มนุษย์ป้าเก็บมือถือเรียกค่าไถ่5,000 เจอข้อหายักยอกทรัพย์

จากกรณีที่ น.ส.สายฝน มูลจันทร์ อายุ 45 ปี เก็บโทรศัพท์มือถือไอโฟน 7 ของ น.ส.หนึ่งฤทัย นากา อายุ 34 ปี ที่ลืมทิ้งไว้ในร้านสะดวกซื้อ ภายในซอยบัวขาว เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้ แต่ได้เรียกร้องขอค่าไถ่โทรศัพท์ไปจำนวน 5,000 บาท กระทั่งมีการแจ้งความดำเนินคดีตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (8 เม.ย.) พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.พัทยา จ.ชลบุรี เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวพร้อมชี้แจ้งเรื่องข้อกฎหมายว่าในกรณีที่มีบุคคลใดเก็บทรัพย์สินมีค่าของผู้อื่นได้นั้นไม่ว่าจะเป็นการหลงลืมไว้หรือตกหล่น คนที่เก็บได้จะต้องนำมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อประกาศตามหาเจ้าของมารับทรัพย์นั้นคืน ทั้งนี้คนที่เก็บได้ไม่มีสิทธิจะนำทรัพย์สินที่เก็บได้หรือของมีค่าต่างๆไปเป็นของตัวเอง

ทั้งนี้หากบุคคลที่เก็บได้แล้วไม่ยอมคืนเจ้าของ ซึ่งเจ้าของยังมีการติดตามหาทรัพย์เหล่านั้นอยู่อย่างต่อเนื่องกรรมสิทธิ์ยังเป็นของเจ้าของอยู่ อย่างกรณีที่เกิดขึ้นนั้นแสดงว่าบุคคลที่เก็บได้มีเจตนาทุจริตเอาทรัพย์ของผู้อื่นไป มีความผิดในข้อหาลักทรัพย์ หากเหตุการณ์นั้นเกิดช่วงกลางคืน ก็จะเข้าข่ายข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน มีโทษจำคุก 5 ปี และโทษปรับ ส่วนการลืมทรัพย์สินหรือทำทรัพย์สินหล่นหายไปนาน 2-3 วัน แล้วมีบุคคลเก็บได้แล้วไม่คืนเจ้าของจะมีความผิดในฐานยักยอกทรัพย์มีโทษไม่เกิน 3 ปี

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นที่เป็นข่าวโด่งดังไปแล้วนั้นเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และได้มีการจับกุมผู้ต้องหาควบคุมตัวไว้เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเอส่งพนักงานอัยการฟ้องศาลต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหายื่นหลักทรัพย์ห้าหมื่นเพื่อประกันตัวไปเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นสิทธิผู้ต้อง หาที่สามารถทำได้