คืนเงิน 72 ล้าน! ปมทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมหาสารคาม

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 ม.ค.61 ที่ห้องคอมเวนชั่นฮอลล์ โรงแรมวสุมหาสารคาม ได้มีการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2560 ของสมาชิกสหกรออมทรัพย์ครูมหาสารคาม จำกัด โดยมีนายอำนวย ปะติเส ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมหาสารคาม จำกัด เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยตัวแทนครูที่เป็นสมาชิกเข้าร่วมกว่า 500 คน

ก่อนการประชุม นายอำนวย ปะติเส ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมหาสารคาม จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงการประชุมในครั้งนี้ว่า เป็นการประชุมในวาระปกติโดยทั่วไปของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมหาสารคาม จำกัด ในช่วงสิ้นปี ซึ่งจะมีการรายงานการดำเนินงานและรับรองการทำงานประจำปี รวมทั้งดูขั้นตอนและทิศทางการทำงานในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งมีเรื่องที่จะต้องทำความเข้าใจกับที่ประชุม นั้นคือการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา มีการดำเนินการเป็นอย่างไร เช่น เรื่องงบดุล การเงิน และการปฏิบัติงาน ซึ่งจะต้องผ่านการรับรอง นอกจากนี้ จะมีการให้ความเห็นชอบในการอนุมัติงบและแผนที่จะต้องดำเนินการในปีต่อไปด้วย โดยจะมีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมในครั้งนี้จะมีการนำเรื่องการบริหารงานของกรรมการชุดเดิมที่นำเงินของสมาชิกไปซื้อประกันชีวิตกับบริษัทประกันชีวิตที่ไม่มีตัวตน จนเกิดความเสียหายกว่า 44 ล้านบาทเข้าที่ประชุมด้วยหรือไม่ นายอำนวย ตอบเพียงสั้น ๆ ว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ในกระบวนการหมดแล้ว และเมื่อคณะกรรมการชุดของตน ซึ่งเป็นคณะกรรมการชั่วคราวเข้ามารับผิดชอบ กระบวนการทั้งหมดก็ถูกส่งต่อไปในระบบปกติ จึงไม่จำมีความจำเป็นที่จะนำเรื่องดังกล่าวเข้ามาพูดคุยในที่ประชุม โดยการเข้ามาทำงานในฐานะคณะกรรมการชั่วคราว ก็ไม่ได้มีความหนักใจ ในทางตรงกันข้ามกลับสบายใจมากกว่า เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นจะได้เรียบร้อยโดยเร็ว

ทั้งนี้ เมื่อเข้าสู่ช่วงของการประชุม ในวาระแรก นายอำนวย ประธานในที่ประชุม ได้กล่าวต่อที่ประชุมเกี่ยวกับการปรับตัวของสหกรณ์ฯ เพื่อเข้าสู่การเป็นสถาบันทางการเงิน โดยเปรียบเทียบการสถานการณ์ของเศรษฐกิจ กระทั่งมีการประชุมในวาระที่ 2 เรื่องการรับรองรายงานการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2560 ได้มีผู้แทนซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์ ทำหนังสือทักท้วงก่อนที่จะมีการรับรองการรายงาน เกี่ยวกับการบริหารจัดการกองทุนสวัสดิการสมาชิก (ก.ส.ส.) โดยในรายงานการประชุมในวันดังกล่าว ระบุว่า คณะกรรมการได้บันทึกว่ามีมติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ ให้คณะกรรมการดำเนินการทั้งคณะและผู้จัดการ รวม 16 คน รับผิดชอบความเสียหายในวงเงิน 72,876,000.00 บาท เมื่อครบกำหนดวันที่ 30 มิ.ย.2561 ซึ่งผู้แทนที่เป็นสมาชิกทักท้วงว่า ในวันที่มีการประชุมไม่ได้มีการลงมติใดๆ เพียงแต่คณะกรรมการยอมรับว่า คณะกรรมการได้ทำผิดพลาดจนเกิดความเสียหาย ยอมรับผิดชอบทุกความเสียหายและจะนำเงินมาชดใช้ จำนวน 72,786,000.00 บาท ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนสหกรณ์สั่งให้คืนเงิน

ประเด็นต่อมาที่มีการทักท้วง คือ การบริหารจัดการเงินกองทุนสวัสดิการ โดยในรายงานการประชุมระบุว่า มีมติด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ ให้คณะกรรมการดำเนินการทั้งคณะและผู้จัดการ รวม 16 คน รับผิดชอบทุกความเสียหายในวงเงิน 23,898,000 บาท เมื่อครบกำกนดวันที่ 30 มิ.ย.2561 ซึ่งผู้ทักท้วงระบุว่า ไม่ได้มีการลงมติใดๆ เป็นเพียงประธานในที่ประชุมยอมรับว่าผิดทุกความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยจะชดใช้เป็นเงิน 23,898,000 บาท ตามคำสั่งนายทะเบียน และประเด็นที่สามที่มีการทักท้วง คือ เรื่องการบริหารงบประมาณ ประจำปี 2560 ที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ข้อ 2.4 การทำประกันชีวิตกลุ่มสมาชิก จำนวน 44,347,984 บาท ซึ่งในรายงานการประชุมดังกล่าวระบุว่า มีมติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ ให้คณะกรรมการดำเนินการทั้งคณะและผู้จัดการ รวม 16 คน รับผิดชอบสมาชิกทุกคนที่เสียชีวิต ในวงเงินรายละ 100,000 บาท ทุกราย ซึ่งผู้ทักท้วง ทักท้วงว่า ไม่มีการลงมติในเรื่องนี้ เป็นเพียงประธานในที่ประชุมยอมรับและจะนำมาชดใช้ทุกความเสียหาย โดยทั้ง 3 ประเด็น ที่มีผู้ทักท้วง ประธานในที่ประชุมได้ให้คณะทำงานส่งเรื่องให้เลขานุการส่งรายละเอียดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรับรองในการประชุมดังกล่าวตรวจสอบ และปรับปรงแก้ไขให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง และให้นำมาพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในระหว่างการประชุมดำเนินไป ได้มีผู้แทนครูลุกขึ้นแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับความไม่โปร่งใสของการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะตัวเลขจำนวนสัญญากู้ที่ไม่ตรงกันระหว่างฝ่ายดำเนินการ และฝ่ายตรวจกิจการ ซึ่งจะมีการตรวจสอบและรายงานให้ที่ประชุมรับทราบในครั้งต่อไป