นทท.ไทย-กัมพูชา แห่ชมทิวทัศน์พญากูปรี
ประชาชนทั้งชาวไทยและกัมพูชา แห่ชมทิวทัศน์พญากูปรี ศึกษาประวัติศาสตร์สัตว์ป่าหายาก "พญากูปรี" บนเทือกเขาพนมดงรัก
เมื่อวันที่ 23 ต.ค.60 วันหยุดยาวนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวเขมร ข้ามแดนขึ้นชมทิวทัศน์บนเทือกเขาพนมดงรัก บริเวณจุดชมวิวพญากูปรี อยู่ ระหว่างเส้นทางแซรไปร ช่องสะงำ เส้นทางขึ้นสู่ประตูการค้า การท่องเที่ยว ไทย - เขมร จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 7-8 เป็นจุดชมวิวพญากูปรีบนเทือกเขาพนมดงรักที่กั้นเขตแดน 2 ชาติไทยเขมรบนพื้นที่ดังกล่าวเมื่อประมาณปีพุทธศักราช 2542 ชาวบ้านได้พบสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์ คือพญากรูปรี ด้วยพื้นที่ดังกล่าวนั้น เป็นพื้นที่ป่าไม้ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ มีแมกไม้นานาพันธุ์ มีชะง่อนหน้าผา แม่น้ำ สวยงาม ทางราชการจึงจัดเป็นจุดชมวิว2จังหวัดศรีสะเกษ-สุรินทร์เมื่ออยู่บนหน้าผามองลงพื้นที่ด้านล่าง เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ฝายกั้นน้ำห้วยสำราญ ที่มีทิวทัศน์สวยแบบธรรมชาติน่ายลโฉมยิ่งได้พบเจอะเจอศึกษาประวัติสัตว์ป่าหายากที่ใกล้สูญพันธุ์ตะวันขึ้นสามแผ่นดินบนผามออีแดงคึกคัก
โยเฉพาะช่วงนี้ บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและภาคอีสานอีกระลอก ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีสภาพอากาศเย็นลง บนยอดภูอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่20องศาเซลเซียส ช่วงวันหยุดยาวจึงมีนักท่องเที่ยวขึ้นเที่ยวชมทิวทัศน์สวยงาม สัมผัสอากาศที่เย็นสบาย บนจุดชมวิวพญากูปรีและศึกษาสภาพธรรมชาติ ด้านนักท่องเที่ยวชาวเขมร กล่าวว่า เป็นคนจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา เดินทางมาท่องเที่ยวพร้อมเพื่อนและครอบครัว เพราะชื่นชอบทิวทัศน์ที่สวยงามและอากาศที่เย็นสบาย