ระทึก!ซ้อนแผนจับ 'แก๊งลักเด็กเรียกค่าไถ่' เปิดโปงกลลวงสุดแสบ
เหตุการณ์ระทึกกลางกรุง! จนท.-ตร.ซ้อนแผนจับ "แก๊งลักเด็กเรียกค่าไถ่" เปิดโปงขบวนการกลลวงสุดแสบ
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2560 เจ้าหน้าที่จากองค์กรพัฒนาเอกชน ( NGOs) ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า มีเด็กชายชาวเมียนมาร์ อายุ 14 ปี ทราบว่าพี่สาวสองคน คนโตอายุ 20 ปี คนรองอายุ 16 ปี เข้ามาทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่กรุงเทพฯ ย่านเอกมัย จึงต้องการเดินทางมาหาพี่สาว โดยได้ว่าจ้างขบวนการพาแรงงานข้ามชาติให้มาส่ง โดยเข้ามาผ่านทาง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ ขบวนการพาแรงงานข้ามชาติกลุ่มนี้ กลับไม่นำเด็กชายชาวพม่าอายุ 14 ปี ส่งให้พี่สาว โดยมีการเรียกร้องให้โอนเงินค่าไถ่ให้ ซึ่งผู้เป็นพี่สาวได้โอนเงินให้ไปแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกเป็นเงินประมาณ 9,000 บาท อีก 2 ครั้งเป็นเงินครั้งละ 3,000 บาท
จนกระทั่งครั้งล่าสุด ขบวนการพาแรงงานข้ามชาติ ได้นำเด็กมาส่งให้จริง แต่กลับเรียกเงินอีก 7,000 บาท ซึ่งพี่สาวไม่มีเงินให้ จึงฉุดพี่สาวคนโต อายุ 20 ปี ขึ้นรถตู้และขับหลบหนีไป ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่ NGOs จึงได้แจ้งเรื่องร้องเรียนขอความช่วยเหลือดังกล่าวมายังศูนย์ดำรงธรรมกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (มท.) ให้เข้าไปช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
โดยได้มีการประสานผ่านทางกรมการปกครองกับนายมานะ สิมมา ผอ.ส่วนการสอบสวนคดีอาญา นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ส่วนกำกับและตรวจสอบ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ประสาน พ.ต.อ.คมกฤช สุขไทย ผกก.บก.ปคม. จึงมอบหมายสั่งการให้ พ.ต.ท.พีรภัทร์ ปรมพุฒิ สว.กก.1 บก.ปคม.นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.1บก.ปคม.เข้าร่วมช่วยเหลือเหยื่อและจับกุมผู้ต้องหา
ต่อมาเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน ชุดปฏิบัติพิเศษกรมการปกครอง จึงได้ประสานงานและวางแผนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) เพื่อเข้าช่วยเหลือชาวเมียนมาร์ ซึ่งเป็นเด็กและผู้หญิง จำนวน 2 รายดังกล่าว โดยซ้อนแผนให้พี่สาวนำเงิน จำนวน 7,000 บาท ที่ขบวนการพาแรงงานข้ามชาติเรียกร้องมาจ่ายให้ ขณะที่คนขับรถตู้กำลังจะขึ้นรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้ และช่วยเหลือชาวพม่าที่ถูกเรียกค่าไถ่ทั้ง 2 รายได้อย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจู่โจมของกรมการปกครอง เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณปากซอยปรีดีพนมยงค์ 6 เห็นว่า รถของขบวนการดังกล่าวกำลังจะขับหลบหนี เจ้าหน้าที่ที่เฝ้าอยู่อีกฝั่งถนน จึงรีบวิ่งข้ามถนนเข้าชาร์จตัว เพื่อทำการช่วยเหลือเหยื่อ จนทำให้ถูกรถชนกระเด็น แต่สามารถลุกขึ้นยืนได้ จนสามารถควบคุมตัวนายวันดี พรมโฮม อายุ 29 ม.9 ต.บ้านราษฎร์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา เอาไว้ได้
ต่อมาเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่กำลังนำตัวเหยื่อไปทำการสัมภาษณ์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่ พม. มาร่วมทำการคัดแยก และสอบสวนนายวันดี เพื่อขยายผลที่ กก.1 บก.ปคม. โดยพล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. ได้มาสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นด้วยตนเอง พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนขยายผลต่อ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ปคม.ได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบสวน เพื่อคัดแยกว่าเข้าข่ายการกระทำผิดเรื่องค้ามนุษย์หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะดำเนินการคุ้มครองพยานโดยจะขออำนาจศาลส่งตัวเข้าบ้านพักเพื่อคุ้มครองพยานเป็นเวลา 7 วัน เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป