ชาวสวนช้ำ! พายุฤดูร้อนถล่มสวนทุเรียนจันทบุรีเสียหายกว่า6 ตัน
อยู่ในช่วงใกล้เก็บเกี่ยว ผู้รับเหมาเตรียมเข้ามาตัดไปจำหน่าย รวมค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 27 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังพื้นที่ ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี หลังได้รับแจ้งเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มสวนผลไม้ ทำให้ทุเรียนที่ใกล้เก็บเกี่ยวร่วงหล่นได้รับความเสียหายกว่า 90 ต้น คิดเป็นมูลค่าหลายสิบล้านบาท หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวได้ทำการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนมากที่สุดอยู่ คือบริเวณพื้นที่ ม. 5, ม.7, ม. 11 และ 14 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยพายุฤดูร้อนดังกล่าว ก่อให้เกิดพายุฝนลมแรง พัดกรรโชก สร้างความเสียหายต่อสวนผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียน ที่โค่นล้ม ทำให้ผลผลิตที่ใกล้เก็บเกี่ยว ร่วงหล่นได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
จากการสอบถามนายพิชิต ชนะสิทธิ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/3 ม.14 ต.ทุ่งเบญจา เจ้าของสวนผลไม้ เล่าว่า ต้นทุเรียนที่ถูกลมพัดหักโค่นเสียหายนั้น ผู้รับเหมาจะเข้ามาตัดในอีก 15-20 วันที่จะถึงนี้ โดยมีทุเรียนพันธ์พวงมณี และหมอนทองร่วงหล่นเสียหาย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 500,000 บาท
นายพิชิต เจ้าของสวนทุเรียน ยังเปิดเผยอีกว่าขณะเกิดเหตุได้มีพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก จากนั้นได้มีลมกรรโชกแรง พัดโหมกระหน่ำเข้ามาอย่างรุนแรงประมาณ 20 กว่านาที โดยหลังพายุสงบลงตนเองจึงได้ออกไปตรวจสอบภายในสวนทุเรียน และก็พบว่าต้นทุเรียนถูกแรงรมพัดหักโค่น ตลอดจนผลผลิตที่ใกล้เก็บเกี่ยวร่วงหล่นได้รับความเสียหายประมาณ 6 ตัน ซึ่งนับว่าเป็นความเสียหายที่เกิดจากเหตุการณ์วาตภัย ติดต่อกันปีนี้เป็นปีที่ 4 แล้ว โดยหนักสุดเมื่อปี 2558 ซึ่งผลผลิตที่ร่วงหล่นในครั้งนี้ ตนเองจะไม่นำออกไปขาย เนื่องจากเป็นทุเรียนที่ไม่ได้คุณภาพ ซึ่งหากนำไปขายจะทำให้เกิดผลเสียต่อกลไกการตลาด โดยจะนำไปทำลาย โดยการเผาและฝังกลบ เพื่อป้องกันการเกิดและแพร่ระบาดของเชื้อรา
อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์ พายุฤดูร้อนพัดถล่ม ทางสำนักงานเกษตร จ.จันทบุรี ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเบื้องต้น พบว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุทั้งสิ้น 4 หมู่บ้าน มีเกษตรกรได้รับผลกระทบ 38 ราย พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย 15 ไร่ ผลผลิตได้รับความเสียหายน้ำหนักรวมกว่า 92.5 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท