นายกฯ วางพวงหรีดเคารพศพ 'ปรีชา' ที่เสียชีวิตระหว่าง 'ปาบึก' ถล่ม

เมื่อวันที่ 7 ม.ค.62 เวลา 08.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. พร้อมคณะประกอบด้วยพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายกฤษฎา บุญราช เกษตรและสหกรณ์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 ถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีจะใช้เวลาตลอดทั้งวันปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยและติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปเร่งฟื้นฟูเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุพายุโซนร้อนปาบึก พัดถล่มพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งนครศรีธรรมราชถือเป็นจังหวัดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด

จุดแรกนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปวางพวงหรีดเคารพศพนายปรีชา จันทร์แก้ว อายุ 69 ปีที่เสียชีวิตจากเหตุพายุโซนร้อน ระหว่างทำหน้าที่จิตอาสาช่วยเหลือชาวบ้าน และพบญาติผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 7 ตำบลคลองน้อย อำเภอปากพนัง

โดยนายกฯ ได้เเสดงความเสียใจและกล่าวให้กำลังใจกับนางอำนวย จันทร์แก้ว ภรรยาของผู้เสียชีวิต และครอบครัว โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบเงินช่วยเหลือและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลครอบครัวเพราะถือเป็นผู้ที่ทำประโยชน์ ยอมเสียสละชีวิตของตนเองเพื่อส่วนรวม ทั้งนี้

นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวทักทายและให้กำลังใจกับผู้ประสบภัยในพื้นที่ด้วยโดยย้ำว่ารัฐบาลกำลังเร่งที่จะเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยา ความเสียหายระดมกำลังพลจากกองทัพและหน่วยราชการอื่นๆซ่อมแซมความเสียหายอย่างเร่งด้วย โดยได้สั่งการให้ท้องถิ่นเร่งสำรวจความเสียหายให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน สำหรับระบบสาธารณูปโภคต่างๆ จะต้องซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ส่วนบ้านเรือนประชาชนที่เสียหายทั้งหลังจะต้องซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

นายกฯ กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรู้สึกเป็นห่วงผู้ประสบภัยทุกคน การมาครั้งนี้จึงต้องการมาให้กำลังใจ ยืนยันว่าจะดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โอกาสนี้ยังได้ชี้แจงเกี่ยวกับราคายางพาราที่ตกต่ำว่ารัฐบาลมีมาตรการในการดูแลเกษตกร แต่คงไม่สามารถทำให้ราคายางสูงตามที่ทุกคนหวังได้ เนื่องจาก ราคายางพาราในตลาดโลกตกต่ำและมีปริมาณยางในตลาดมาก ขณะนี้ราคายางในประเทศไทยยังถือว่าสูงกว่าบางประเทศ จึงอยากให้ทุกคนอดทน ขณะที่ภาคการประมงย้ำว่าขอให้ชาวประมงปฎิบัติตามกฎหมายไอยูยู รัฐบาลเข้าใจถึงความเดือดร้อนของชาวประมงพื้นบ้านที่ได้ผลกระทบจึงจะหามาตรการเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งนี้ขอร้องผู้ได้รับความเดือดร้อนในอาชีพอย่าออกมาประท้วง เพราะรัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ปัญหาให้อยู่ และขออย่ารับฟังข้อมูลที่บิดเบือน

จากนั้น นายกฯ จะเดินทางไปยังสามแยกเนินตาขำตำบลบางพระ มอบถุงยังชีพ ให้ผู้ประสบภัยและตรวจสภาพความเสียหายบริเวณแหลมตะลุมพุก นายกรัฐมนตรียังจะเดินทางไปที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ อำเภอปากพนัง เยี่ยมผู้ประสบภัยและนักเรียนของโรงเรียน พร้อมกับกล่าวให้กำลังใจประชาชน ที่ประสบอุทกภัยด้วย จุดสุดท้าย นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปยังอำเภอเมืองนครศรีธรรมราชตรวจเยี่ยมการซ่อมสร้างบ้านเรือนที่รับความเสียหายและจะลงเรือกู้ภัยไปยังพื้นที่หมู่ 4 ตำบลท่าไร่มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยที่อาศัยอยู่บริเวณริมคลองปากนครก่อนจะเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯในเวลา 17.30 นาที