สุราษฎร์ฯจับหอยสับเค็ดขาย สร้างรายได้งามอร่อยกว่าหอยนางรม

วันนี้( 9 มิ.ย.60 ) นายวินัย เนตรวงศ์ อายุ 56 ปี หัวหน้ากลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนคลองพุมเรียง ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำผู้สื่อข่าวนั่งเรือประมงพื้นบ้าน (เรือหางยาว) ไปดูวิธีการจับหอยสับเค็ดที่เป็นหอยกาบ 2 ฝาฝังตัวอยู่ใต้พื้นทรายลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ที่บริเวณดอนทรายของเกาะเสร็จ ห่างจากชายฝั่งไปประมาณ 5 กิโลเมตร เมื่อเวลาน้ำทะเลลดลง ดอนทรายของเกาะเสร็จจะโผล่ขึ้นเหนือน้ำ เป็นระยะทางยาวกว่า 4 กิโลเมตรมีพื้นที่กว้างประมาณ 1,000 ไร่ 

นายวินัยบอกว่า ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม น้ำทะเลจะลดลงมากทำให้มีพื้นที่จับหอยกว่า 1,000 ไร่ ชาวประมงพื้นบ้านจะออกมาจับหอยสับเค็ดกันเป็นจำนวนมากเพื่อนำรายได้มาเลี้ยงครอบครัว โดยวิธีการจับหอยสับเค็ดจะต้องใช้เสียบขุดระหว่างรูหอย 2 รู หรือใช้มือเปล่าขุดทรายลงไปเพื่อไล่จับตัวหอย และจะต้องใช้ความรวดเร็วในจับหอยมิฉะนั้นตัวหอยจะมุดทรายหลบหนีไป 

ส่วนรสชาติของเนื้อหอยสับเค็ด มีรสชาติที่ดีมีทั้ง หวาน หอม เนื้อก็นุ่ม เนื่องจากหอยสับเค็ดอยู่ในพื้นที่น้ำสะอาด และมีความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุ หากจะเปรียบเทียบระหว่างหอยนางรมก็ใกล้เคียงกัน หรือบางคนก็บอกว่ารสชาติของหอยสับเค็ดอร่อยกว่าหอยนางรม เนื่องจากหอยนางรมเป็นหอยเลี้ยงและหากินง่าย ส่วนหอยสับเค็ดเป็นหอยธรรมชาติหากินยากภายใน 1 ปีชาวบ้านสามารถหาได้ประมาณ 3 เดือนเศษเท่านั้น - และดอนทรายเกาะเสร็จแห่งนี้เป็นแหล่งกำเนิดหอยสับเค็ดมากที่สุด นอกจากหอยสับเค็ดแล้วยังมีหอยขาว หอยไฟไหม้ หอยปากเป็ดหรือหอยรากอยู่จำนวนมากเช่นกัน 

สำหรับหอยสับเค็ดยังไม่รู้จักแพร่หลายของนักบริโภคเนื่องจาก 1 ปีหาได้ไม่กี่เดือน ชาวประมงจับได้นำไปขายส่งให้พ่อค้าคนกลาง ในราคากิโลกรัมละ 60 บาท พ่อค้าคนกลางขายส่งต่อให้พ่อค้าแม่ค้าปลีกในราคา 80 บาทซึ่งในท้องตลาดขายกันอยู่ที่ ประมาณ 120 บาท หากถูกนำไปขึ้นร้านอาหารซีฟู้ดแล้ว จะมีราคาสูงอยู่ที่จานละ 350 บาทมีจำนวน 8 ตัว มีทั้งเมนูผัดฉ่า ผัดเครื่องแกง แกงใบลาใส่ขนุน ย่าง อบซอส อบเนย 

ซึ่งชาวประมงพื้นบ้านบอกว่าน้ำลงช่วงไหน ก็จะออกมาจับหอยในช่วงนั้น บางวันน้ำแห้งตลอดทั้งวันก็จะจับได้มาก แต่วันนี้น้ำขึ้นเร็วใช้เวลาจับครึ่งวันได้หอยสับเค็ดกว่า 30 กิโลกรัม ซึ่งสามารถสร้างรายได้มาจุนเจือครอบครัววันละ 800-1,000 บาทนับเป็นรายได้ที่ดีในเวลานี้