หนุ่มซิ่งกระบะชนจุดบริการกู้ภัยดับ เข้ามอบตัว ยันไม่ได้เมาที่หนีเพราะตกใจ
คนขับกระบะซิ่งชนจุดบริการประชาชน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ จนอาสากู้ภัยฯ เสียชีวิต เข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เมาที่หลบหนีเพราะตกใจและกลัวถูกรุมทำร้าย พร้อมขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ด้านเจ้าของรถเผยนั่งมาในรถจริงแต่ไม่ได้เป็นคนขับวอนสังคมเห็นใจ ลั่นเสียใจไม่อยากให้เกิด เตรียมเดินทางไปขอขมาศพผู้เสียชีวิต
(1ม.ค.62) ความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุรถยนต์ ยี่ห้อ เชฟโลเลต สี่ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กร-4314 พระนครศรีอยุธยา พุ่งชนจุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ ของมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์จุดลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ที่ตั้งเต็นท์ให้บริการประชาชน บริเวณใกล้กับสามแยกบ้านหนองคู ถนนสายลำปลายมาศ–ชุมพวง ต.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. คืนวันที่ (30 ธ.ค.) ที่ผ่านมา จนทำให้เครื่องมือปฐมพยาบาล เต็นท์ เสาไฟฟ้าส่องสว่าง โรงจอดรถบ้านใกล้เคียงได้รับความเสียหาย และเป็นเหตุให้นายสมชาย สายกระสุน หรือโชค อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นอาสากู้ภัยของมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ประจำจุดบริการดังกล่าวเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ญาติได้รับศพไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.นครราชสีมา แล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา10.00น. วันนี้ (1ม.ค.) นายณัฐพงษ์ มาศงูเหลือมอายุ32ปี คนขับรถกระบะคันดังกล่าวได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพ.ต.ท.นภดล แก้วชนะ รอง ผกก.(สอบสวน) หัวหน้างานสอบสวน สภ.ลำปลายมาศ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โดยได้ให้การกับเจ้าหน้าว่า สาเหตุที่หลบหนีเนื่องจากตกใจและกลัวจะถูกรุมทำร้ายร่างกาย จึงตัดสินใจกลับบ้านไปตั้งหลักก่อน แต่ยืนยันว่าไม่ได้เมา ขณะที่จากการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์เบื้องต้น ก็ไม่พบระดับแอลแอฮอล์ในร่างกายแต่อย่างใด โดยเบื้องต้นถูกแจ้ง2ข้อหา คือ“ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย,ไม่หยุดช่วยเหลือหรือไม่แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้เคียงในทันที”
จากการสอบถามนายณัฐพงษ์ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ให้ข้อมูลว่า ในวันเกิดเหตุนั่งมาในรถด้วยกันทั้งหมด3คน คนตนเองซึ่งเป็นคนขับ กับเจ้าของรถ และเพื่อนอีกคน ส่วนรถกระบะคันดังกล่าวเป็นรถของเพื่อนที่นั่งมาด้วยกัน แต่เพื่อนที่เป็นเจ้าของรถมีอาการมึนเมาขับไม่ไหว จึงขอให้ตนเองช่วยขับให้ ซึ่งตนไม่ดื่มและไม่ได้เมาจึงขับให้ เพื่อจะพากันมุ่งหน้ากลับบ้านที่ต.หินโคน แต่พอทางถึงสามแยกก่อนจะถึงจุดเกิดเหตุได้เร่งแซงรถคันหน้า ซึ่งบริเวณนั้นถนนเป็นคลื่นและเป็นทางโค้งพอดีรถจึงเกิดเสียหลักบังคับไม่อยู่ จึงได้พุ่งชนเต็นท์บริการประชาชนดังกล่าว ซึ่งหลังจากชนก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก จึงวิ่งหนีออกจากรถไปก่อน สักพักก็วิ่งกลับมาจุดเหตุอีกครั้งเพื่อจะมาดูเพื่อนที่ยังติดอยู่ในรถ แต่พอมาถึงเห็นกู้ภัยอยู่หลายคนก็กลัวว่าจะถูกรุมทำร้าย จึงตัดสินใจหนีไปตั้งหลักก่อน ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าจะมีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต กระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีกู้ภัยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว จึงตัดสินใจเข้ามามอบตัว แต่ยืนยันที่หลบหนีไม่ได้เมาแค่ตกใจและกลัวเท่านั้น ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้กล่าวขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย
ด้านนายศราวุธ ขวัญกลาง อายุ 32 ปีเจ้าของรถซึ่งเดินทางมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.ลำปลายมาศเช่นกัน เล่าว่า วันเกิดเหตุได้เดินทางมาจากจ.พระนครศรีอยุธยา ตอนแรกก็ขับมาเองแต่ด้วยความที่ขับมาทางไกลจึงเกิดอาการอ่อนเพลีย และง่วงนอน จึงให้นายณัฐพงษ์ เพื่อนที่นั่งมาในรถด้วยกันช่วยขับให้เพราะเห็นว่าใกล้จะถึงบ้านแล้ว จากนั้นตนก็เผลอหลับไปมารู้สึกตัวอีกทีหลังจากเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนขับจึงอยากวอนขอความเห็นใจจากสังคมด้วย เพราะตอนนี้ตนถูกกระแสโซเชียลต่อมาโจมตีอย่างหนัก เพราะเข้าใจผิดว่าตนเองเป็นคนขับ ซึ่งส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจและไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าตนเองจะไม่ได้ขับแต่ในฐานะที่เป็นเจ้าของรถ ก็ตั้งจะเดินทางไปร่วมงานศพ เพื่อกราบขอขมาศพผู้เสียชีวิต และขอโทษครอบครัวของผู้สูญเสียด้วย
นายศราวุธ ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่กังวลคือหลังจากมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พอขอดูเอกสารคำให้การของตัวเอง เจ้าหน้าที่กลับไม่ยอมให้ดู จึงกลัวว่าจะมีการบิดเบือนไปจากที่ตนเองให้การ ก็อยากจะขอความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าวด้วย