารางเมตร แต่ไม่พบคนงานและสุกร ที่ชำแหล่ะ แต่อย่างใดพบเพียง กองฝืนสำหรับ เป็นเชื้อเพลิง ต้มน้ำ จำนวนมาก วางกอง อยู่ข้างโรงเชือด จึงได้ทำการ ไปยังจุดเป้าหมายที่3โดยใช้เส้นทางนิคมซอย8ตัดผ่าน สวนยางพารา เพื่อ ไปซอย9สาย13ตำบลพนานิคมอำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ซึ่งพบโรงเชือดปิดอยู่ มีเพียงกองฟืนวางกองอยู่จำนวนมากเช่นกัน จึงได้ถอนกำลัง กลับสำนักงานปศุสัตว์ จังหวัดระยอง

ด้านเรือโทชูชีพ ชัชวาลภัทรกุล รอง.ผบ.มว.ร้อย.รส.ทร.ที่2พล.นย.ได้กล่าวว่าการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ทหารร่วมเป็นสักขีพยานในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานปศุสัตว์จังหวัดระยอง เพียงเท่านั้น และ พร้อม ให้ความร่วมมือในทุกด้าน ในทุกด้าน หากหน่วยงาน ต่างๆขอการสนับสนุนมา