เร่งระบายน้ำ 'เขื่อนแก่งกระจาน'

เมื่อวันที่ 30 กรกฏาคม 2561 นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าศูนย์ปฎิบัติการน้ำอัจฉริยะ หรือ swoc ติดตามสถานการณ์น้ำจากฝนตกหนัก ตลอด 24 ชม.ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศพร้อมจัดวางกำลังคนในพื่นที่ ทั้งนี้จากการติดตามสภาพฝนในพื้นที่ลุ่มน้ำยังตอนบน จ.กาฬสินธุ์ พบว่ายังคงมีฝนตกหนักในพื้นที่ อ.นาคู วัดได้ 95 มิลลิเมตร(ม.ม.) อ.เขาวง วัดได้ 65.5 ม,ม. อ.สมเด็จ วัดได้ 65 ม.ม. อ.ห้วยผึ้ง 63 ม.ม. และ อ.นามน 53.5 ม.ม. ส่งผลให้ยังคงมีน้ำหลากไหลเข้าแหล่งน้ำและทางน้ำธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น ระดับน้ำในลำน้ำยังตอนบน ที่สถานี E.54 อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ สูงกว่าตลิ่ง 0.07 เมตร อัตราการไหล 552 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังมีฝนตกในพื้นที่

ส่วนในพื้นที่ตอนล่างที่สถานี E.92 อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.83 เมตร อัตราการไหล 568 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในอัตราประมาณ 2 เซนติเมตร/ชั่วโมง น้ำที่ล้นตลิ่งฝั่งซ้ายบริเวณที่เคยท่วมพื้นที่นอกเขตชลประทาน ประมาณ 5,000 ไร่ ได้ไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่าง ก่อนจะไหลลงสู่ลำน้ำยังช่วงปลายตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชลประทาน ในพื้นที่ได้มีการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเสริมระดับพนังกั้นน้ำยังอยู่ในจุดที่มีความเสี่ยงที่ตรวจพบ และจนถึงขณะนี้กรมชลประทาน ยังคงเตรียมพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็นรถแบ็คโฮ 6 คัน รถบรรทุก 8 คัน ที่พร้อมจะเข้าไปปฏิบัติงาน ในพื้นที่บริเวณจุดเสี่ยงที่มีน้ำปะทะพนังกั้นน้ำ ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนเดิม

ในส่วนของเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ปัจจุบัน(30 ก.ค. 61) มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 1,137 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 57 มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ 53 ล้าน ลบ.ม. กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 6 จะประชุมกับผู้เกี่ยวข้อง เพื่อวางมาตรการในการเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนลำปาว เนื่องจากมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างสูง

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนสภาวะฝนตกหนัก ช่วงวันที่ 29-31 ก.ค.61 สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้กำชับให้ทุกโครงการ ติดตาม เฝ้าระวัง รวมไปถึงให้ตรวจสอบอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทุก 3 ชั่วโมง และอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำไหลเข้าเฉลี่ยในเกณฑ์สูงวันละ 2 ครั้ง ตามมาตรการที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับสถานการณ์น้ำที่เขื่อนแก่งกระจาน ที่มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำค่อนข้างมาก ทำให้ต้องวางมาตรการในการระบายน้ำออกจากอ่างฯ ปัจจุบัน(30 ก.ค. 61) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 647 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 91 กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 14 ได้วางแผนการบริหารจัดการน้ำ โดยจะยังคงการระบายน้ำในอัตรา 100 ลบ.ม./วินาที พร้อมกับติดตั้งกาลักน้ำขนาด 12 นิ้ว จำนวน 10 ชุด ช่วยระบายน้ำได้ 0.26 ล้าน ลบ.ม./วัน

ทั้งนี้ ได้แจ้งไปยังจังหวัดเพชรบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ด้านท้ายเขื่อนแก่งกระจานให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นไว้บนที่สูงแล้วก่อนหน้านี้ ในส่วนของเขื่อนเพชร ที่รับน้ำต่อมาจากเขื่อนแก่งกระจาน กรมชลประทาน ได้ควบคุมการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ในอัตรา 60 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำอีกส่วนหนึ่งจะระบายผ่านคลองส่งน้ำสายใหญ่ 4 สาย และปรับการส่งน้ำเข้าสู่ระบบชลประทาน 50 ลบ.ม./วินาที ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร ชุมชนเมือง และพื้นที่เศรษฐกิจด้านท้ายเขื่อนเพชร แต่อย่างใด