'อนุทิน' ลั่นเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ส่งผู้สมัคร ภท. ครบ 350 เขต
"อนุทิน" ลั่นเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ส่งผู้สมัคร ภท.ครบทั้ง 350 เขต มั่นใจการเมืองเล่นแบบแฟร์ๆ ยัน ภท.ไม่เป็นอุปสรรคสร้างปัญหาให้บ้านเมือง น้อมรับทุกคำตัดสินของปชช.
เมื่อวันที่ 3 ม.ค.62 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า “ในเบื้องต้นทางพรรคจะส่งผู้สมัครส.ส.ครบ 350 เขต และส่งคนที่เหมาะสมที่สุด จะไม่ส่งคนที่ไปเก็บกวาดคะแนน หยิบเล็กหยิบน้อยมาแล้วให้มีจำนวนมากเพื่อที่จะมาอ้างว่าเอามาคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ เราจะไม่หลอกประชาชน ส่วนที่มีคนพยายามบอกว่า พรรคภูมิใจไทยจะไปจับมือกับฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ แต่ผมคิดว่าเราอาจจะเป็นแกนนำก็ได้เพราะเราส่ง 350 เขต มันพิสูจน์แล้วว่าเรามีความพร้อมพอสมควร”
ซึ่งได้กล่าวถึงความพร้อมของพรรคต่อว่า การเลือกตั้งตามโรดแม็พ วันที่ 24 ก.พ.62 นี้ว่า เราพร้อมมานานแล้วเพราะคิดว่าการเลือกตั้งควรจะเกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเราไม่ได้เป็นผู้กำหนดการเลือกตั้ง ดังนั้นสิ่งที่เราจะทำได้คือเรื่องความพร้อมของเรา ตอนนี้พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อม จะเลือกตั้งเมื่อไหร่เราก็พร้อม ซึ่งตอนนี้ทางพรรคภูมิใจไทยได้เคาะผู้สมัคร ส.ส.ไว้หมดแล้ว รอเพียงการประกาศพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้งส.ส.เท่านั้น เนื่องจากผู้ที่มีคุณสมบัติตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มีพื้นที่ชัดเจน และผ่านเกณฑ์การคัดเลือกของพรรคแล้ว ตอนนี้ก็รอคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครส.ส.ทำการเคาะครั้งสุดท้ายก่อนเสนอให้ตนในฐานะหัวหน้าพรรคลงนามต่อไป
และกล่าวต่ออีกว่า คิดว่าการเมืองในปีนี้จะมีความชัดเจนขึ้นทำให้ประเทศไทยเป็นที่น่าเชื่อถือเป็นที่มั่นใจของประชาคมโลก หากมีการเลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้นภายในระยะเวลาตามโรดแม็พ ซึ่งก็ว่ากันตามแฟร์ๆ ตนก็เห็นทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และผู้ที่เกี่ยวข้องพยายามทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นตามตารางเวลาที่ได้วางแผนเอาไว้ ดังนั้นต้องขอขอบคุณท่านเหล่านั้น การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องถือว่าในทางการแข่งขันไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบใคร ไม่ได้เลือกตั้งท่ามกลางความขัดแย้งขั้วใดขั้วหนึ่ง เป็นการเลือกครั้งที่ทุกคนอาสาสมัครลงมาต่อสู้ ไม่มีพรรคไหนถอนตัวจากการเลือกตั้ง ไม่มีพรรคไหนที่บอกว่าไม่พอใจในบทบัญญัติต่างๆตามกฎหมายและก็ถอนตัว ก็ถือว่าการเลือกตั้งเที่ยวนี้ทุกคนอาสาเข้ามาแข่งขัน
ดังนั้นก็ต้องยอมรับผลลัพธ์ที่จะออกมาบนความตัดสินใจของประชาชน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะถ้าเราไม่ยอมรับผลการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ก็เท่ากับว่าเราไม่เล่นตามกติกา และเราไม่เชื่อประชาชน ซึ่งเป็นผู้ตัดสินอนาคตทุกเรื่องของเรา ตรงนี้มันทำไม่ได้ เราต้องยอมรับว่าการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนนั้นคือเสียงสวรรค์ เสียงสูงสุดเป็นทิศทางที่พวกเราจะเดินไปทางไหน นายอนุทินกล่าว
แล้วเมื่อถูกถามว่า จากสถานการณ์วันนี้ประเมินว่าพรรคจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบว่า ไม่ประเมิน เพราะประเมินไปก็เท่ากับเราไปตีกรอบและไม่เคารพเสียงของประชาชน ได้เท่าไหร่ก็คือคำตัดสินใจของท่านเหล่านั้น พรรคภูมิใจไทย น้อมรับทุกๆคะแนน จะแปรการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนที่ผ่านออกมาในรูปแบบของคะแนนที่มอบความไว้วางใจให้กับพรรคภูมิใจไทย และรับรองว่าตนแปรถูกและก็จะเดินไปในทิศทางที่ท่านเหล่านั้นต้องการ
ทั้งนี้หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้กล่าวว่า "ในเมื่อทุกคนยอมรับกติกาเหล่านี้ได้ไม่มีใครได้เปรียบใคร ไม่มีความขัดแย้งแล้วลงมาเลือกตั้งแข่งขันกัน แบบแฟร์ๆ ผมก็เชื่อว่าบ้านเมืองหลังการเลือกตั้งก็น่าเข้าสู่ความสงบสุข และพรรคภูมิใจไทยยืนยันได้เลยว่าด้วยอำนาจของหัวหน้าพรรคจะไม่เป็นอุปสรรค และทำให้บ้านเมืองเจริญไปข้างหน้า แก้ปัญหาปากท้องให้ชาวบ้านได้สำเร็จ และไม่เป็นพรรคที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ในทางกลับกันก็พร้อมทำหน้าที่เป็นทางออกให้บ้านเมืองไปสู่ความสงบเรียบร้อยมากที่สุด" ด้วย