'หนุ่มหัวร้อน' ต่อยสาวพนง.ร้านโทรศัพท์เข้าพบตร. อ้างอารมณ์ชั่ววูบ
"หนุ่มหัวร้อน" ต่อยสาวพนง.ร้านโทรศัพท์เข้าพบตร. เจ้าตัวยกมือไหว้ขอโทษ อ้างอารมณ์ชั่ววูบ-ป่วยซึมเศร้า ยันไม่ได้อยู่เหนือก.ม.
จากกรณีที่มีผู้แชร์แชร์คลิปชายหนุ่มหัวร้อนขี้โมโหก่อเหตุทำร้ายร่างกายพนักงานหญิงสาวภายในร้านขายโทรศัพท์ ห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้า เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยชาวเน็ตมีการขุดคุ้ยถึงสาเหตุที่ผู้ก่อเหตุนำโทรศัพท์ไปขอเปลี่ยนเป็นเงินคืนเนื่องจากไม่สามารถสแกนใบหน้าได้ และที่สำคัญยังมีผู้ระบุว่า ชายดังกล่าวเป็นบุตรของข้าราชการระดับสูง ทำให้สังคมประนามกันเป็นอย่างมากนั้น
ความคืบหน้า ที่ สน.บางยี่ขัน เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 20 ส.ค. 61 นายกฤษฎีพันธุ์ หรืออาม คิดจิตต์ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาคดีนี้ได้นัดหมาย น.ส.สายใจ ตรีเนตร อายุ 30 ปี ผู้เสียหายซึ่งถูกทำร้ายร่างกาย เข้าพบ พ.ต.ท.ธีระ เรืองเนตร รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางยี่ขัน เจ้าของคดีเพื่อไกล่เกลี่ยคดีความที่เกิดขึ้น โดยทั้ง 2 ฝ่ายเดินทางมาพร้อมกับทนายความของตัวเอง และใช้เวลาพูดคุยกันต่อหน้าพนักงานสอบสวน นาน 1 ชั่วโมง ก่อนที่ น.ส.สายใจ จะเดินทางกลับโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด
โดยด้าน นายกฤษฎีพันธุ์ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ตนต้องขอโทษสังคมกับสิ่งที่กระทำลงไป เนื่องจากอารมณ์ชั่ววูบ และเป็นพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงที่ไม่ถูกต้อง ยืนยันตนไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย พ่อกับแม่ตนเลี้ยงตนมาเป็นอย่างดี แต่ผิดที่ตนเองไม่ยอมเชื่อฟังท่านสักเท่าไหร่ เมื่อวานนี้ที่ตนทำลงไปเพราะคุมสติยั้งคิดไม่ได้ และที่สำคัญตนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ต้องกินยารักษาตัวเองมานาน 6 ปีแล้ว ตอนนี้โทรศัพท์เครื่องนั้นตนได้ขายทิ้งไปแล้ว ส่วนฝ่ายผู้เสียหายก็ได้กราบขอโทษไปอย่างจริงใจ และชดใช้ค่าทำขวัญไปให้จำนวนหนึ่ง ซึ่งคู่กรณีก็ยังตักเตือนขอให้ตนใช้สติให้มากอย่าได้ไปก่อเหตุอย่างนี้กับใครได้อีก
มีรายงานว่า สำหรับคดีนี้หลังจากสายตรวจ สน.บางยี่ขัน ได้รับแจ้งเหตุ ก็เดินทางไปเชิญคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาให้การกับพนักงานสอบสวนตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ซึ่งทางนายกฤษฎีพันธุ์ ก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน และยังกล่าวขอโทษคู่กรณีต่อหน้าพนักงานสอบสวนไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน เบื้องต้นทาง น.ส.สายใจ ก็ได้เดินทางไปตรวจร่างกายที่ รพ.ศิริราช ไม่พบบาดแผลใดๆ ทางพนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อความทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่กายและจิตใจ มีโทษปรับเป็นเงิน จำนวน 5,000 บาท ส่วนนายกฤษฎีพันธุ์ นั้นได้มอบเงินสด จำนวน 50,000 บาท ให้กับ น.ส.สายใจ และยกมือไหว้ขอโทษก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกันกลับ