ชี้ต่างด้าวเปลี่ยนนาย แจ้งใน7วันไม่ผิดกม. เผยจับ392คนแย่งอาชีพคนไทย
อธิบดีฯ "อนุรักษ์ ทศรัตน์" ชี้แจงกฎหมายใหม่ แรงานต่างด้าวเปลี่ยนนายได้ไม่รอ5กรณี แต่ให้รีบแจ้งใน7วัน เกินเวลาผิดกม. เผยจับ392คนแย่งอาชีพคนไทย
นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กล่าวชี้แจงถึงกรณีการเปลี่ยนนายจ้างว่า เดิมกำหนดให้เปลี่ยนนายจ้างได้ 5 กรณีคือ 1) นายจ้างเลิกจ้าง/นายจ้างเสียชีวิต 2) นายจ้างล้มละลาย 3) นายจ้างกระทำทารุณกรรมหรือทำร้ายร่างกายลูกจ้าง 4) นายจ้างไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้างหรือกฎหมายคุ้มครองแรงงาน 5) ลูกจ้างทำงานในสภาพการทำงานหรือสภาพแวดล้อมในการทำงานที่อาจทำให้ลูกจ้างได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามัย
แต่ในปัจจุบัน พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 กำหนดให้แรงงานต่างด้าวสามารถเปลี่ยนนายจ้างได้โดยให้นายจ้างเก่าต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่แรงงานต่างด้าวออกจากงานไม่ว่าด้วยเหตุใด หากไม่แจ้งจะมีความผิดตามกฎหมาย สำหรับประเด็นปัญหาแรงงานต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทยนั้น อาชีพที่แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา สามารถทำได้มี 2 ตำแหน่งเท่านั้นคือ 1. กรรมกร 2. ผู้รับใช้ในบ้าน
ทั้งนี้ อาชีพขายของหน้าร้าน หรือเร่ขายของ เช่น เข็นรถขายผลไม้ ขายอาหาร เป็นต้น แรงงานต่างด้าวฯ ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ซึ่งที่ผ่านมา กรมการจัดหางานได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบการทำงานของแรงงานต่างด้าว โดยได้กวดขัน จับกุมและดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวที่กระทำผิดมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ซึ่งในปีงบประมาณ 2560 ที่ผ่านมา ได้ตรวจสอบแรงงานต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทยไปแล้วจำนวน 392 คน เป็นเมียนมา 365 คน ลาว 12 คน กัมพูชา 6 คน เวียดนาม 3 คน อินเดีย 4 คน และอื่น ๆ 2 คน นายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 301 แห่ง ดำเนินคดีแรงงานต่างด้าว 67 คน เป็นเมียนมา 59 คน ลาว 2 คน กัมพูชา 2 คน เวียดนาม 3 คน อินเดีย 1 คน นายจ้าง/สถานประกอบการ 19 แห่ง และในปี 2561 ได้ตรวจสอบแรงงานต่างด้าว จำนวน 297 คน เป็นกัมพูชา 2 คน ลาว 8 คน เมียนมา 279 คน เวียดนาม 5 อินเดีย 1 คน และ อื่นๆ 2 คน นายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 223 แห่ง ดำเนินคดีแรงงานต่างด้าว จำนวน 55 คน เป็นเมียนมา 44 คน ลาว 3 คน กัมพูชา 2 คน เวียดนาม 5 อินเดีย 1 คน นายจ้าง/สถานประกอบการ 9 แห่ง
สำหรับมาตรการที่ช่วยเหลือนายจ้างในการพิสูจน์สัญชาตินั้น ขอเรียนว่าการพิสูจน์สัญชาติเป็นการดำเนินการของประเทศต้นทาง 3 ประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานได้อำนวยความสะดวกให้กับนายจ้าง โดยประสานประเทศต้นทางเพื่อจัดตั้งศูนย์บริการเพื่อการทำงานของคนต่างด้าวในรูปแบบ OSS โดยสัญชาติเมียนมามี 9 ศูนย์ คือ 1.จังหวัดสมุทรสาคร 2 แห่ง 2.สมุทรปราการ 3. ตาก 4. เชียงราย 5. เชียงใหม่ 6. นครสวรรค์ 7. ระนอง 8. สงขลา สัญชาติกัมพูชา 3 แห่ง คือ 1. กรุงเทพมหานคร 2. ระยอง 3. สงขลา และลาว 1 แห่งที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งในแต่ละศูนย์จะมีการพิสูจน์สัญชาติโดยประเทศต้นทาง สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจลงตรา (VISA) กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสุขภาพ/ประกันสุขภาพ กระทรวงแรงงาน ออกใบอนุญาตทำงาน
ทั้งนี้ ในแต่ละศูนย์ฯ สามารถดำเนินการพิสูจน์สัญชาติได้ 600-1,200 คน/วัน อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานมิได้นิ่งนอนใจ ได้จัดให้มี CEO ประจำศูนย์ทุกศูนย์ เพื่อจัดระบบคิว อำนวยความสะดวกในการดำเนินการ ขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้สะดวกรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอคิวนาน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาดำเนินการ และขจัดปัญหาการเรียกรับหัวคิว ทั้งยังประสานทุกหน่วย รวมทั้งประเทศต้นทางเพื่อให้การพิสูจน์สัญชาติแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2561